xs
xsm
sm
md
lg

“สมเกียรติ” ชำแหละวิชามาร “ระบอบแม้ว” ครอบงำสื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“สมเกียรติ” เย้ย “หัวโจก นปช.” อ้างไม่มีขนคนร่วมงาน แต่กลับมีรถบัสมาเป็นพันคัน แถมมีข่าวจ่ายค่าจ้างหัวละ 500 แฉระบอบทักษิณซื้อ-แทรกแซง-คุกคามสื่อ จนสื่อเมืองไทย 90 เปอร์เซ็นต์สยบยอม และกลายเป็นที่แถลงข่าวแห่งความเท็จ ชี้ไม่ใช่ที่รวมแห่งความจริงอย่างที่ควรเป็น

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

เวลาประมาณ 22.50 น.วันที่ 2 พ.ย. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า การก่อนชุมนุมของ นปช.ที่สนามรัชมังคลากีฬาสถาน 3 วัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ผู้จัดรายการความจริงวันนี้ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าจะไม่ให้ใครขนคนมาร่วมงานอย่างแน่นอน เพราะต้องการแฟนพันธุ์แท้ไว้ต่อสู้กับเผด็จการ แต่พอถึงวันจริงๆ กลับมีรสบัสนำคนมาเป็นพันๆ คัน และยังมีข่าวว่า นปช.ที่มาจากเชียงใหม่ได้รับค่าจ้างคนละ 500 บาทต่อวัน และในช่วง 5 วัน ผู้ร่วมชุมนุมแต่ละคนมีรายได้คนละ 2-3 พันบาท

หลังจากนั้น นายสมเกียรติได้กล่าวย้อนถึงการแทรกแซงสื่อในยุคระบอบทักษิณ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2544-2549 และมีอีกครั้งในปี 2551 ซึ่งวิธีการนั้น ปี 44-49 มีทั้งการซื้อตัวพิธีกรรายการโทรทัศน์ ซื้อคนเขียนคอลัมน์หนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ มีการให้งบโฆษณา ซึ่งทำให้หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เข้าไปพินอบพิเทา นอกจากนี้ มีการอุดหนุนเป็นเงินก้อนให้ทำหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับเพื่อเขียนข่าวเชียร์โดยเฉพาะ รวมทั้งการร่วมมือกับเจ้าของหนังสือพิมพ์เพื่อหาประโยชน์ร่วมกัน

นายสมเกียรติ กล่าวว่า การที่ระบอบทักษิณเข้าแทรกแซงสื่อ ทำให้สื่อกลายเป็นที่แถลงแห่งความเท็จแทนที่จะเป็นที่รวมแห่งความจริง เช่น การเสนอภาพข่าว “ตี๋” ถือระเบิด แทนที่จะหาข่าวความจริง แต่เอาความเท็จไปแถลง กรณีการกล่าวหาว่าน้องโบว์หนีบระเบิดไปเองก็เช่นกัน

นอกจากนั้น ยังมีวิธีการแทรกแซงโดยการส่งคนเข้าไปคุมเครือข่ายทีวีทุกช่อง สื่อไหนไม่เสนอข่าวตามใจ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือวิพากษ์วิจารณ์ก็จะจ้องเล่นงา เช่น กรุงเทพธุรกิจ เนชั่นสุดสัปดาห์ คมชัดลึก ที่มีการสั่งถอนโฆษณา และส่ง ป.ป.ง.ไปตรวจสอบทรัพย์สิน ส่วนไทยโพสต์ที่วิพากษ์วิจารณ์ทุกรัฐบาลทุกรัฐบาลก็ถูกถอนโฆษณาเช่นกัน รวมไปถึงหนังสือพิมพ์แนวหน้าที่มีคอลัมน์ของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่เขียนวิพาษ์วิจารณ์กรณ๊การซื้อตุลาการคดีซุกหุ้น มีการไปคุยกับเจ้าของหนังสือพิมพ์ให้ถอดคอลัมน์ดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จ

สำหรับผู้จัดรายการทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็จะถูกถอดรายการออกจากผังทันที โดยคนที่ถูกยกเลิกรายการมากที่สุดคือ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้แก่ รายการขอคิดด้วยคน ทางช่อง 9 รายการลานบ้านลานเมือง ช่อง 9 รายการเหรียญสองด้าน ช่อง 11 รายการตามหาแก่นธรรม ช่อง 11 และรายการวิเคราะห์ข่าวทางวิทยุ 107 เมกะเฮิตซ์

ส่วน นายสุทธิชัย หยุ่น ถูกถอดรายการเก็บตกจากเนชั่น ทางช่อง 9 นายสมเกียรติ อ่อนวิมล ถูกถอดรายการโลกยามเช้า ทางวิทยุ 99.50 เมกะเฮิตซ์ และมีการถอดรายการไทยแลนด รีวิว ทางวิทยุ 96.5 เมกะเฮิรตซ์ ของนางสาวอัญชลี ไพรีรัก และถอดรายการวิจารณ์เหตุการณ์บ้านเมือง ของนายโสภณ องค์การ ทางวิทยุเอฟเอ็ม 101

แม้กระทั่งผู้จัดรายการกรมประชาสัมพันธ์ที่อ่านข่าวอย่างเป็นกลางคนติดทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ไม่เชียร์รัฐบาลอย่างนางสาวฟองสมาน จามรจันทร์ ก็ถูกย้ายไปจังหวัดหนองบัวลำภู

ต่อมาเดือนกันยายน 2548 มีการถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ดำเนินรายการโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ออกจากช่อง 9 จึงเกิดรายการเมืองไทยสัญจรที่สวนลุมพินี ก่อนย้ายไปลานพระบรมรูปทรงม้าและกลายเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในที่สุด

นอกจากนี้ ระบอบทักษิณยังได้ปลดอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เอาคนที่มีคดีทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์จนถูกให้ออกจากราชการ โดยให้รับกลับเข้ามาใหม่ พอมาถึงยุคที่นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ก็มีการรื้อช่อง 11 เป็นเอ็นบีที และปลดอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนเก่าออก หลังจากนั้นมีการยกเลิกรายการวิทยุ เอฟเอ็ม 105 ของนายประจักษ์ มะวงษ์ อดีตบรรณาธิการเนชั่นสุดสัปดาห์

ที่สำคัญสื่อที่ระบอบทักษิณมุ่งจะเล่นงานอย่างหนัก คือ เอเอสทีวี มีความพยายามสั่งปิดเลย แต่ศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองชั่วคราว พอจะพ้นการคุ้มครองชั่วคราว รัฐบาลรุกจะปิดอีก นอกจากได้ห้ามเจ้าของสินค้ามาลงโฆษณาแล้ว แต่สุดท้ายศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินให้ถ่ายทอดได้ตลอดไป และสั่งปรับกรมประชาฯ ที่กลั่นแกล้งอีก 1.2 แสนบาท เมื่อโดนกลั่นแกล้งหนักเข้า เอเอสทีวีต้องอาศัยการสนับสนุนจากประชาชนจึงอยู่ได้

ระบอบทักษิณยังใช้วิธีการเข้าไปซื้อกิจการไอทีวี เมื่อเข้าไปก็ปลดพนักงาน โกงค่าสัมปทานจากรัฐ สรุปแล้วการแทรกแซงสื่อของระบอบทักษิณทำให้สื่อเป็นที่แถลงข่าวแห่งความเท็จ แทนที่เป็นทบวงแห่งความจริง ซึ่งนยายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ บอกว่า ขณะนี้สื่อ90 เปอร์เซ็นต์เป็นของทักษิณไปหมดแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น