“โลตัส” ยอมอ่อนถอนฟ้อง หัวหน้าข่าวธุรกิจการตลาด หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฐานหมิ่นเขียนบทความกล่าวหา บิ๊กบอสเทสโก้ โลตัส หลังไกล่เกลี่ยลงบทความชี้แจงจนโจทก์พอใจ ก่อนศาลสั่งให้ถอนฟ้อง ด้านสภาหนังสือพิมพ์ ยกให้เป็นอุทาหรณ์ในการเสนอแก้ไขกฎหมาย ระบุ การฟ้องร้องผู้สื่อข่าวโดยตรง เป็นการขู่สื่อกลัวที่จะเสนอความจริง
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องในคดีที่บริษัท เอก-ชัย ดิสทรีบิวชั่น จำกัด ผู้ประกอบกิจการห้างค้าปลีก “โลตัส” เป็นโจทก์ฟ้อง นางนงค์นาถ ห่านวิไล หัวหน้าข่าวธุรกิจการตลาด หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เป็นจำเลยฐานละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท โดยยื่นฟ้องไว้เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2551 กรณีเขียนคอลัมน์สังคมธุรกิจ มีข้อความหมิ่นประมาทผู้บริหารห้างสรรพสินค้าโลตัส
ทั้งนี้ โจทก์ยื่นฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ประกอบกิจการห้างเทสโก้โลตัส ทำการค้าปลีกจนมีชื่อเสียง บริจาคเงินให้การกุศล และการศึกษารับซื้อผลิตผลจากภาคเกษตรปีละ 2 พันล้านบาทและส่งออกสินค้าเกษตรปีละพันล้านบาท ส่วนจำเลยเป็นหัวหน้าข่าวธุรกิจและเจ้าของคอลัมน์สังคมธุรกิจ ใช้นามปากกา “คุณแอ๊ด” เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2551 จำเลยเขียนข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำนองว่า เจฟฟ์ อดัมส์ บิ๊กบอสเทสโก้โลตัส ขยายสาขา 130 แห่ง ลองนึกภาพเปิดห้างใหม่ทุก 3 วัน แบบนี้ไม่น่ารักเสียแล้ว สร้างความเดือดร้อนแก่ชุมชนท้องถิ่น เฮ้ยเทสโก้ไม่รักคนไทย ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ทำความเสียหายแก่ชื่อเสียทั้งที่โจทก์ทำมาหากินสุจริต โจทก์เสียหายในครั้งนี้ประเมินเป็นเงินได้ 100 ล้านบาท โจทก์เคยขอให้จำเลยยุติการเขียนข่าว แต่จำเลยยังกระทำต่อไปอีกจึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์
ต่อมาโจทก์จำเลยได้ไกล่เกลี่ยรอมชอมกันรวม 4 ครั้ง จำเลยตกลงยอมเขียนบทความชี้แจงในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ รวม 3 วัน จนเป็นที่พอใจของโจทก์ จากนั้นจึงนำข้อความที่เขียนชี้แจงมาแถลงศาล ศาลจึงมีคำสั่งว่า จำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงตามสัญญาจนเป็นที่พอใจโจทก์แล้ว จึงอนุญาตให้ถอนฟ้อง และให้คืนค่าธรรมเนียมศาล 190,000 บาท คืนแก่โจทก์ กับให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง ที่สะเทือนวงการสื่อมวลชนคดีหนึ่ง ที่สภาการหนังสือพิมพ์นำไปหยิบยกเป็นอุทาหรณ์ในการเสนอแก้ไขกฎหมาย หมิ่นประมาททางแพ่งและทางอาญา โดยเห็นว่า สื่อมวลชนเป็นผู้รักษาสิทธิเสรีภาพของประชาชน การเสนอข่าวที่ไปกระทบต่อเอกชนแล้วถูกเอกชนฟ้องเรียกค่าเสียหายนับร้อยล้านบาท โดยเลือกฟ้องตัวผู้สื่อข่าวโดยตรง เป็นการขู่ให้สื่อมวลชนกลัวที่จะเสนอความจริง พร้อมกับมีการเรียกร้องให้จับตาดูการพิสูจน์ความจริงในคดีนี้ แต่ในคดีที่สุดก็มีการถอนฟ้องไปเสียก่อน