“พิภพ” จวกโฟนอิน “แม้ว” ให้ข้อมูลด้านเดียว โยนความผิดให้ศาล กลบเกลื่อนความผิดตัวเอง ซ้ำดึงเบื้องสูงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งที่ตัวเองไม่ยอมามาสู้คดี ชำแหละนโยบายเพื่อรากหญ้า แท้จริงแค่สร้างภาพโฆษณาชวนเชื่อ เนื้อในคือความล้มเหลวและทุจริต เชื่ออดีตนายกฯ พร้อมสู้ยืดเยื้อ 5 ปี แต่หากสบช่องแตกหัก จะเปิดเกมรบทันที
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 1 พ.ย. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยพูดถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปลุกระดมคนรากหญ้า ที่สนามรัชมังคลากีฬาสถานว่า เขาโดนยัดเยียดให้ติดคุก รวมทั้งภรรยา เลขา คนสนิทก็ถูกจำคุกด้วย โดยไม่บอกเลยว่าตัวเองมีความผิดอะไรบ้าง เป็นการพูดข้อมูลด้านเดียว ปิดข้อมูลอีกด้านในเรื่องความผิดของตัวเอง
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณไม่บอกกับรากหญ้าที่สนามกีฬาว่า ที่ตัวเองไม่สู้คดี เพราะว่าข้อมูลที่เข้าสู่ศาลมัดแน่นจนไม่มีทางสู้คดีได้ แต่เขาไม่พูด ซ้ำยังกล่าวหาว่ากระบวนการยุติธรรมว่าไม่เป็นธรรม ก็ถามหน่อยว่า ถ้ากล่าวหาแบบนี้แล้ว กระบวนการยุติรรมเปิดโอกาสให้ทักษิณใช้ทนายสู้คดีได้ แต่ทำไมทักษิณไม่ต่อสู้ กลับไปกล่าวหาว่า กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรม ใครไม่เป็นธรรมกันแน่ แล้วเงิน 2 ล้านที่เลขาฯ และคนถือกระเป๋าเงินที่ตัวเองเอาไปวางไว้ที่ศาล ทักษิณก็ไม่อธิบายว่าทำไมเอาไปวาง เพื่อแทรกแซงศาลหรือเปล่า
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า บ้านเมืองจะสมานสามัคคีต้องมีความยุติธรรม จึงถามว่า ก่อนวันที่ 19 ก.ย. ในหลวงทรงออกมาชี้ว่า บ้านเมืองถึงวิกฤติที่สุดในโลก และทรงแนะให้ตุลาการภิวัฒน์ออกมาแก้ปัญหา แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะมาว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ยุติธรรมทำไม ซึ่งการที่นักวิชาการเรียกว่าตุลาการภิวัฒน์นั้น แสดงว่าในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความยุติธรรมใช่หรือไม่
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าครอบครัวของตัวเองถูกตั้งข้อหานั้น ทำไมไม่บอกว่าพฤติกรรมของตัวเองและภรรยาเป็นอย่างไรจึงทำให้ถูกตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดด้านเดียวในสิ่งที่ตนเองรับ แต่ไม่พูดอีกด้านในสิ่งที่ตัวเองกระทำ การถูกยึดทรัพย์ 7.2 หมื่นล้าน เพราะได้ขายเทมาเส็กโดยเลี่ยงภาษี โดยออกกฎระเบียบให้เลี่ยงภาษีได้ แล พล.ต.จำลองเคยเสนอว่าควรจะเสียภาษี 2 หมื่นล้าน หรือบริจาคการกุศล แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่นำพา เป็นการเอาทรัพยากรของชาติคือคลื่นโทรศัพท์มือถือ และวงโคจรดาวเทียมไปขายให้สิงคโปร์ แล้วเลี่ยงภาษี ทำให้พันธมิตรฯ สามารถจัดชุมนุมได้อย่างมโหฬาร
นอกจากนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าจะกลับหรือไม่กลับประเทศไทยอยู่ที่พระบารมีและพระเมตตานั้น เป็นการดึงเอาพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการเมือง และกระบวนการยุติธรรม การกลับหรือไม่กลับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนตัดสินใจเอง เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล แต่ พ.ต.ท.ทักษิณตัดสินใจที่จะไม่สู้คดี หนีไปอยู่อังกฤษ แต่วันนี้กลับบอกจะกลับหรือไม่กลับ อยู่ที่พระบารมี
นายพิภพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังอ้างอีกว่า ตนจะได้กลับประเทศขึ้นกับพลังประชาชนในระดับรากหญ้าด้วย ซึ่งเป็นการแอบอ้างว่าตนเองเป็นคนของประชาชนรากหญ้า ทั้งที่ไม่ได้ทำเพื่อคนยากคนจนอย่างแท้จริง พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าการยึดอำนาจวันที่ 19 ก.ย. ทำให้นโยบายเกี่ยวกับความยากจนถูกทำลายลง แต่ไม่บอกว่านโยบานั้น เป็นนโยบายหลอกลวงทำให้รากหญ้ามีหนี้สิน ไม่ขจัดความยากจน กองทุนหมู่บ้านก็กระตุ้นให้เกิดหนี้สินในชนบท ขณะที่นายทุนที่เป็นเจ้าของสินค้าโทรศัพท์มือถือ รถมอเตอร์ไซค์ รถปิ๊กอัพ ซึ่งอยู่ในเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่า การปฏิวัติวันที่ 19 ก.ย.ทำเพื่อขจัดคนเพียงคนเดียว และตามำมาด้วยการใช้กระบวนการที่ไม่ยุติธรรมนั้น นายพิภพกล่าวว่า ถ้าเราย้อนทบทวนดูจะพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณจนแต้มตั้งแต่การขายหุ้น 7.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าโกงกิน ไม่เสียภาษี บอวกว่าจะเปิดอภิปรายเพื่อชี้แจง แต่กลับยุบสภาหนี ไม่กล้าเผชิญความเป็นจริงในระบบรัฐสภา แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะอ้างอย่างไรว่ารักประชาธิปไตย
“ปากบอกว่าเชิดชูระบบรัฐสภา แต่ตัวเองกลับไม่ใช้สภาในการตรวจสอบ มีการปิดกั้นการอภิปราย แล้วสุดท้ายสั่งยุบสภา แล้วไม่พอ ยังให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อเอาเปรียบพรรคฝ่ายค้าน จนเป็นเหตุให้พรรคฝ่ายค้านถอนตัว พรรคไทยรักไทยจึงไปจ้างพรรคเล็กให้ส่งคนสมัคร เป็นเหตุให้ถูกยุบพรรคเพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง นี่คือการดำเนินงานทางการเมืองของทักษิณ พอผิดพลาดก็โทษคนอื่น และโทษรัฐประหาร ทั้งที่การรัฐประหารนั้นเกิดเพราะทักษิณต้องการยึดกองทัพ เอาคนของตัวเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพจึงเกิดการยึดอำนาจก่อน”
หลังจากนั้น นายพิภพได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหารากหญ้าของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า โดยภาพภายนอกดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาของรากหญ้าเป็นอย่างมาก แต่เมื่อดูจากที่สิ่งที่เขาทำกับรากหญ้านั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่าง การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ให้กับชาวบ้านสมัชชาคนจน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณลงมากินข้าวเหนียวกับชาวบ้านที่หน้าทำเนียบแล้วเชิญชาวบ้านไปคุยในห้องประชุมมีการถ่ายทอดสด และนำชาวบ้านขึ้น ฮ.ไปดูพื้นที่ แต่พอกลับมา ก็หักหลังชาวบ้าน ด้วยการให้ปิดประตูเขื่อนต่อไป
กรณีเหมืองแร่โปแตซที่อุดรธานี ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อปัญหาดินยุบ ดินเค็ม พ.ต.ท.ทักษิณก็แก้ปัญหาให้ชาวบ้านไม่ได้ก็ใช้วิธีให้ทุนต่างชาติถอนตัว และเอาทุนการเมืองเข้าไปทำแทน เห็นได้ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ให้ความสำคัญกับการรักษาทรัพยากร การที่โรงงานอุตสาหกรรมเข้าไปรุกล้ำชุมชน จึงไม้แปลกใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เห็นด้วยกับมาตรา 190 ที่กำหนดให้การทำสัญญากับต่างประเทศต้องผ่านสภา เขาถึงอยากแก้ เพราะไม่สนใจผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนและสภาพสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ยังปล่อยให้มีการขุดแร่ตะกั่วของนักการเมืองที่เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ ทำให้ชุมชนเป็นโรคเอ๋อกันหมด ชาวบ้านไปร้องเรียนรัฐบาลทักษิณ แต่ไม่ได้สนใจ ยังคงมีการปล่อยกากแร่ลงน้ำแควใหญ่เหนือเขื่อนศรีนรินทร์ ที่ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่สนใจกรณีโครงการโรงงานถลุงเหล็กของสหวิริยา จะปล่อยน้ำเสียและน้ำร้อนลงอ่าวซึ่งเป็นแหล่งวางไข่ของปลาทู ทำลายทรัพยากรในอ่าวไทย
ส่วนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นความคิดของนายแพทย์กลุ่มหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์ของ นพ.ประเวศ วะสี ซึ่งเตรียมจะทำโดยกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนจะมาเป็นรัฐบาล เพราะต้องการให้การรักษามีคุณภาพและราคาถูกลง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณฉวยโอกาสเอามาทำอย่างปูพรม ซึ่งทำให้ราคาถูกจริงแต่ขาดคุณภาพ หมอพยาบาลต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง โดยเอาเงินกองทุนสะสมของโรงพยาบาลออกมาใช้จ่ายให้มีคุณภาพดีขึ้น โดย พ.ต.ท.ทักษิณไม่จัดงบประมาณเพิ่มเติม
นายพิภพ กล่าวต่อว่า สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ชี้ให้เห็นว่าการฉกฉวยทางการเมืองเพื่อโฆษณาชวนเชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น อยู่ในระดับปรมาจารย์ เรื่องการปฏิรูปการศึกษาก็เช่นกัน มีการรับปาก นพ.เกษม วัฒนชัย ว่าจะให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเพื่อทำการปฏิรูปการศึกษา แต่พอเข้ามาแล้วกลับปล่อยให้นักการเมืองในสังกัดของตัวเองเข้ามาทำเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างและไม่พูดเรื่องการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเลย จน นพ.เกษมลาออกไป เพราะไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับการทุจริต ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณก็หลอกเรื่องตั้งโรงเรียนในฝันแล้วไม่ส่งงบประมาณไปให้จนครูใหญ่โรงเรียนแห่งหนึ่งต้องผูกคอตาย
พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบสร้างนโยบายหรูๆ แล้วลอยแพนโยบายนั้นจนล้มเหลว แต่ก็ยังเอามาโฆษณาชวนเชื่อ จนกระทั่งความล้มเหลวและการทุจิตในโครงการเหล่านั้นถูกปูดออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น ที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าตนเองทำให้รากหญ้ามีชีวิตดีขึ้นนั้นไม่จริง สลัมในกรุงเทพฯ ยังไม่ลด คนยังอพยพเข้ามาในเมือง สินค้าเกษตรยังถูกกดราคา ค่าแรงก็ไม่ขึ้น แต่กลุ่มทุนของทักษิณกลับรวยเอาๆ กลายเป็นกลุ่มทุนผูกขาดมากขึ้น
นายพิภพ กล่าวในตอนท้ายว่า การประกาศของ พ.ต.ท.ทักษิณที่สนามรัชมังคลาฯ ที่ว่าต้องขายทีมฟุตบอลเพราะไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว และกล่าวหาศาลว่ายุติให้ความเป็นธรรมนั้น ทำให้เชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต่อสู้อีกยาวนานอย่างน้อย 5 ปี ใน 5 ปีนี้ ถ้าสามารถรบเอาชนะได้ ก็จะรบแตกหักทันที แต่ถ้าจำเป็นต้องยืดเยื้อก็จะยืดเยื้อ เพื่อต่อต้านสถาบันทุกสถาบันให้อ่อนแอลง และจะกลับมาครองอำนาจ โดยจะยึดครองอำนาจรัฐให้นานที่สุด ให้ พรรคพลังประชาชนอยู่ในอำนาจนานที่สุด แม้มีปัญหาฆ่าประชาชน 7 ตุลาคม แม้มีคลิปหน้าเหมือนนายกฯ ก็ให้หน้าด้านอยู่ไป เพื่อใช้ทุจริตเงินงบประมาณ สะสมทุนเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป และจะเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถอดมาตรา 309 ออกไป เพื่อให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้