xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ปูดข่าวปลด “พัชรวาท” พ้น ผบ.ตร.ดัน “จงรัก” ขึ้นแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
“สนธิ” เผยคำทำนายการชุมนุมพันธมิตรนอกจากพลิกโฉมหน้าการเมืองในประเทศไทยแล้ว ยังส่งผลการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคด้วย ขณะเดียวกัน ปูดข่าวปลด “พัชรวาท” พ้น ผบ.ตร.แล้วดัน “จงรัก จุฑานนท์” ขึ้นแทน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

วันนี้ (31 ต.ค.) เวลา 21.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวบนเวทีที่ทำเนียบ กล่าวถึงข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วนำมาเปรียบเทียบย้อนหลังทำให้เห็นอะไรได้หลายอย่าง โดยยกตัวอย่างข่าวที่บอกว่า มี นางเยาวภา ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง ในขณะที่สามีของตัวเองยังเป็นนายกรัฐมนตรีก็สะท้อนให้เห็นว่า ในวันนี้ เหมือนกับว่าการบริหารบ้านเมืองในวันนี้อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว

นายสนธิ ยังได้ยกตัวอย่างอีกข่าวหนึ่งว่า มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก และเป็นพี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปลอนดอนไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อขอร้องไม่ให้ปลดน้องชายเขาออกจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว ตั้ง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นมาเป็นแทน ส่วนจะจริงหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าไม่จริงก็ต้องขอโทษด้วย

นายสนธิ กล่าวย้อนอดีตในสมัยรัฐบาลก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล พล.อ.ชาติ ชาย ชุณหะวัณ นายบรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายชวน หลีกภัย แม้จะมีการทุจริตบ้างแต่ก็ไม่ถือว่าเลวร้าย และที่สำคัญ พ่อหลวงกับแม่หลวงไม่มีใครกล้าแตะต้อง และไม่เคยเห็นคนทำร้ายราชบัลลังก์ จนกระทั่งมาถึงยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ

อย่างไรก็ดี นายสนธิ กล่าวว่า ในยุคแรกช่วงปี 2544-2546 ยังไม่ค่อยมีอะไร จนกระทั่งในปี 2547 เกิดความรู้สึกลืมตัว รู้สึกว่าชาวบ้านให้การสนับสนุน ไปไหนก็มีธงทรงพระเจริญปะปนไปด้วย เพราะมีขบวนการที่ต้องการให้เป็นนายกฯนานๆ จึงได้มีการเข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้ว และจากนั้นก็มีพิธีเสริมดวงชะตา มีขบวนการทำลายราชบัลลังก์ ดังนั้น เมื่อโยงอดีตจนปัจจุบันก็ทำให้บ้านเมืองมืดมน แต่ยังไม่มีใครเข้าใจจนกระทั่งเกิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปี 2549

จากนั้น นายสนธิ ได้เล่าเรื่องน่าประหลาดใจที่จู่ๆ มีชาวสิงคโปร์จำนวน 3 คน มาพบ และได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าตามศาสนาคริสต์ในนิกายที่พวกเขานับถือ โดยบอกเล่าถึงสิ่งที่เขามองเห็นถึงพระเจ้าอยู่หัวประดุจสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพิเศษที่สุดยิ่งกว่ากษัตริย์พระองค์ใดในโลก

นายสนธิ ยังเล่าว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯว่า นอกจากจะเกิดปรากฏการณ์เปลี่ยนแปลงในประเทศไทยเท่านั้นยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคด้วย

“แม้แต่คนต่างชาติยังเทิดทูนในหลวง มีแต่พวกสัตว์นรกเท่านั้น นักวิชาการบางคน ข้าราชการบางคน หรือทหารบางคนกลับไม่สนใจ แถมไอ้ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มันยังมาบอกว่าตอนนี้รัฐบาลจัดการเด็ดขาดกับพวกหมิ่นสถาบันแล้วขอให้โห่มันหน่อย” นายสนธิ กล่าว และว่า ที่บอกว่าถ้าเรารักในหลวงแล้ว เราอยู่บ้านก็จะเกิดการตื่นตัวแบบนี้หรือ พร้อมทั้งย้ำว่าการเมืองใหม่นั้นสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องมีเสถียรภาพ

นายสนธิ ย้ำว่า ในอนาคตอยากให้จบลงด้วยดี และตนเองอยากไปใช้ชีวิตอย่างสงบ อย่างไรก็ดี ชาวสิงคโปร์ที่บอกว่าเขามองเห็นอนาคตได้ บอกว่า ตนเองไม่มีได้ทำแบบนั้นได้ เพราะได้ให้สัจจะวาจาไว้แล้วว่าจะต้องทำหน้าที่รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก็ต้องทำหน้าที่นี้ต่อไปจนตาย แต่ตนเองยังย้ำเจตนา คือ ต้องการสร้างปัญญา คือ สัมมาปัญญา
กำลังโหลดความคิดเห็น