“สนธิ” ยกพระราชเสาวนีย์ เปรียบ “พันธมิตร” เหมือนพระโมคคัลลาน์ไล่พระทุศีล เพื่อให้พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์ เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศต่อสู้เพื่อ “พ่อหลวง” หลังสัญญาณนกหวีดใหญ่ “บ้านเมืองใกล้ล่มจม” ย้ำคำว่า “เรารักในหลวง” อย่างเดียวคงไม่พอ ตั้งข้อสังเกตคำพูด “ชัยสิทธิ์” อัดผู้พิพากษามีตัวใหญ่อยู่เบื้องหลัง หมายความว่าอย่างไร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (24 ส.ค.) เวลาประมาณ 21.05 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยกล่าวถึงการสวมเสื้อสีเหลือง “เราจะสู้เพื่อในหลวง” ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณเมื่อปี 2549 เพราะในช่วงนั้น ยอมรับว่ามีกลุ่มคนที่จ้องทำลายพ่อหลวงของเรา โดยเฉพาะกลุ่มของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และบริวาร โดยพบว่าคนเหล่านี้ มีการเหยียบย่ำจาบจ้วงมาตลอด ตั้งแต่ปี 2544 และในที่สุด ตนเองจึงได้ลุกขึ้นมาต่อสู้พร้อมกับประชาชน
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อช่วงปี 2548 เรามักจะได้เห็นเสื้อที่มีคำว่า “เรารักในหลวง” แต่สถานการณ์ขณะนั้น หากจะบอกว่ารักพ่อหลวงอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องสู้เพื่อพระองค์ท่านด้วย เพราะพระองค์ท่านทรงเมตตา และเปี่ยมไปด้วยทศพิศราชธรรม คอยห่วงใยพสกนิกร แต่ท่านทรงอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถพูดอะไรได้
นายสนธิ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เคยทรงเล่าเรื่องพระไตรปิฎก ตอนที่พระพุทธเจ้าจะแสดงโอวาทปาติโมกข์ แต่ทรงนิ่งเงียบ ไม่สามารถกระทำได้ กระทั่งพระอานนท์ กล่าวเตือนเป็นครั้งที่ 3 ก็ทรงบอกว่า ดูก่อนพุทธบริษัททั้งหลาย เราไม่สามารถแสดงโอวาทปาติโมกข์ได้ เพราะมีพระทุศีลหนึ่งองค์อยู่ในที่นี้ แต่ไม่สามารถแสดงออกได้ ดังนั้น พระโมคคัลลาน์ซึ่งเป็นพระที่ทรงอิทธิฤทธิ์ จึงใช้ฌานนั่งเห็น จึงไปบอกพระทุศีลว่า ท่านมีศีลไม่ครบแล้วพระโมคคัลลาน์จึงไปกระชากแขนออกไป จึงสามารถแสดงโอวาทปาติโมกข์ได้
“เปรียบเช่นเดียวกับในยุคนี้ ดังนั้น ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ พวกเราที่นั่งกันอยู่ในที่นี้ จะขอเป็นพระโมคลานะเดินไปกระชากแขนคนชั่วออกจากแผ่นดินไทย เพราะหากเปรียบแล้ว พ่อหลวงของเรา ก็เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้าที่ไม่สามารถทรงพูดอะไรได้ ตั้งแต่ปี 2544 พระองค์ท่านทรงเจอแต่เรื่องที่ถูกใส่ร้ายจ้องทำลายล้าง แต่ท่านก็ไม่เคยตรัสให้พวกเราทราบสักคำ”
นายสนธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า พระองค์ท่านทรงมีวันที่มีโอกาสตรัสกับพสกนิกรของท่านเพียงปีละ 1 วัน คือ วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. พระองค์ท่านก็จะทรงตรัสด้วยความเมตตา ไม่เคยลุกขึ้นมาว่ากล่าวใคร พระองค์ท่านทรงห่วงเรื่องเดียวคือประเทศชาติ และทรงพูดอยู่เรื่องเดียวคือ อย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน พระองค์ท่านจะไม่เคยรีรอ หากเกิดน้ำท่วม ฝนแล้ง หรือฝนตกหนัก พระองค์ท่านไม่เคยรีรอที่จะทรงแสดงความเป็นห่วง
นอกจากนี้ นายสนธิยังกล่าวถึงการใส่ผ้าพันคอสีฟ้า เนื่อจากเป็นสีที่เป็นสัญญลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พร้อมระบุว่า ตนเองมีความชัดเจนในชีวิต แยกมิตรและแยกศัตรูอย่างชัดเจน การเมืองที่ถูกต้องมีแต่กัลยาณมิตร ศัตรูก็คือศัตรู ไม่ใช่การเมืองน้ำเน่าที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
นายสนธิ ยังได้ถามไปยังคนในระบอบทักษิณว่า เราจะยืนข้างในหลวงและพระราชินี มีอะไรหรือเปล่า หากพวกตนจะยืนข้างราชบัลลังก์ นายจักรภพ นายวีระ นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร มีอะไรหรือเปล่า นปก.มีอะไรหรือเปล่า และถามคนพรรคพลังประชาชน (พปช.) ที่เทิดทูน “แม้ว” เป็นพ่อ หากพวกเราจะเทิดทูนในหลวงเป็นพ่อ มีอะไรหรือเปล่า
“มีหรือไม่มี วันที่ 26 ส.ค.นี้ เราเจอกัน พวกนักเลงที่ไล่ตีคนแก่ เอาหินมาไล่ปา พวกที่จาบจ้วงสถาบันที่ท้องสนามหลวง ถ้าพวกเราไม่เปิดโปง ตำรวจมันจะเข้าไปจับหรือ พี่น้องทั่วประเทศ เราจะยืนข้างและสู้เพื่อพระองค์ท่าน แม้จะไม่ทรงขอมาก็ตาม”
นายสนธิ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชัยสิทธิ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ. ลูกพี่ลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาบอกว่า สาเหตุที่ทักษิณต้องออกไปเพราะมีผู้พิพากษาที่ไม่ถูกกับทักษิณมานั่งพิจารณาคดี และมีคนที่เหนือกว่านั้นมาใช้แรงกดดัน พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร
นายสนธิ ยังระบุอีกว่า ตอนที่ตัวเองโดนตัดสินคุก 3 ปี ทำไมไม่เคยพูดสักคำว่า ผู้พิพากษาเป็นพวกของทักษิณ เพราะผู้พิพากษาทุกท่าน เป็นตัวแทนของในหลวง และเหนือหัวของผู้พิพากษาทุกท่าน ก็จะมีรูปของพระเจ้าอยู่หัว สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ เราผิดหรือไม่ผิดเรารู้อยู่แก่ใจ หากอมเลือดได้ก็จะอม ไม่ขอพูดสักคำ เพราะเราทำงานให้พรองค์ท่าน คนเรามันต่างกัน ทั้งคุณธรรม และจริยธรรม แม้ใจก็ยังต่างกัน
“วันนี้ คงไม่พูดอะไรมาก เพราะมีงานต้องเตรียมอีกเยอะ พวกเราที่มาชุมนุมคงหงุดหงิดกันมาหลายสิบวัน เมื่อไรจะเป่านกหวีดเสียที แต่เงื่อนไขของเวลา จิตวิญญาณ ต้องหล่อหลอมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ”
นายสนธิ ระบุว่า นกหวีดใหญ่ คือ คำของพระองค์ท่านที่ว่า “ชาติใกล้ล่มจมแล้ว” เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้าที่พูดกับพระอานนท์เรื่องพระทุศีล และไม่สามารถแสดงโอวาทปาติโมกข์ได้ พวกเราจะเป็นพระโมคคัลลาน์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ไม่ใช่แค่เรียกร้องแผ่นดินไทยกลับคืน แต่พวกเราจะเรียกสังคมไทยกลับคืนมา ทั้งศีลธรรม และจริยธรรม สงครามครั้งสุดท้ายแล้วพี่น้อง เราต้องชนะ