“พันธมิตรฯ” สรุปสาระสำคัญการเมืองใหม่ เปรียบเป็นธงธรรม 4 ผืน เน้นหน้าที่ประชาชนปกป้องเทิดทูนสถาบันสูงสุด ทุกสาขาอาชีพมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง ส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง ให้ภาคพลเมือง-เศรษฐกิจ-สังคมเข้มแข็ง ยัน 4 พ.ย.ออกสมุดปกขาว ทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 29 ต.ค.ที่โรงอาหารตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงถึงผลการสัมมนาการเมืองใหม่ว่า หลังจากมีการสัมมนามา 6 ครั้ง ที่ประชุมมีมติร่วมกันเรื่องการเมืองใหม่ โดยเปรียบเป็นผ้า 4 ผืน คือ 1.ประชาชนชาวไทย มีหน้าที่พิทักษ์รักษาปกป้องเทิดทูนไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างแท้จริง
2.ประชาชนทุกสาขาอาชีพ และทุกภาคส่วนในสังคม มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง คือมีส่วนร่วมในอำนาจในการตรวจสอบทางการเมืองผ่านสภาประชาชน สามารถตรวจสอบถอดถอนฟ้องร้องนักการเมืองและพรรคการเมืองในฐานะปัจเจกบุคคลได้
3.ส่งเสริมให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง และป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจ ตามกระแสพระราชดำรัสของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิรูปนักการเมือง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และการปฏิรูปองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
4.ทำให้พลเมืองมีความเข้มแข็ง เพื่อวางรากฐานทำให้การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทย มีความเข้มแข็งและยั่งยืน การปฏิรูปไม่ว่าจะเป็นปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปสื่อสารมวลชน ปฏิรูปการแก้ไขปัญหาความยากจน ทำให้ประชาชนสามารถมีงานทำอย่างสุจริต มีโอกาสทางการเมือง ทางเศรษฐกิจและสังคม สิ่งเหล่านี้ทำให้ประชาชนเข้มแข็ง และตรวจสอบนักการเมืองได้อย่างแท้จริง
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า เมื่อผ้าธงธรรมทั้ง 4 ผืน เกิดขึ้นจะทำให้การเมืองไทย จะเปลี่ยนฉากไปจากเดิม สังคมไทยเข้าสู่การเมืองที่สุจริตและเที่ยงธรรม มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม การเมืองใหม่ที่กล่าวมาจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากยังมีรัฐบาลที่ฉ้อฉล ไม่ยอมเสียสละ ไม่เปิดโอกาสให้มีการเมืองใหม่ หรือเสียสละพื้นที่การเมืองเก่าที่ล้มเหลวยังอยู่ในตำแหน่ง ดังนั้น ประชาชนทั้งประเทศจะต้องร่วมกันขับไล่รัฐบาลต่อไป โดยพันธมิตรฯ ยังยืนหยัดในแนวทาง 2 ประการ คือ 1.การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ฟอกความผิดตัวเอง 2.การมุ่งขับไล่รัฐบาลให้ออกจากการบริหารประเทศ เพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่
ทั้งนี้ ผลสรุปการสัมมนาการเมืองใหม่ทั้ง 4 ข้อ เป็นเพียงร่างต้นแบบทางการเมืองใหม่ ที่มาจากการสัมมนา จะมีเพิ่มเติมรายละเอียด ในวันที่ 4 พ.ย.ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้าย และจะนำข้อสรุปที่ได้จากการสัมมนาทำเป็นสมุดปกขาว ซึ่งคาดว่า จะเสร็จสิ้นหลังจากวันที่ 4 พ.ย.และพร้อมจะนำไปทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ ผ่านทางแกนนำของทุกจังหวัด เมื่อได้ข้อสรุปก็จะนำมาปรับปรุงต่อไป
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 4 พ.ย.จะมีการพิจารณาเรื่องแผนในการรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศว่าจะใช้รูปแบบใด โดยเฉพาะหากรัฐบาลยังผลักดันให้ตั้ง ส.ส.ร.3 จนประสบความสำเร็จ ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้พันธมิตรฯ ทำงานหนักมากขึ้น เพื่อกระตุ้นสังคมออกมาเป็นเจ้าภาพในเรื่องการปฏิรูปการเมือง แต่จะไม่กระทบต่อการรณรงค์เผยแพร่การเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ เพราะพันธมิตรฯ ต้องสร้างความชอบธรรมในการระดมความคิดเห็น เพื่อกระตุ้นให้สังคมออกมาเป็นเจ้าภาพในการปฏิรูปการเมือง ซึ่งจุดยืนของพันธมิตรฯไม่เชื่อว่าการปฏิรูปการเมืองจะอยู่บนสภาวะที่รัฐบาลมีวาระซ่อนเร้นได้ ไม่ได้อยู่บนผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ในเวลา 10.00 น.วันที่ 30 ต.ค.พันธมิตรฯ จะเดินทางไปที่สถานทูตอังกฤษ เพื่อเรียกให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีที่ดินรัชดาฯที่ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ให้กลับมารับโทษในประเทศไทย
