รบ.“หมัก” แอบจ้อสื่อนอกกล่าวหาพันธมิตรฯ ทำสงคราม “กองโจร”

เอเจนซี - รอยเตอร์รายงานถึงเหตุระเบิดป้อมตำรวจจราจรในกรุงเทพฯ เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์เผชิญหน้าระหว่างนายสมัคร และผู้ชุมนุมที่บุกยึดทำเนียบนาน 7 วัน โดยไม่มีสัญญาณถอยจากฝ่ายไหน พร้อมอ้างคำสัมภาษณ์แหล่งข่าวรัฐบาลได้กล่าวหาพันธมิตรฯทำสงครามกองโจร

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงของรัฐบาลให้สัมภาษณ์ว่าเหตุระเบิดป้อมตำรวจจราจรบริเวณแยกประชาเกษม ที่เกิดขึ้นประมาณตี 1 ในช่วงเช้าวันจันทร์ (1) ซึ่งสร้างคความเสียหายให้กับกระจก แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ คือ สัญญาณว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังยกระดับการประท้วงไปสู่อีกขั้นหนึ่ง

“พันธมิตรฯ ดำเนินสงครามกองโจรกับเรา” แหล่งข่าวรัฐบาลที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อบอกกับรอยเตอร์

ด้านตำรวจระบุถึงคำพูดของแหล่งข่าววงในรัฐบาลคนดังกล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นการทำงานของพวกก่อกวนที่พยายามชี้ให้เห็นถึงความสิ้นท่าของตำรวจต่อการประท้วงต่อเนื่อง 3 เดือนของพันธมิตรฯ ในความพยายามขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

“พวกเขาต้องการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลและตำรวจอ่อนแอเกินไปที่จะปกป้องประชาชน” พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ “มันเป็นอะไรบางอย่างที่พวกเราคาดหมายไว้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น”

สื่อมวลชนแห่งนี้ รายงานต่อว่า พันธมิตรฯ เป็นกลุ่มของนักธุรกิจและนักเคลื่อนไหว ผู้ประท้วงขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จนนำไปสู่รัฐประหารล้มล้างเขาเมื่อปี 2006 ประท้วงกันอย่างสันติมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม จากเหตุบุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมมีดและไม้กอล์ฟ และบุกยึดเทียบรัฐบาล พร้อมกั้นรั้วหนาม ทำให้เกิดข้อสงสัยตามมา

แต่โฆษกของพันธมิตรฯ ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว “เราไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น มันมีแต่ทำให้คนกลัวการชุมนุม ไม่สามารถเรียกประชาชนเข้ามาร่วมกับเราเพิ่มขึ้น เราใช้มาตรการอารยะขัดขืนในการต่อสู้กับรัฐบาลโดยปราศจากซุกซ่อนระเบิด” นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าว

ความตึงเครียดถึงขีดสุดเมื่อวันศุกร์ (29) เมื่อตำรวจใช้แก๊สน้ำตา และกระสุนยางขับไล่ผู้ประท้วง 2,000 คน หน้าศูนย์บัญชาการตำรวจ นอกจากนี้ผู้ชุมนุมยังปิดสนามบินทางภาคใต้อีก 3 แห่ง ซึ่งเวลานี้ทั้งหมดกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง

รอยเตอร์ระบุว่า สมัครย้ำว่าเขาจะไม่ทำตามคำเรียกร้องของพันธมิตรฯ และเตือนในระหว่างปราศรัยผ่านวิทยุรายสัปดาห์เมื่อวันอาทิตย์ (31) ว่า ความอดทนของเขากำลังร่อยหรอ "ผมไม่กลัว แต่ผมกังวลความวุ่นวายในประเทศ เราไม่สามารถปล่อยให้ยึดทำเนียบรัฐบาลต่อไปอย่างไม่มีกำหนดโดยปราศจากการเอาเรื่องใดๆ”

ไม่มีใครรู้ว่าวิกฤตจะยุติด้วยหนทางใด แต่บทละครที่เกี่ยวข้องกับนายสมัครและพันธมิตรฯ จะพังทลายลงในหลายหนทางทั้ง รัฐประหาร ตำรวจให้กำลังปราบปราม เลือกตั้งใหม่ หรือแม้แต่การเข้าแทรกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ขณะที่พวกเขากล่าวหานายสมัครว่าเป็นตัวแทนนอกกฎหมายของทักษิณ ทางพันธมิตรฯประกาศตนเองปกป้องพระมหากษัตริย์จากสมมติฐานแผนของทักษิณ ในการเปลี่ยนประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐ ทั้ง 2 ข้อกล่าวหาถูกปฏิเสธจากนายสมัครและทักษิณ ผู้หนีประกันในข้อกล่าวหาคอร์รัปชันไปหลบอยู่ในลอนดอน