บีบีซี/เอเจนซี/เอเอฟพี - บรรดาสื่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์บีบีซี,สำนักข่าวรอยเตอร์,สำนักข่าวเอเอฟพี,บลูมเบิร์ก ตลอดจนหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ในอังกฤษ ต่างสนใจรายงานข่าวการหลบหนีคดีและถูกศาลออกหมายจับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภรรยา
เอเอฟพียังพูดถึงคดีความอื่นๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกฟ้องร้องอยู่ และกล่าวด้วยว่า ภายหลังการเลือกตั้งที่ทำให้พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพันธมิตรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้เกิดการประท้วงตามท้องถนน ซึ่งจวบจนบัดนี้สามารถทำลายแผนการของพรรคพลังประชาชนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
สำนักข่าวแห่งนี้ยังอ้างความเห็นของนายฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กล่าวว่า ยังจะต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า การหนีไปลี้ภัยต่างประเทศของอดีตผู้นำที่ก่อให้เกิดความแตกแยกผู้นี้ จะสามารถบรรเทาความตึงเครียดในประเทศไทยได้หรือไม่ แต่ที่พูดได้แน่ๆ คือ เกมจบลงแล้วสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ
“เวลานี้เขากำลังพัวพันกับคดีความทางกฎหมายอย่างซับซ้อน ซึ่งไม่มีทางที่จะเอาชนะได้ เขาจบสิ้นปิดฉากทางการเมืองลงไปแล้ว” นายฐิตินันท์บอกกับเอเอฟพี
ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ กล่าวว่า นักวิเคราะห์หลายรายมีความเห็นว่าการหลบหนีไปของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจหมายถึงรัฐบาลนายสมัครจะมีเวลาหยุดพักจากการถูกประท้วงต่อต้านบนท้องถนน และสามารถที่จะมุ่งความสนใจไปที่เรื่องเศรษฐกิจ
แต่รอยเตอร์ก็บอกว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศออกมาแล้วว่าจะยังไม่เลิกประท้วงจนกว่ารัฐบาลผสมของนายสมัครจะล้มไป โดยสำนักข่าวแห่งนี้อ้างคำพูดของนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกของพันธมิตรฯ ที่กล่าวว่า การหลบหนีลี้ภัยของทักษิณถือเป็นชัยชนะอีกอย่างหนึ่งของทางพันธมิตรฯ แต่เป้าหมายสูงสุดของพันธมิตรนั้นอยู่ที่การยุติระบอบทักษิณด้วยการเตะรัฐบาลหุ่นออกไป
รอยเตอร์ยังรายงานว่า นักวิเคราะห์หลายรายเห็นว่าการที่คุณหญิงพจมานมีหวังจะต้องถูกจำคุก ภายหลังการพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีโกงภาษีเมื่อเดือนที่แล้ว น่าจะเป็นเหตุผลที่บังคับให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องออกนอกประเทศ และการที่เขาใช้ถ้อยคำโจมตีระบบศาลยุติธรรม อันอยู่ในลักษณะหมิ่นศาลไทย ซึ่งมีการใช้กฎหมายลงโทษในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด ย่อมหมายความว่า เขาจะไม่สามารถกลับมาเมืองไทยอีกเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ รอยเตอร์อ้างคำพูดของคริส เบเกอร์ นักวิเคราะห์การเมืองที่เคยเขียนหนังสือชีวประวัติ พ.ต.ท.ทักษิณมาแล้ว โดยนายเบเกอร์ บอกว่า จากการที่เขาดูหมิ่นศาลเช่นนี้ ทำให้เขาจะต้องจากไปอีกนาน
“เขาเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ และเขาก็พูดแรงๆ ด้วยความโกรธบ่อยครั้งมากในอดีต” นายเบเกอร์กล่าวต่อ “สิ่งที่ผมเดาก็คือ ในระยะไม่กี่สัปดาห์ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาได้โปรยเงินทองออกไปจำนวนมากเพื่อพยายามและนำตัวเขาให้หลุดจากเรื่องนี้ และมันประสบความล้มเหลว และเขาจึงรู้สึกโกรธมาก”
ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กก็ได้สัมภาษณ์นายเบเกอร์เช่นกัน โดยอ้างคำพูดของเขาที่กล่าวว่า “สิ่งที่ดำเนินไปมากมายเหลือเกินในปีที่ผ่านมา คือ เรื่องราวความพยายามของ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะนำตัวเองให้หลุดจากเบ็ดเกี่ยว” นายเบเกอร์บอก “ผมสงสัยว่าเขากำลังกระแทกกับทางตัน ซึ่งเขาตระหนักว่า ไม่มีคุณค่าที่จะเล่นพนันต่อไปแล้ว”
สำนักข่าวรอยเตอร์ยังได้พูดเรื่องอนาคตของนายสมัครและพรรคพลังประชาชน และอ้างคำกล่าวของนายบุญเกียรติ การะเวกพันธ์ แห่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่กล่าวว่า “เรือลำนี้เต็มไปด้วยรูรั่ว ทั้งใหญ่ทั้งเล็ก และพร้อมที่จะจมได้ตลอดเวลา มันจึงขึ้นอยู่กับตัวกัปตันที่จะต้องพยายามเอาตัวรอดจากบรรดาคลื่นลม และประคับประคองให้อยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้”
อนึ่ง รอยเตอร์ยังได้เผยแพร่รายงานข่าวอีกชิ้นหนึ่งที่มุ่งจะตอบคำถามว่ารัฐบาลนายสมัครจะอยู่ได้นานขึ้นหรือไม่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ หนีคดีไปแล้ว
นายนพพร วงศ์อนันต์ ซึ่งเป็นผู้เขียนรายงานชิ้นนี้ บอกว่า ได้ไปสัมภาษณ์นักวิเคราะห์การเมืองหลายๆ คน และพอสรุปได้ว่า สถานการณ์การเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีกันอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่
--แรงกดดันยังคงมีอยู่ทั้งต่อรัฐบาลและพรรคพลังประชาชน และ/หรือ กระทั่งคณะรัฐมนตรีก็อาจถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อมีการตัดสินคดีความต่างๆ ที่รัฐบาลและพรรคถูกฟ้องร้อง
สถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ และนายสมัครน่าที่จะเข็นโครงการประชานิยมออกมา เพื่อให้ตัวเขาพรักพร้อมยิ่งขึ้น
--การจากไปของทักษิณ ทำให้ฝ่ายค้านยอมถอยยอมผ่อนปรนให้รัฐบาลนายสมัคร ทว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่คิดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้
--พรรคพลังประชาชนแตกเป็นเสี่ยงๆ รัฐบาลผสมล้มคว่ำ และมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีโอกาสคว้าชัยชนะ