“พล.ต.จำลอง” เผย ช่วงติดคุก 5 วัน ลำบากมาก แต่ถือว่าชดใช้กรรมที่เคยไปชวน “ทักษิณ” มาเล่นการเมือง จวกพวกปล่อยข่าว เรียกเงินขายพรรคพลังธรรมจาก “แม้ว” จำนวนมโหฬาร เมื่อไม่ได้จึงออกมาไล่ ยันโกหกทั้งเพ ชี้ หากจริง “ทักษิณ” เอามาเปิดโปงเพื่อปิดเกมไปนานแล้ว ย้ำทหารแสดงความจงรักภักดีอย่าทำแค่เดินสวนสนาม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.00 น.วันนี้ (25 ต.ค.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า การชุมนุมวันนี้เป็นวันที่ 154 แล้ว เมื่อรวมกับ 33 วันที่ชุมนุมในปี 2549 ก็เป็นวันที่ 187 อย่างไรก็ตามใน 187 วันนั้น ตนไม่ได้อยู่ในที่ชุมนุม 5 วัน เพราะต้องไปอยู่ในคุก ซึ่งเป็นเรื่องที่ลำบากมากๆ แต่ที่ตนติดคุกนั้นศาลไม่ได้ตัดสินว่ามีความผิด และศาลยังไมได้พิจารณาคดีสักครั้ง แต่เนื่องจากตำรวจออกหมายจับว่าเป็นกบฏ ก็เลยต้องทำตามระเบียบ คือเมื่อจับไปแล้วต้องไปขอฝากขัง แต่ไม่ได้ขังในฐานะนักโทษชาย เป็นการฝากในฐานะ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า เราไม่ยอมรับข้อหากบฏที่รัฐบาลยัดให้เรา เราจึงชุมนุมอยู่ที่นี่ ซึ่งตำรวจก็ยังไม่เข้ามาจับแต่วันที่ 5 ตุลาคม เป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตนในฐานะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ติดต่อกันมา 6 ปีจึงออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตำรวจก็ไปจับ ก็ให้จับไป แต่เราไม่ประกัน เพราะหมายจับนั้นผิด ซึ่งเวลาต่อมาศาลก็ยกเลิกหมายจับในข้อหากบฏนั้น
“ที่ผมต้องไปลำบากอยู่ในคุก 5 วันนั้น ถือว่าเป็นการไปใช้กรรม เพราะได้ก่อกรรมทำเข็ญที่ไปชวน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเข้าสู่การเมือง เราก็เลยต้องยุ่งอยู่ทุกวันนี้ ตอนนั้นใครๆ ก็ว่าเป็นการเหมาะสมที่ไปชวนเขามา แต่เมื่อเราเห็นตอนหลังว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด ตอนนั้นผมได้เขียนลงในวารสารของสันติอโศก ที่ชื่อว่า “เราคิดอะไร” โดยใช้หัวข้อว่า “เพราะเราโง่ไงหล่ะ จึงหลงส่งเสริมเขา”
“ผมก็ออกมาคัดค้าน เมื่อออกมาคัดค้าน เราก็ได้ร่วมชุมนุมกันมาตั้งแต่ปี 49 ก่อนที่จะพักไปช่วงหนึ่ง แล้วเราก็มาชุมนุมจนวันนี้”
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ตอนที่ตนออกไปคัดค้าน พ.ต.ท.ทักษิณจนถึงวันนี้ยังมีการสร้างข่าวลือว่าหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซื้อพรรคพลังธรรมจากตนไปแล้วต่อมา ตนก็ยังไปเรียกร้องเงินทองก้อนมโหฬารจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ให้ ตนจึงออกไปต่อต้าน ซึ่งเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
“พี่น้องก็รู้อยู่แล้วว่า การขายพรรคหรือเรียกรับเงินจากทักษิณนั้น คนส่วนใหญ่ไม่มีใครเชื่อ เป็นเพราะว่า ผมและภรรยาเป็นนักปฏิบัติธรรมที่สุดโต่งไปอีกทางหนึ่ง ยิ่งปฏิบัติไปก็พยายามที่จะเดินตามรอยพระพุทธองค์ จากที่มีบ้านก็สลัดออกเป็นไม่มีบ้าน มีเคยมีที่ดินก็ไม่มีแล้ว แล้วผมจะเรียกเงินไปทำอะไร
“ถ้าผมเรียกรับเงินทักษิณจริง เขาเปิดโปงผมไปนานแล้ว ตั้งแต่ปราศรัยที่สนามหลวง และที่วงเวียนใหญ่ เท่านั้นแหละผมจบไปแล้ว ผมคงไม่มีปัญญามาร่วมชุมนุมกับพี่น้อง แต่เนื่องจากมันไม่จริง เขาจึงไม่กล้าสร้างเรื่องเท็จ เดี๋ยวโดนผมเขียนจดหมายเปิดผนึกอีก”
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ช่วงที่ตนออกมาคัดค้าน พ.ต.ท.ทักษิณตอนแรกนั้น ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อเดือนมกราคม 2549 เรื่องขายหุ้นให้สิงคโปร์ 7.3 หมื่นล้านบาท ตนได้แนะนำให้เสียภาษี 2.4 หมื่นล้านบาท เพื่อทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว ซึ่งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณนึกย้อนหลังได้ คงเสียใจ เพราะถ้าเสียภาษีก็จบไปแล้ว ก็ถือว่าเขาต้องใช้กรรม
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงคำขู่ของ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ที่จะนำกำลังปิดล้อมทำเนียบเป็นเวลา 3 วันว่า ตามหลักการแพทย์แล้ว ถ้าเราอยู่เฉยๆ ดื่มแค่น้ำโดยไม่กินอาหารเลย เราสามารถอยู่ได้ถึง 3 เดือน เพราะฉะนั้น พวกที่จะมาล้อมนั้น มีปัญญาล้อมอยู่ได้เป็นเดือนหรือเปล่า
นอกจากนี้ มีกล่าวว่า กลุ่ม นปช.จะไปรวมตัวกันอยู่ที่สนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ซึ่งสนามกีฬาแห่งนั้นจุคนได้ 6 หมื่นคน หลักของการต่อสู้มีอยู่ว่า ฝ่ายที่เข้ามาโจมตีต้องใช้กำลัง 3 เท่าถึงจะโจมตีสำเร็จ ถ้าเรามี 5 หมื่นเขาต้องมี 1.2 แสน แต่เขามาได้อย่างมาก 6 หมื่น เราจะไปกลัวทำไม นี่คือหลักการสงครามที่ได้ร่ำเรียนมา เพราะฉะนั้น เราไม่กลัว เพียงเราไม่ประมาท
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้า ทหารจะเข้ามาบริเวณถนนพิษณุโลกตั้งแต่แยกมิสักวันถึงประตู 4 แต่พวกเราไม่ต้องกลัว เพราะทหารเข้ามาเพื่อช่วยเก็บเต็นท์และโต๊ะ เนื่องจากคนของเราไม่พอ เขาจะเก็บเต็นท์และโต๊ะในช่วงนั้นเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับการซ้อมสวนสนามรักษาพระองค์ในตอนบ่าย ซึ่งจะซ้อมอาทิตย์ละครั้ง จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม น้องเราใครจะไปดูก็ไป และอยากให้ใช้โทรศัพท์ไปหาญาติที่เป็นทหารว่า การรักษาพระองค์หรือการแสดงความจงรักภักดีนั้น อย่าทำเพียงแค่สวนสนามอย่างเดียว
