“จำลอง” จวก นปก.อุบลฯ บุกร้านมังสวิรัต สุดเลวทำร้ายคนดีปฏิบัติธรรม พร้อมแฉตำรวจเข้าข้าง นปก. เหตุแจงความไว้ล่วงหน้ากลับไม่มีใครมาช่วยรักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกัน เย้ย “โกวิท” เป็นตำรวจทหารต้องมีความกล้า กล่าวหาม็อบมีเส้นควรแจงว่าเป็นใคร หรือต้องการกระทบใคร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
วานนี้ (21 พ.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นบนเวทีในทำเนียบรัฐบาลในเวลา 21.30 น.โดยกล่าวว่า อยากบอกว่าทำไมเราต้องมาทนอยู่ในที่นี้ ต้องมาลำบาก ซึ่งเรารู้ว่าปัญหาคือ ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ซึ่งเราจะพึ่งสภาก็ไม่ได้ พึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้ เพราะเราไล่ทุกวัน ดังนั้น เราต้องพึ่งประชาชน
ทั้งนี้ ขอยกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจริงเมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งบอกว่าตนเงียบไป เขาบอกว่าเบียร์เหล้าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วคุณจำลองหายไปไหน ซึ่งทำไมต้องมาถามก็ไม่ทราบ
“เขาเลยสงสัยจะได้เงินจากคุณเจริญมา ได้ครับ ตอนที่ผมไปอยู่ที่ชุมนุมที่ตลาดหลักทรัพย์ ลูกน้องคุณเจริญมาบอกผม โดยที่คุณเจริญไม่รู้ เขาก็บอกว่าจะให้เงินช่วยศูนย์ไตเทียม 2 ล้านบาท แต่ผมรับไม่ได้ สุดท้ายก็มีการโอนเข้ามาที่ศูนย์ไตเทียม ผมทนไม่ได้ ก็เลยประชุมกัน และคืนเงินไปแล้ว” พล.ต.จำลอง กล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านั้น มีข่าวลือว่านายเจริญ สิริวัฒนภักดี เคยเดินทางไปหาตนที่เช่าอยู่ที่สำนักงานทรัพย์สินอยู่ ซึ่งน่าแปลกที่คนรวยที่สุดมาหาคนจนที่สุด จึงได้เขียนจดหมายถึงเขาว่า “เป็นเรื่องดีที่คุณเจริญรู้ว่าเบียร์เหล้าไม่ดี และภรรรยากับคุณก็ไม่แตะเลย แต่เมื่อไม่ดื่มไม่ดี แต่ให้คนอื่นดื่มทำไม” ซึ่งข้อความนี้เป็นเพียงข้อความบางตอนที่ตนเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายเจริญ
“พี่น้องเห็นหรือเปล่าครับ สิ่งชั่วช้ากำลังครองบ้านครองเมืองอยู่แล้ว แม้แต่ตอนที่ผมเอาเอกสารเปิดผนึกให้แก่สื่อมวลชน สุดท้ายตอนเช้าไม่มีฉบับไหนลงเลย มีแต่หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ลง แม้จะไม่เต็มฉบับ” พล.ต.จำลอง กล่าว
ต่อมา พล.ต.จำลองได้เล่าเหตุการณ์ที่ร้านมังสวิรัติ ของราชธานีอโศก ที่ถูก นปก.บุกร้าน แม้ว่าร้านนี้จะห่างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเพียง 100 เมตรเท่านั้น แม้จะลงกราบนรกป่วนกรุง ก็ไม่ยอม ปรากฎว่าไม่มีตำรวจไปเลยครับ เพราะตำรวจพึ่งย้ายมาใหม่ เป็นตำรวจนปก.นรกป่วนกรุงทั้งนั้น
นอกจากนี้ นรกป่วนกรุงยังเอาก้อนอิฐก้อนหินปาเข้าไปแล้ว ยังเอาไม้ไล่ตี โดยตีกล่องที่เราอัดไว้ เท่านั้นยังไม่พอยังวิ่งไล่ไปหลังร้านไล่ทำร้ายอีก และนี่แหละคือนรกป่วนกรุง ซึ่งบ้านเมืองขณะนี้ไม่มีใครมาปกป้องแล้ว พอจบเรื่อง ก็มีตำรวจมา 2 คนมาตรวจเท่านั้น นี้คือ ผลงานของนรกป่วนกรุงในการทำร้ายคนดี
“เราทราบว่าเขาจะมาลุยเราเลยแจ้งตำรวจไว้แล้ว แต่ตำรวจก็ไม่มา เพราะมีการย้ายตำรวจที่เป็นนรกป่วนกรุงมา โดยคนพวกนี้ยังเอาก้อนหินมาปา และยังบุกเข้ามาตีเรา จนมีช่างกล้องของเราถูกทำร้าย นอกจากนี้ยังตามไปหลังร้าน ปาสิ่งปฏิกูล ทั้งเลือด และอุจจาระ และยังมีการปลดรูปสมณโพธิรักษ์ออกไปอีก” พล.ต.จำลอง กล่าว
ทั้งนี้ พอมีเรื่องเกิดขึ้นก็มีตำรวจมาแค่ 2 คน เพื่อเก็บหลักฐาน ซึ่งนี่แหละคือผลงานของนรกป่วนกรุง อยากบอกให้คนดีๆ ทราบว่าเราต้องพึ่งกันเอง เพราะตำรวจช่วยเราไม่ได้ เราต้องช่วยกันเอง ซึ่งวันนี้เขายังไปรับหัวหน้าตำรวจตระเวนชายแดนคนใหม่ แสดงว่าเขาเป็นพวกเดียวกันแน่นอน
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า พี่น้องทราบดีแล้วว่าเราสูญเสียคุณเจนกิจ กลัดสาคร และพี่น้องบาดเจ็บหลายราย จากเหตุการณ์ที่มีคนยิงระเบิดเข้ามา มีคนไปถามนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และเขาตอบมาว่า เป็นมือที่สามที่สี่ ทั้งที่เด็กๆ ก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร มันจะเกี่ยวกับมือที่สามได้อย่างไร เนื่องจากเราขัดแย้งกับรัฐบาลแล้วมือที่ว่าก็น่าจะเป็นของรัฐบาลเองนั่นแหละ จึงอยากประณามว่าพวกมือที่ 3 ที่นายสมชายว่าก็คือพวกลิ่วล้อรัฐบาลนั้นเอง
นอกจากนี้ การที่ทหารตำรวจสามารถถืออาวุธได้ตามกฎหมาย ซึ่งอยากบอกว่าถ้าจะเป็นทหารตำรวจต้องกล้า ถ้าไม่กล้าอย่าไปเป็น โดยความกล้าที่เอามาโยงเรื่องในครั้งนี้ มีการถามกันในสภาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำเนียบ เพื่อให้นายกมาตอบ แต่นายกฯ ไม่มาส่ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ มาตอบแทน พล.ต.อ.โกวิทก็อาจหาญมากถึงกล้าว่าพันธมิตรฯ เป็นม็อบมีเส้น ถ้าเป็นม็อบธรรดาก็จบไปแล้ว และนี่คือคำของ พล.ต.อ.ที่เคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ทำไมคุณไม่กล้าออกมาบอกว่าเส้นนั้นเป็นใคร คุณต้องกล้าตอบว่าต้องการจะกระทบใคร
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า มีจดหมายจากพันธมิตรหญิงเรียกร้องให้เราออกมากันเยอะๆ ในวันที่ 23 พ.ย. และจะไม่รับรองความปลอดภัยของสถานีตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งเราจะไม่ทำอย่างนั้นต้องใจเย็นๆ แต่เราเชื่อว่ามามากจะชนะแน่นอน โดยเราต้องชนะให้เท่ สง่างาม ไม่ต้องเอาอะไรมาทั้งสิ้น ขอให้มากันให้มากๆ เราต้องชนะเพื่อลูกหลานในภายภาคหน้า
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเครื่องเตือนใจว่าเราต้องมาช่วยกัน ที่เรานัด ในวันที่ 23 ความจริงมี 2 อย่าง คือถ้ามามากชนะแน่มา แต่ถ้ามาน้อยก็คงแพ้ แต่เราต้องพยายามเอาชนะให้ได้ ถ้าแพ้คราวนี้จะไม่มีใครออกมา ลูกหลานของเราจะเป็นอย่างไรในภายภาคหน้า ถ้าเราออกมาเป็นปากเสียงแทนพี่น้องมากันเยอะๆ เราต้องชนะแน่ โอกาสที่ตำรวจจะทำกับเราแบบในวันที่ 7 หรือ 20 นั้น จะไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้าเราออกมาเป็นแสนเป็นล้าน ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทางตำรวจเตรียมที่จะเข้าไปบริเวณสภาฯตั้งแต่วันเสาร์ จึงอยากบอกว่ารายการนี้ตำรวจหรือพันธมิตรที่ปอดกันแน่ อยากให้พี่น้องออกมากันให้มาก ซึ่งจะเหมือนเป็นการพิสูจน์ใจครั้งยิ่งใหญ่