xs
xsm
sm
md
lg

"เด็กแม้ว"จูงจมูก 145 ส.ส. ยื่นถอดถอน "รสนา" พ้น ส.ว.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เด็กแม้ว" ยื่นถอดถอน"รสนา" อ้างกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ จากเหตุการณ์สภาป่วน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ด้าน"รสนา" มั่นใจชี้แจงได้ โต้กลับเป็นการกระทำหวังดิสเครดิต ไม่ได้หวังผลถึงขั้นถูกถอดถอน เผยคณะอนุกมธ.สอบสวนข้อเท็จจริง เตรียมแฉเหตุการณ์ 7 ต.ค. วันนี้ ขณะที่"กลุ่มคนรักรสนา" ยื่นจดหมายเปิดผนึกให้ "ชัย" ตรวจสอบการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงในสภาฯ

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ( 5 พ.ค.) กลุ่ม ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล นำโดย น.ส.อรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน ได้ยื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้ถอดถอน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ออกจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ,271 และ 274 เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ และจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา น.ส.รสนา มีเจตนาไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภาในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา แต่ภายหลังกลับเข้าไปป่วนในห้องประชุม ทั้งที่ไม่ได้ลงชื่อเข้าประชุม และยังนำบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมด้วย ถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดขวางไม่ให้มีการประชุมรัฐสภา ทั้งนี้ นายประสพสุข กล่าวว่า ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้อง และนำเรื่องดังกล่าวแจ้งต่อที่ประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 7 พ.ย.นี้

น.ส.อรุณี ให้สัมภาษณ์ว่า การยื่นถอดถอนครั้งนี้ไม่ใช่เป็นมติพรรคพลังประชาชน แต่เป็นเพียงความคิดส่วนหนึ่งของสมาชิกเท่านั้น และเป็นการรวบรวมรายชื่อของสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลจำนวน 145 คน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่กระบวนการของวุฒิสภา และป.ป.ช. ถ้าป.ป.ช.มีมติเกินกึ่งหนึ่งที่จะถอดถอน น.ส.รสนา ซึ่งจะทำให้น.ส.รสนา ยุติการปฎิบัติหน้าที่ จากนั้นก็จะอาจจะถูกดำเนินการฟ้องต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

ด้าน น.ส.รสนา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อมีการยื่นมาแล้วก็ต้องดูตามข้อเท็จจริง ข้อกล่าวหาว่าพฤติกรรมของตนส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเหตุผลที่เข้าประชุมในวันนั้น เนื่องจากมีการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ประชาชนบาดเจ็บสาหัส สภาพการณ์แบบนี้ในแง่การแถลงนโยบายน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นที่ตนเข้าไปพูดให้นายกรัฐมนตรีรับฟัง เป็นหน้าที่ของผู้แทน เป็นปากเสียงให้ประชาชน คิดว่ารัฐบาลไม่มีสิทธิอันชอบธรรมในการสลายการชุมนุมจนทำให้ประชาชนล้มตาย ประเทศประชาธิปไตยรัฐบาลไม่มีสิทธิหรือมีอำนาจที่จะกระทำต่อประชาชนแบบนี้

การที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยื่นถอดถอนตนโดยระบุว่า ตนเป็นตัวแทนของกลุ่มพันธมิตรฯ หลังจากพูดในห้องประชุมแล้วก็ออกไป ขอชี้แจงว่าได้อยู่เกือบจะเป็นคนสุดท้าย ออกไปตอนเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว หลังมีการสลายการชุมนุมช่วง 16.00 น. ดังนั้น ที่ระบุว่าเข้ามาเป็นตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯ และออกจากสภาโดยกลุ่มพันธมิตรฯให้ออกนั้น เป็นสิ่งไม่จริง

น.ส.รสนา กล่าวด้วยว่า ในแง่ที่จะใช้ ส.ส.จำนวน 1 ใน 4 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ที่ระบุถึงการประพฤติผิดรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอชี้แจงว่า ที่ต้องเข้าไปพูดในวันนั้น มีส.ส.ชายของพรรคพลังประชาชนจำนวนมาก กรูกันเข้ามาชี้หน้าด่าตนด้วยความรุนแรง ผู้ติดตามที่อยู่ด้านนอกได้มองเห็นจากจอทีวี ด้วยความเป็นห่วง เพราะในสภาเคยมีคดีที่มีการชกต่อย และเตะกัน ทำให้ผู้ติดตามเข้ามาดูว่าตนจะถูกทำร้ายหรือไม่ ตนไม่ทราบ และไม่ได้วางแผนให้ผู้ติดตามเข้ามาแต่อย่างใด แต่สิ่งนี้ทางสภาฯไม่ยอมรับฟัง ไม่ว่าจะชี้แจงกี่ครั้งว่าไม่เคยเลยสักครั้งที่จะพาผู้ติดตามเข้าไป ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นทางการเมือง

สิ่งที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนพยายามทำคือ การทำลายความน่าเชื่อถือ หรือดิสเครดิตทางการเมืองเท่านั้น โดยใช้ ส.ส.หญิงของพรรคมารวบรวมรายชื่อ ซึ่งความจริงแล้วก็เป็นฝีมือของส.ส.ผู้ชาย คิดว่าการใช้หลักเกณฑ์ทางกฎหมายน่าจะใช้ด้วยความเป็นธรรม แต่ ส.ส.ที่ตะโกนว่าจะเตะ ส.ว. กลับไม่ได้รับการตักเตือน และไม่ได้รับการพิจารณาว่าจะลงโทษอย่างไร แต่กรณีของตนกลับใช้กฎหมาย หากเป็นพรรคพวกตนเองก็จะไม่ทำอะไร ทีกรณีส.ส.พรรคตัวเองเตะส..ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรรมการที่ทางสภาตั้งขึ้นมาสอบสวนเห็นว่ามีการกระทำจริง แต่ก็บอกว่าเป็นเพียงความเห็น ไม่มีหลักเกณฑ์ในเรื่องจริยธรรมที่จะลงโทษได้

"ดิฉันบอกได้เลยว่า การยื่นถอดถอนไปถึงที่สุดแล้วไม่ได้หวังผลว่าจะไปถึงที่สุดแล้วจะมีการถอดถอนดิฉัน แต่สิ่งที่เขาต้องการคือ ทำให้เกิดเป็นข่าวขึ้นมาเท่านั้น คิดว่าสามารถต่อสู้ได้ แต่หากจะพูดถึงมาตรฐานจริยธรรมนั้น คิดว่าการที่รัฐบาลฝ่าเข้ามาในรัฐสภาโดยไม่ใช้วิธีการอย่างอื่น ทำให้ประชาชนล้มตายบาดเจ็บสาหัส กลับเป็นสิ่งที่ ส.ส.เหล่านี้ไม่ได้มีการตรวจสอบ"

น.ส.รสนา กล่าวว่า ในวันนี้ (6 พ.ย.) จะมีการรายงานผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาฯ ต่อคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริตฯ ซึ่งจะชี้ให้เห็นว่า แต่ละจุดของการสลายการชุมนุมทั้งวัน ไม่มีเหตุผลรองรับ เพราะส.ส.และส.ว.ได้ออกจากรัฐสภาตั้งแต่ 6 โมงเย็น แต่การสลายได้มีไปถึง 5 ทุ่ม คิดว่ารัฐบาลที่เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่สามารถทำได้ โดยปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชนได้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำของตนในอนาคต เป็นการกระทำที่ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ หากจะถูกถอดถอนเพราะเหตุนี้ ก็ต้องดูกันต่อไปในอนาคตว่า กฎหมายไม่ควรจะเป็นเพียงเครื่องมือในการกลั่นแกล้ง แต่กฎหมายควรจะให้ความเป็นธรรม และเป็นไปตามข้อเท็จจริง เท่าที่อ่านข้อมูลแล้วไม่หนักใจ เพราะถือว่าเป็นเพียงการดิสเครดิต

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการยื่นถอดถอนนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน หรือไม่ น.ส.รสนา กล่าวว่า คงไม่ ในแง่ของวุฒิสภาคงไม่สามารถยื่นถอดถอนได้ เพราะวุฒิสภาเป็นองค์กรถอดถอน ดังนั้นเราจะไม่มีการรวมรายชื่อในเรื่องนี้ เมื่อถามว่าจะยื่นสอบทางด้านจริยธรรมของนายการุณ หรือไม่ น.ส.รสนากล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับวุฒิสภา ตนไม่ได้ทำ เพราะถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย การที่ ส.ส.มาชี้หน้าด่าตน พูดตามจริงไม่ได้ถือสา เพราะคิดว่าคนเป็นนักการเมืองต้องมีจิตใจกว้างขวาง และใหญ่พอที่จะไม่ถือสาในเรื่องเล็กน้อย สิ่งที่ยื่นในวันนี้ทำให้ตนคิดว่า ส.ส.ผู้ชายขาดความกล้าหาญ ต้องอาศัยผู้หญิงเป็นเกราะกำบังในการหาชื่อ เพื่อที่จะดิสเครดิตตนเท่านั้น

ต่อมาเวลา 11.00 น. "กลุ่มคนรักรสนา" นำโดยนางสมศรี สายทอง ผู้นำชุมชนช่องนนทรี ได้เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา คนที่ 2 เป็นผู้รับหนังสือแทน ซึ่งในหนังสือระบุว่า ขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์ความรุนแรงต่อผู้หญิงในรัฐสภา โดยนางสมศรี กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค. ที่มีส.ส.ชายเดินมารุมล้อม น.ส.รสนา พร้อมตะโกนด่าและชี้หน้าในระยะกระชั้นชิด ขณะที่มีการประชุมรัฐสภา และเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่นายการุณ โหสกุล ส.ส. กทม.พรรคพลังประชาชน ตะโกนขู่ว่าจะเตะ ส.ว.โดยมี ส.ส.ชายหลายคน ส่งเสียงโห่ แสดงความไม่พอใจน.ส.รสนาด้วย

ในเรื่องดังกล่าว พวกตนเห็นว่ารัฐสภาเป็นสถานที่ทรงเกรียติ อย่างน้อยน่าจะมีกลไกอะไรมาคุ้มครองสมาชิกที่ทำหน้าที่ และรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นการกระทำที่ทุเรศแบบนี้ เพราะไม่คิดว่าคนเป็นส.ส. จะแสดงกิริยาเช่นนี้ต่อสาธารณชน รวมถึงไม่แน่ใจว่าสักวันหนึ่งอาจจะถูกเตะเข้าจริงๆ ก็ได้ จึงเข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาฯ และประธานวุฒิสภา และไม่เห็นด้วยกับการที่ ส.ส.พลังประชาชนใช้เสียงข้างมาก ยื่นถอดถอนน.ส.รสนา เพราะเห็นว่าหากทำผิดกฎระเบียบ ก็สามารถดำเนินการกันในสภาได้ ไม่ถึงกับต้องขับ

ด้าน พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ทางสภาไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยประธานสภาฯได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการกิจการสภา และคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิเป็นผู้สอบสวนเรื่องดังกล่าว ขอให้มั่นใจว่า ระบบรัฐสภาของประเทศยังไปได้ ขอให้เชื่อว่าส.ส.ส่วนใหญ่ มีคนดีมากกว่าคนไม่ดี บางทีก็อาจจะมีหลงเข้ามาบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น