xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” เตือน “รบ.สุดด้าน” ยุติแก้ รธน. ลั่นยึดสันติ-ไม่คิดเผาบ้านเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“พิภพ” เตือน “รัฐบาลมือเปื้อนเลือด” ยุติดึงดันแก้ รธน. เพื่อช่วย “นช.แม้ว” พ้นคดี เหตุเพราะ “ฟันเฟือง” ในสังคม ออกโรงค้านสุดตัว ย้ำชัด “พันธมิตรฯ” ชุมนุมโดยยึดสันติ-อหิงสา ไร้ทางเกิด “สงครามกลางเมือง” มั่นใจ “ไอ้โม่ง” สั่งฆ่า ปชช. ต้องชดใช้กรรมด้วยการติดคุกในเร็ววันนี้

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

วานนี้ (17 พ.ย.) นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เดินเข้าเป็นพยานที่สถานีตำรวจบางขุนนนท์ว่า ทนายพันธมิตรฯ สามารถทำเรื่องพยานได้กว่า 50 คน แต่ที่น่าประทับใจมากที่สุด คือ ชาวบางขุนนนท์ ให้การต้อนรับพันธมิตรฯ อย่างอบอุ่น โดยนำอาหาร นำน้ำมาต้อนรับผู้บาดเจ็บ อีกทั้งตำรวจยังให้บริการเป็นอย่างดี ที่สำคัญตำรวจระบุว่า เขาเป็นตำรวจของประชาชน ซึ่งทำให้เราสบายใจว่าตำรวจไม่ได้เป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“พ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้วก็ไป แล้วยังจะให้ตระกูลชินวัตรมาครองเมืองอีก แต่ประชาชน สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันศาสนา รวมทั้งหน่วยงานของราชการโดยเฉพาะ กองทัพ หรือศาล ต้องยังคงอยู่ แต่นักการเมืองเขามาแล้วก็ต้องไปอย่างสะอาด ไม่ใช่ไปแล้วนำเงินติดตัวไป ทั้งๆ ที่เงินดังกล่าวเป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น นอกจากนี้ ทนายพันธมิตรฯ ยังระบุถึงเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ได้มาให้การต้อนรับขับสู้พันธมิตรฯ เหมือนกับชาวบางขุนนนท์ อีกทั้งยังมอบเงินสนับสนุนการต่อสู้คดีของพันธมิตรฯ มาให้อีกจำนวนหนึ่ง” นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ ยังกล่าวถึงการเปิดสะพานอังคณา-เมธี ว่า ตนได้เดินข้ามสะพานไปยังฝั่งตรงข้าม โดยมีอาหาร มีข้าวของคอยบริการผู้ชุมนุมที่คอยฟังการปราศรัย ซึ่งเมื่อตนเดินข้ามไปแล้วรู้สึกร่มรื่นมาก ทำให้ตนรู้สึกอบอุ่น และมีกำลังใจ ส่วนผู้ที่อยู่ฝั่งโน้นไม่ได้มีเฉพาะผู้ค้าขาย แต่เขาระบุว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุม โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุร้าย ผู้ชุมนุมฝั่งโน้น ยืนยันว่า เขาจะรีบเข้าร่วมชุมนุมทันที หากมีคนจะมาบุกเพื่อทำร้ายพันธมิตรฯ ดังนั้นจึงอยากจะเตือนนักวิชาการ และนักเคลื่อนไหวที่อยู่รอบนอก แล้วกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ ทำให้เกิดความรุนแรง จึงอยากถามกลับไปว่า พันธมิตรฯ ไปสร้างความรุนแรงให้กับใคร มีแต่พันธมิตรฯ จะป้องกันความรุนแรงด้วยซ้ำไป

“ดังนั้นจึงไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะเกิดสงครามกลาง เมือง โดยดูได้จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. อารมณ์ของพันธมิตรฯ ถึงขีดสุด เพราะพี่น้องพันธมิตรฯ แขนขาด ขาขาดต่อหน้าต่อตา แต่เราก็เคลื่อนกลับเข้าสู่ที่ตั้ง และไม่เคยคิดที่จะเผาบ้าน หรือเผาเมือง เราเพียงแต่บอกว่า หากตำรวจกระทำเช่นนี้ถือว่าไม่ได้เป็นตำรวจของประชาชน ดังนั้นคนต้นคิดจะต้องรับกรรมด้วยการขึ้นศาล และจะต้องติดคุก โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ที่ข่มขู่พันธมิตรฯ ทุกวัน ทั้งๆ ที่เราไม่เคยออกจากที่ตั้งไปรุกรานใคร ส่วนรัฐบาลที่ใช้ตำรวจไปทำร้ายประชาชน ต้องพูดให้ชัดเจน เพราะไม่เช่นนั้นสารเสวนาก็ล้มเหลว ที่สำคัญอยู่ดีๆ จะให้เราไปเสวนากับ นปก. ที่ใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การที่นักการเมืองทุจริต ใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย นี่คือการใช้ความรุนแรงต่อสังคมไทย อีกทั้งกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลของนายสมชาย บริหารประเทศชาติโดยไม่คำนึงถึงประชาชน เพราะนำเงินของประชาชนไปใช้หาเสียงเลือกตั้ง และทำประชานิยม จนทำให้เกิดปัญหาสังคม นั่นคือโครงสร้างที่จะนำไปสู่ความรุนแรงในสังคมไทย ขณะที่พันธมิตรฯ มุ่งเน้นการใช้กระบวนการยุติธรรมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของสังคมไทย แต่การใช้อำนาจนิติบัญญัติ ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้

นายพิภพ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ดึงเข้าดึงออกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า วันนี้นายชัยได้บอกกับ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ในงานมิตรภาพไทย-จีนว่า ในวันจันทร์หน้านี้จะเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภา โดย ห้าม ส.ส.ในสังกัดไปเมืองนอกอย่างเด็ดขาด ทั้งๆ ที่นักวิชาการ นักการเมือง และนักธุรกิจ ต่างออกมาเตือนว่า หากนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภา โดยมีการแอบซ่อนอำพรางเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นจากคดีความต่างๆ แล้วออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงในสังคมไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น