"ประพันธ์"เตือน ส.ส.พปช.ทำอะไรให้รู้จักกาละเทศะ ดำเนินการในช่วงบรรยากาศแบบนี้ไม่เหมาะ สอนกฎหมายชี้ยกเลิกคปค.ฉบับที่ 27 ก็ไม่มีผลทำให้ 111 ศพทรท.คืนชีพ แนะหากคิดเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร.3 ก็ต้องจริงใจระบุให้ชัดว่าจะแก้ประเด็นใดบ้างป้องกันข้อครหา
วันนี้(8 พ.ย.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เตรียมร่างพ.ร.บ. ยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 27 เพื่อให้ 111 คนมีสิทธิ์กลับมาเหมือนเดิมว่า ตนยังไม่มีความเห็น เพราะในส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับกกต.เป็นเรื่องของผู้ที่มีอำนาจและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะพิจารณากันไป คงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไร แต่ว่าจะทำอะไรก็คิดถึงความเหมาะสมด้วย เพราะว่าช่วงบรรยากาศตอนนี้ไม่ค่อยเอื้ออำนวยในการมาแก้กฎหมาย คปค.ฉบับที่ 27 เท่าไหร่
“เท่าที่ดูบรรยากาศตอนนี้ ผมคิดว่าทั้งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหมายหรือยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 ตอนนี้ใจผมดูแล้วบรรยากาศมันไม่เอื้ออำนวย คงน่าจะหลังวันเฉลิมพระชนม์พรรษาไปแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ที่ผู้มีอำนาจเป็นผู้พิจารณา อย่างไรก็ตามตนไม่ได้คัดค้านอะไรหรือว่าอะไรทั้งสิ้นเพราะรัฐธรรมนูญแก้ได้อยู่แล้ว ”นายประพันธ์ กล่าวและว่า สำหรับบรรยากาศในการที่จะแก้รัฐธรรมนูญหรืออะไรนั้น ทุกฝ่ายจะต้องมีความเห็นที่สอดคล้อง เห็นพ้อง และมีความสมานฉันท์หรือว่าคิดตรงกันและรู้แล้วว่าเราควรที่จะแก้ในประเด็นอะไรแล้วก็มาคุยกัน ถ้าไม่มีความชัดเจนคนก็จะมาตั้งคำถามสงสัยกันอยู่อย่างนี้ แล้วมาเถียงกัน
เมื่อถามว่า ประกาศคปค.ฉบับที่ 27 นี้ สามารถยกเลิกได้หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า ถ้ามีกฎหมายยกเลิกก็ยกเลิกไปได้ แต่ว่าในส่วนที่มีผลตามคำพิพากษาไปนั้นก็มีผลไปแล้ว ถึงจะยกเลิก คปค.27 ก็ไม่สามารถที่ทำให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์กลับเข้ามามีสิทธิ์ได้ นอกเสียจากว่าจะออกกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งให้ได้รับสิทธิ์กลับมา ลำพังยกเลิก ประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 อย่างเดียวก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เมื่อถามว่า ขณะนี้ดูเหมือนจะชัดว่าความพยายามดำเนินการต่างๆ เพื่อมีเจตนาให้กับกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนกลับเข้ามามีสิทธิโดยเร็ว นายประพันธ์ กล่าวว่า อันนี้ตนไม่ทราบ แต่เมื่อยังไม่มีความชัดเจนในการตั้งส.ส.ร.3 ขึ้นมาเพื่อแก้ประเด็นไหนคนก็จะสงสัยอย่างนี้
เมื่อถามว่า การที่จะยกเลิกประกาศคปค.ฉบับที่ 27 ได้ก็ต้องตั้ง ส.ส.ร.3 ก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขในมาตรา 309 ใช่หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวย้ำว่า ก็เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจพิจารณาตนไม่อยากไปวิจารณ์ อย่างไรก็ตามในเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญสามารถทำได้อยู่แล้ว เพราะในรัฐธรรมนูญปี 50 สามารถให้ทำได้และทำได้โดยไม่ยาก แต่จะแก้เรื่องอะไร และปัญหาจริงๆ อยู่ที่เรื่องอะไร หรือเป็นเรื่องของการทำสนธิสัญญา คือจะต้องมีการพิจารณาว่าจะเอาประเด็นอะไรให้ชัดเจนก่อน ถ้าตั้ง ส.ส.ร. 3 ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าเราจะแก้ในประเด็นอะไร ก็ทำให้คนที่เขาสงสัยได้ว่าจะเข้ามาแก้เรื่องอะไร
นอกจากนี้นายประพันธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน ได้ยื่นให้กกต.ตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่ม 40 ส.ว.โดยอ้างว่ามีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมที่ไปแทรกแซงเจ้าหน้าที่รัฐ โดยสำหนังสือถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้ถอดรายการความจริงวันนี้ออกไปจากช่องเอ็นบีที ว่า ตนได้รับทราบว่าได้มีการมายื่นกับเจ้าหน้าที่เราแล้ว แต่ว่ายังไม่มีเรื่องเข้ามายังกกต. คงอยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ดำเนินการของสำนักงานกฎหมายและคดี ที่จะพิจารณาก่อนเสนอให้กกต.พิจารณาว่าจะต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวนหรือไม่อย่างไร เพราะในรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ก็ได้ระบุห้ามไว้อยู่แล้ว ว่า ส.ส.ส.ว.ดำเนินการอะไรได้ไม่ได้อย่างไร เช่น ห้ามไปก้าวก่าย แทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในการปฏิบัติราชการหรือดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงาน หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น เมื่อ มีการร้องเรียนเข้าข้อกฎหมายก็ต้องเอามาดู ส่วนจะผิดหรือไม่ผิดเราไม่ทราบ
นาย ประพันธ์ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้กกต.ได้ขยายเวลาการดำเนินการตรวจสอบ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กรณีถือหุ้นในบริษัท ซีเอส ล็อกซ์อินโฟร จำกัด ที่มีสัมปทานของรัฐ โดยคณะอนุกรรมการฯได้ดำเนินการไต่สวนพยานมาได้บางส่วนแต่ยังทำไม่เสร็จ และได้ขอขยายเวลาออกไปก่อน ซึ่งกกต.ก็เลยอนุญาตให้ขยายออกไปจึงถึงสิ้นเดือนนี้ ก็น่าทราบผลว่าจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนจะเชิญนายกรัฐมนตรีมาหรือไม่ก็เป็นเรื่องของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งคิดว่าน่าจะต้องเชิญแต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาเองก็ได้ อาจจะชี้แจงเป็นหนังสือก็ได้ หรือถ้าอยากจะมาเองก็ได้ เพื่อจะมาอธิบายให้ชัดเจน ก็ไม่ทราบว่าคณะอนุกรรมการฯเชิญแล้วหรือยัง