“สุริยะใส” แย้ม “ส.ว.มือปราบ” ยันหลักฐานเด็ดมัด “สมชาย” ถือหุ้นล็อกซอิน โฟ ระบุชัดเจนยิ่งกว่า “ชิมไปบ่นไป” ฟันธงไม่เกิน พ.ย.นี้ ตกเก้าอี้นายกฯ แน่นอน ชี้ “รบ.นอมินี” สุดด้านดัน “ส.ส.ร.3” เพียงแค่ซื้อเวลา ประกาศกร้าวพร้อมชุมนุมต่อต้านครั้งใหญ่ แจงหวั่นจะกลายเป็นชนวนเหตุความขัดแย้งรอบใหม่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุริยะใส กตะศิลา ปราศรัย
วานนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญาในคดีที่ดินรัชดาฯ ว่า ก่อนที่จะวิเคราะห์ถึงคดีดังกล่าว เราจะต้องตีให้ตกเรื่องสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.3 ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วได้มีการประชุม 4 ฝ่าย คือ รัฐบาล สภา วุฒิสภา และฝ่ายค้าน แรกเริ่มทั้ง 4 ฝ่าย ก็เห็นดีเห็นงามว่าการตั้ง ส.ส.ร.3 จะช่วยคลี่คลายวิกฤตของบ้านเมืองได้ แต่พอเกิดเหตุการณ์ 7 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดดหนีออกมา โดยระบุว่า ส.ส.ร.3 ไม่ใช่ทางออกของสังคม ซึ่งต้องขอชื่นชมจากใจจริง
“ที่ต้องปรบมือให้อีกหนึ่งบุคคล คือ นายประธานวุฒิสภา ทำให้จากเดิมมี 4 ฝ่าย เหลือเพียง 2 ฝ่าย ซึ่ง 2 ฝ่ายที่เหลือ ก็คือฝ่ายเดียวกัน เพราะเป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนประธาน ส.ส.ร.3 คาดการณ์กันว่าน่าจะเป็น นพ.เหวง โตจิราการ ขณะที่เลขาฯ น่าจะเป็นนายสุชาติ นาคบางไทร ซึ่งขณะนี้หายตัวไป เพราะมีหมายจับในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ก็จะได้รัฐธรรมนูญฉบับ นปก. แต่ที่ต้องปรบมือให้กับสถาบันการศึกษา ซึ่งก็คือนักวิชาการจากหลายมหาวิทยาลัย ที่ออกมาระบุว่า ต้องยุติการเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร.3 เพราะไม่ใช่ทางออกของบ้านเมือง” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า การตั้ง ส.ส.ร.3 จึงเป็นคาถาเดียวของรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่พยายามอธิบายนอกเหนือจากพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ซึ่งเป็นแค่ข้ออ้างเพียงเพื่อที่จะให้รัฐบาลอยู่ต่อเท่านั้นเอง และการร่างรัฐธรรมนูญบนเงื่อนไขที่เกิดความแตกแยกเช่นนี้ ไม่มีทางที่จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ แต่จะทำให้กลายเป็นชนวนความขัดแย้งรอบใหม่ และถ้ารัฐบาลยังดื้อดึงที่จะตั้ง ส.ส.ร.3 ต่อไป พันธมิตรฯ อาจจะต้องชุมนุมเพื่อต่อต้าน ส.ส.ร.3 รอบใหม่ แล้วจะหาว่าไม่เตือน
ส่วนผลสอบของคณะกรรมการอิสระ เรื่องการปราบปรามประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ผลสอบสวนดังกล่าวถือว่าไม่มีความหมาย เพราะฉันทานุมัติของพี่น้องบ้านเมืองนี้ เห็นพ้องต้องกันว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นอาชญากร ซึ่งไม่ใช่อุบัติเหตุทางการเมืองที่พยายามจะหาแพะ เช่น ตัดตอนความผิด โดยอาจจะให้ ผบช.น.ลาออก แล้วป้ายความผิดให้กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนผิดคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ฉะนั้นจึงอยากท้านายสมชายว่าไม่ต้องลาออก ไม่ต้องเชื่อผู้นำเหล่าทัพ แต่กล้านับถอยหลังหรือไม่ว่าจะอยู่ได้อีกกี่วัน
“เริ่มต้นของนายสมชายมาจากผลประโยชน์ทับซ้อน และความไม่ชอบมาพากลทางธุรกิจ ซึ่งจุดจบก็คงไม่ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ฉะนั้นถ้านายสมชาย แน่จริงอย่าลาออก เพราะวันนี้ กกต.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนเรื่องคุณสมบัติของนายสมชาย เรื่องมีหุ้นในบริษัทล็อกซ อิน โฟ ซึ่งจะเข้าตาราเดียวกับกรณีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่จัดรายการชิมไปบ่นไป ซึ่ง ส.ว.มือปราบของเรา ยืนยันว่ามีหลักฐานยิ่งกว่ากรณีของนายสมัคร หลายเท่าตัว ว่ากันว่าไต่สวนคดีนี้ ไม่เกินเดือน พ.ย.จบแน่นอน ฉะนั้นหากนายสมชาย แน่จริง ต้องกอดเก้าอี้ให้นานๆ” นายสุริยะใส ระบุ
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงคดีที่ถูกตัดสินจำคุกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้อยู่แล้วว่าคำพิพากษาจะออกมาเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามซื้อศาลแล้ว แต่พอซื้อไม่ได้ก็เลยรู้ว่าตัวเองจะติดคุก ไม่เช่นนั้นคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีทางหนี นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์อีกว่า ไม่เคยคิดที่จะขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ ทั้งๆ ที่เขาขอไปแล้วเดือนกว่าๆ แต่รัฐบาลอังกฤษเขาไม่อนุมัติ เพราะเขารู้ทัน เขาจึงไม่ยอมให้รัฐบาลที่มีน้องเขยเป็นผู้นำ เข่นฆ่าประชาชน ที่สำคัญต้องขอปรบมือให้กับนักศึกษาไทยในประเทศอังกฤษ ที่ร่วมกันล่ารายชื่อ แล้วทำจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลอังกฤษ โดยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังของการปราบปรามประชาชนที่หน้าสภา และ บชน.
“วันนี้คำพิพากษาสะท้อน 3 สิ่ง คือ 1.สะท้อนว่า ที่พวกเราเชื่อว่า ระบอบทักษิณ คือ ระบอบที่โกงชาติ กินแผ่นดิน เป็นความเชื่อที่ถูกต้อง โดยเร้าเชื่อกันมาตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2548 จนถึงปี พ.ศ.2551 ซึ่งได้พิสูจน์โดยคำพิพากษาของศาลแล้วว่า พันธมิตรฯ เชื่ออย่างมีเหตุมีผล และข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้อกล่าวหาลอยๆ และไม่มีอคติ หรือมีความขัดแย้งส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สำคัญคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุว่า รวยแล้วไม่โกงนั้น วันนี้ชาวบ้านในหลายจังหวัดเริ่มไม่เชื่ออีกแล้ว ฉะนั้นเราอาจจะต้องทำซีดีคำพิพากษา พร้อมทำหนังสือขยายความคำพิพากษา ไปแจกจ่ายชาวบ้านพร้อมๆ กับซีดีตำรวจฆ่าประชาชน ชาวบ้านจะได้หูตาสว่างว่า คนที่เขาเคารพบูชานั้น แท้ที่จริงแล้วเติบโตมาจากการโกงชาติ ปล้นแผ่นดิน” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 หลายคนอาจจะข้องใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จึงโดนเพียงข้อหาเดียว คือ เรื่องเอื้อประโยชน์ให้กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร แต่ทำไมถึงไม่โดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเราต้องเคารพคำพิพากษาของศาล เพราะถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว อีกทั้งตนไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะหาหลักฐานอะไรมาอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ มีทางเดียว คือ เดินทางกลับมาเข้าคุกเท่านั้น เพราะคำพิพากษาของศาลวันนี้รัดกุม และปิดช่องโหว่ต่อทุกคำถามที่ทนายฝ่ายจำเลยโต้แย้งไป
“คำพิพากษาของศาลฎีกาครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกของการวางบรรทัดฐานเพื่อปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น หรือการทุจริตทางนโยบายได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นจากนี้ไปอุทาหรณ์ที่นักการเมือง หรือข้าราชการระดับสูงจะต้องคิดให้มาก เพราะหากคอร์รัปชั่นก็อาจจะติดคุกได้” นายสุริยะใส ระบุ