xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ ให้โอกาส"มาร์ค"ให้ดูบทเรียน"แม้ว"อย่าเหลิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯ ให้โอกาสรัฐบาลใหม่ พร้อมรอดูโฉมหน้า ครม.ใหม่ เตือนอย่าใช้ระบบโควต้า อย่าเหลิงกับอำนาจ แนะให้ศึกษาบทเรียนจากระบอบทักษิณ ด้าน "สมเกียรติ" ลั่น ปชป.พร้อมสางทุจริต พร้อมสานต่อ คตส.ปิด 18 คดีทักษิณโกง

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวเมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) จะให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ บริหารประเทศ โดยต้องการให้มีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีตามความสามารถ ไม่ใช่ตามระบบโควต้ากลุ่มการเมือง ควรจะมีสัดส่วนจากคนนอกที่มีความน่าเชื่อถือเข้ามาด้วย ในขณะเดียวกันต้องไม่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของ ครม.ร่วมรัฐบาลด้วย หลายส่วนอาจจะเอาปัญหาเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่รัฐบาลใหม่ต้องกล้าคิดเรื่องเศรษฐกิจแบบใหม่หรือเศรษฐกิจแบบพึ่งตัวเอง ไม่ใช่เดินตามแนวทางทุนนิยมสุดโต่งแบบเดิม ถ้าไม่กล้าปฏิรูปสังคมอย่างรอบด้าน สังคมไทยก็ยังจะติดหล่มความยากจนและความแตกแยกรุนแรงอีกต่อไป

"จะให้โอกาสรัฐบาลสักระยะ แต่จะเฝ้าติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี และการรื้อถอนระบอบทักษิณ รวมทั้งการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) เป็นจุดยืนที่เราพร้อมเคลื่อนไหวตลอดเวลา หากรัฐบาลมีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล"

ทั้งนี้ หลังมีการจัดตั้ง ครม. เสร็จ พันธมิตรฯ จะมีการหารือและกำหนดท่าทีและพิจาณาข้อเรียกร้องเพื่อเสนอต่อรัฐบาลอย่างเป็นทางการ พร้อมกับฝากข้อคิดถึงนายอภิสิทธิ์และพลพรรคประชาธิปัตย์ว่าอย่าเหลิงกับอำนาจมากจนเกินไป และให้ศึกษาบทเรียนจากระบอบทักษิณ ที่มีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจทุน อย่างมหาศาลแต่ก็ล้มครืนเหมือนเรือไททานิค เพราะมีอำนาจแต่ถ้าขาดความชอบธรรมก็ไปไม่ได้ เพราะอำนาจไม่ใช่ความชอบธรรม ความชอบธรรมต่างหากคืออำนาจ เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ใช่แค่จำนวนเสียงในสภาเท่านั้นแต่อยู่ที่ผลงานและการยอมรับจากสังคมมากกว่า

นายสุริยะใสกล่าวถึงการล้อมปิดสภาฯ ของม็อบเสื้อแดงซึ่งอ้างว่าเป็นการกระทำตามรูปแบบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะพันธมิตรฯ ไม่เคยปิดสภาฯ ตอนเลือกนายกฯ เราให้โอกาสทุกรัฐบาล แม้แต่ตอนโหวตนายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงสวัสดิ์ นอมินี แกนนำพันธมิตรก็ไม่เคยเคลื่อขบวนไปปิดสภาฯ ทั้งที่เราชุมนุมปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล

จากนี้ต่อไปเชื่อว่ากลุ่ม นปช. เสื้อแดง จะเคลื่อนไหวในลักษณะก้าวร้าว รุนแรงมากขึ้น แต่คงไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม เพราะก็รู้กันดีว่ากลุ่มเสื้อแดงทำทุกอย่างเพื่อ พ.ต.ทักษิณ ชนวัตร ไม่ใช่เพื่อการเมืองใหม่ เหมือนที่พันธมิตรฯ เคลื่อนไหว

**สมเกียรติลั่น ปชป.สานต่อคดี คตส.

วันเดียวกัน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ และ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ "เวทีชาวบ้านเวทีพันธมิตร" ทาง ASTV ว่า การแพ้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย สะท้อนให้เห็นว่าระบอบทักษิณเริ่มคาดการณ์ผิด เพราะซึ่งการแพ้โหวตแสดงว่าไม่สามารถที่จะซื้อเสียงในสภาได้แล้ว อีกทั้งการระดมกลุ่มเสื้อแดงเข้ามากดดันก็อ่อนแรงลงไปมากโดยรวมแล้ว ถือเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายที่มีความพยายามที่จะทวงคืนอำนาจรัฐที่เคยได้ครอบครองมา

"พรรคประชาธิปัตย์ได้ต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตลอด 8 ปี และการที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน จึงรู้ไส้รู้พุงความสามานย์ของระบอบทักษิณเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการแทรกแซงองค์กรอิสระ ซื้อเสียงประชาชน ซื้อพรรคการเมือง การทุจริตคอร์รัปชั่น" นายสมเกียรติกล่าวและว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลต่อจากระบอบทักษิณจากนี้จึงต้องมีปัญหาที่ต้องสะสางอีกมากมายยกกำลังสอง ถ้าเปรียบเทียบกับวิกฤตการณ์เมื่อปี 2540 ที่มีแค่ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้ยังต้องเจอทั้งปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ ทั้งนี้มี 3 ข้อหลักที่ต้องเร่งสะสาง คือ 1.บรรดาคดีต่างๆ ทั้ง18 คดี ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือ คตส.ได้ตรวจสอบไว้แล้ว 2. คดีการทุจริตของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย หรือ ทอท.อีก 13 คดี 3.ชะล้างองค์กรต่างๆ ที่ยังเหมือนเป็นกลไกตกค้างของระบอบทักษิณ

"ปัญหาท้าทายทั้งหลายที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า ทำไมไม่มีคนเข้าไปตรวจสอบ 13 คดีของ ทอท. ซึ่งจำเป็นต้องคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อีกทั้งองค์กรอย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ DSI องก์การอาหารและยา ที่เห็นชัดเจนว่าที่ผ่านมาทำงานเอื้อประโยชน์แก่ระบอบทักษิณ รวมไปถึงสื่อมวลชนที่ยังอิงแอบอยู่ข้างทักษิณ ทางผมและผู้ใหญ่ในพรรคได้ปรึกษากันว่าต้องเข้าไปดูแลกันให้จริงจังเสียที"

นายสมเกียรติกล่าวว่า ถ้าไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและ ASTV วันนี้อาจจะไม่มีนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนี้เริ่มเห็นเค้าลางว่าประเทศกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง ดูได้จากการที่ทางสภาอุตสาหกรรม หอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมที่โดยปกติแล้วจะไม่พูดถึงเรื่องการเมืองแต่ในวันนี้ แต่ในวันนี้ต้องออกมาพูดเพราะรัฐบาลที่ผ่านมาแก้แต่ปัญหาของตัวเอง เห็นแล้วว่าการเมืองมีผลกระทบกับภาคธุรกิจและบริษัทของเขาเหล่านั้นโดยตรง

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ บอกนายสมเกียรติว่า จะมีรายการ "นายกฯ พบประชาชน"เหมือนเดิม แต่จะแบ่งเวลาให้กับฝ่ายค้าน 1 ชั่วโมง และแบ่งให้ภาคประชาชนด้วย 1 ชั่วโมง เป็น 3 เวลา ซึ่งตอนนี้พรรคมีความตั้งใจว่าจะเป็นต้องปฏิรูปสื่อทั้งโทรทัศน์และวิทยุ โดยจะควบคู่ไปกับการปลูกฝังให้ประชาชนมีความรู้ภาคการเมืองให้มาก เพื่อที่จะรู้ข้อมูลประกอบในการตัดสินใจทำเป็นทีวีการเมืองภาคประชาชน

สำหรับบรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์วานนี้ มีบุคคลเข้ามอบแจกันและกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีกับ นายอภิสิทธิ์ อย่างคึกคัก ทั้งข้าราชการเกษียณ นักธุรกิจภาคเอกชนและประชาชน

นอกจากนี้ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงกลุ่มเสื้อแดงที่ปิดล้อมรัฐสภา และขว้างปาก้อนหินถูกรถยนต์ของ ส.ส.ภายในพรรค อาทิ นายธนา ชีรวินิจ โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งได้รับบาดเจ็บ รวมถึงรถตู้นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มเสื้อแดงบางส่วนเดินทางมาที่บริเวณถนนด้านหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และชูป้ายข้อความรวมทั้งตะโกนด่า โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนายดูแลอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด.
กำลังโหลดความคิดเห็น