“พิภพ” ปูดแผนชั่ว “รบ.นอมินี” สุดด้านเดินเกมตั้ง “ส.ส.ร.3” ซ่อนปมหวังนิรโทษกรรม “111 ซากศพ ทรท.” พร้อมหาช่องช่วย “แม้ว” ดึงทุกคดีออกจากสารระบบของกระบวนการยุติธรรม เผยสุดทึ่ง “มหัศจรรย์พันธมิตรฯ” รวมใจบริจาคช่วย “เหยื่อตำรวจชั่ว” ทะลุ 34 ล้านแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วานนี้ (22 ต.ค.) นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงความมีน้ำใจของกลุ่มผู้ชุมนุมขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า มีคนมาเล่าให้ตนฟังว่า ได้ยินเสียงผู้หญิงวัยกลางคนกำลังรับโทรศัพท์ในวันเกิดเหตุ โดยหญิงคนดังกล่าวตอบโทรศัพท์กลับไปว่า “ตอนนี้แม่กำลังจะออกไปทำเนียบฯ เพราะตอนนี้เขากำลังยิงกัน ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ถ้าแม่ตายให้แบ่งทรัพย์สมบัติให้เท่าๆ กันนะ” นั่นแสดงถึงน้ำใจอันแสนงดงามของผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมที่ทำเนียบฯ
“ผู้บาดเจ็บที่อยู่โรงพยาบาลทุกคน บอกว่าถ้าหายจากอาการบาดเจ็บแล้วจะรีบกลับไปร่วมชุมนุมต่อที่ทำเนียบฯ ส่วนเจ๊จู เห็นผู้บาดเจ็บแล้วกลัวว่าจะไม่ได้รับข่าวสาร เลยไปซื้อวิทยุให้กับผู้บาดเจ็บเพื่อจะได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญสมเด็จพระราชินี ได้พระราชทานกระเช้าดอกไม้ และผลไม้ให้กับคนเจ็บที่โรงพยาบาลกลาง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ” นายพิภพ กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายสมฤกษ์ เกษมสุขประการ ซึ่งหัวใจวายเสียชีวิตกะทันหันในระหว่างร่วมชุมนุมที่ทำเนียบฯ นั้น นายพิภพ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนและนายศิริชัย ไม้งาม รวมทั้งเพื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ได้ไปที่งานสวดอภิธรรมศพของนายสมฤกษ์ ได้นำเงินไปมอบให้แก่ครอบครัวของนายสมฤกษ์ จำนวน 50,000 บาท รวมทั้งนำพวงหรีดในนามพันธมิตรฯ ไปวางเพื่อแสดงความไว้อาลัยพร้อมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ ตนได้ถามภรรยาของนายสมฤกษ์ว่ารู้เรื่องหรือไม่ที่สามีมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ซึ่งภรรยาเขาตอบว่ารู้เรื่อง เพราะในวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังมาร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ กับสามีด้วย
“คืนวันที่ 6 ต.ค. พอนายสมฤกษ์ได้ยินข่าวว่ามีการยิงกันที่หน้ารัฐสภา เขาขับรถออกมาพร้อมกับลูกชายเพื่อเข้าร่วมชุมนุมในทันที ฉะนั้น พันธมิตรฯ จึงถือว่านายสมฤกษ์เป็นวีรชนอีกคนหนึ่งของพันธมิตรฯ ส่วนงานเผาศพของนายสมฤกษ์นั้นจะมีขึ้นที่วัดพระยาสุเรนท์ ซอยอินทรา 109 เข้าซอยไปลึกประมาณ 7 กิโลเมตร ฉะนั้น ขอให้พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ ไปร่วมงานกันให้ได้” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายพิภพ กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุพี่น้องพันธมิตรฯ หลายคนได้ช่วยดึงบางคนให้ออกจากจุดที่โดนยิงแก๊สน้ำตาจนตัวเองได้รับบาดเจ็บแทน นี่คือน้ำใจของพวกเราพันธมิตรฯ ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งมาที่กองทัพธรรมบอกว่าถ้าหายเมื่อไหร่จะออกมาร่วมต่อสู้ด้วยทันที ที่สำคัญมีบางคนที่ยังไม่หายบาดเจ็บ ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดยังอุตส่าห์ลุกออกไปสู้อีกครั้ง ทั้งๆ ที่ขายังเจ็บอยู่ มีคนมาเล่าเรื่องความมหัศจรรย์ของพันธมิตรฯ ว่า ไม่เคยเห็นจิตใจของคนที่เคยต่อสู้เหมือนพันธมิตรฯ ในครั้งนี้เลย
“มีสาวน้อยคนหนึ่งมาบอกผมว่า ที่มาร่วมชุมนุมเพื่อในหลวง รวมทั้งยังนับถือแกนนำพันธมิตรฯ เพราะสู้เพื่อชาติ เพื่อศาสนา และพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นพวกเราจึงหยุดไม่ได้ ส่วนที่ผมเข้าใจผู้ที่บาดเจ็บ และผู้พิการ เพราะผมได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้ดูแลคนเจ็บ และถ้าเราชนะแล้วต้องแยกจากกัน เราคงกอดกันกลม และคงร้องไห้เพราะคิดถึงกันมากอย่างแน่นอน ส่วนคุณหมอโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งผลัดเวรกันมาช่วยดูแลผู้ชุมนุมนั้น น่ารักมาก และขอยืนยันว่า คนเจ็บที่ไม่อยากไปโรงพยาบาล ให้มารักษาที่ซุ้มพยาบาลได้ทันที” นายพิภพ กล่าว
ส่วนเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้น นายพิภพ กล่าวว่า ยอดเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 34,034,197.61 บาท โดยทีมทำงานของตน ได้ตระเวนเยี่ยมคนเจ็บ โดยจะแบ่งการจ่ายเงินเป็น 3 ช่วง ซึ่งรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 23,066,000 บาท รวมทั้งจะมอบทุนการศึกษา และจัดเป็นเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ ซึ่งจะเหลือเงินอยู่อีกประมาณ 10,000,000 เราก็จะมาดูว่ากรณีใดที่เราจะต้องจ่ายระยะยาว และจากวันเกิดเหตุเพียง 10 กว่าวัน กลับได้รับเงินบริจาคมากขนาดนี้ จึงถือเป็นความมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง เพราะมีการรวมน้ำใจครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทุจริตจริง และบริหารประเทศให้เกิดประโยชน์กับครอบครัวของตัวเองเรื่องซื้อที่ดินในราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเตรียมการโดยให้นายพันศักดิ์ วิญญูรัตน์ ให้ไปเป็นหัวเรือใหญ่ในการวางแผนประชาสัมพันธ์ โดยจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์กล่าวหาประเทศไทยว่ากลั่นแกล้ง และลำเอียง ทั้งๆ ที่มีน้องเขยคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ
“นายสนธิ ลิ้มทองกุล บอกกับผมว่า หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับในประเทศอังกฤษ ลงข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ แถมท้ายหนังสือพิมพ์ฟุตบอลก็ยังลงข่าวทำนองเดียวกัน ที่สำคัญคนไทยในประเทศอังกฤษ ได้โทรศัพท์มาบอกผมว่า คนไทยในอังกฤษได้เคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลี้ภัยได้อย่างแน่นอน ฉะนั้น รัฐบาลไทยต้องแจ้งต่อรัฐบาลอังกฤษว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุกแล้ว โดยการตัดสินดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สละสิทธิในการต่อสู้คดี เพราะหนีหมายศาลไปอยู่ประเทศอังกฤษ แล้วจะมาบอกว่าศาลยุติธรรมไม่ให้โอกาสสู้คดีได้อย่างไร” นายพิภพ ระบุ
นายพิภพ กล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องทบทวนตัวเองว่าความคิดที่จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งนั้น มันก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างใหญ่หลวง แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รักประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ตัวตนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นอย่างไร ส่วนการเมืองในขณะนี้ มาถึงจุดการใช้เล่ห์เหลี่ยมกันขนานใหญ่ โดยเฉพาะกรณีที่รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร.3 นั้น ในส่วนของพันธมิตรฯ มีมติออกมาว่า 1.รัฐบาลไม่เคยมีความคิดที่จะปฏิรูปการเมือง แล้วจะตั้ง ส.ส.ร.3 ไปหาสวรรค์วิมานอะไร เพราะในเมื่อรัฐบาลไม่มีความคิดในเรื่องการปฏิรูปทางการเมือง แสดงว่ารัฐบาลซ่อนปมทางการเมือง โดยจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 มาตรา 190 และมาตรา 237 ออกไป ซึ่งคาดว่าจะเอาไปซ่อนในการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่
“ถ้า ส.ส.ร.3 ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเสร็จสิ้น สิ่งที่เขาจะทำก็คือ เขาจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย รวมทั้งเขาจะหาทางออกกฎหมายที่จะดึงคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากสาระบบของศาลให้หมดทุกคดี และเขาจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ” นายพิภพ กล่าวทิ้งท้าย