xs
xsm
sm
md
lg

“พล.อ.ปรีชา” ให้ 0 คะแนน “น้องป๊อก” แถลงช่อง 3 - จวกอ่อนแอทำลายศักดิ์ศรีกองทัพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
“พล.อ.ปรีชา” ตำหนิ “น้องป๊อก” แถลงบี้นายกฯ ลาออกผ่านช่อง 3 ถ้าเป็นการสอบจะให้ศูนย์คะแนน เหตุอ่อนเกินไป ทำผู้ใต้บังคับบัญชาหมดความเลื่อมใส ระบุทั้งชาติและกองทัพมีแต่เสีย ขณะ “สมชาย” ไม่มีทางลาออก แต่ ผบ.ทบ.ได้แจงเรื่องส่วนตัว สอนมวยถ้าจะเอาจริง ต้องแถลงที่เหล่าทัพ พูดให้เสียงดังฟังชัด เปรียบปืนชักออกมาแล้วต้องยิง ไม่งั้นเจ้าของปืนตาย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ปราศรัย 

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ต.ค. พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ขึ้นมาพูดวันนี้ เพราะมีความรู้สึกที่อาจจะแตกต่างจากใครหลายคนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และผู้นำเหล่าทัพ ออกมาแถลงจุดยืนทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่ารัฐบาลต้องออกไป ซึ่งมีคนโทรมาถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ ผบ.เหล่าทัพแถลงเช่นนี้ ตนขอบอกว่าเฉยๆ ถ้าเป็นข้อสอบก็ไม่ต้องอ่านเนื้อหา กาศูนย์คะแนนได้เลย และก็ไม่ผิดความคาดหมายที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงว่าจะเกาะเก้าอี้อย่างนี้ต่อไป ไม่เคยคิดว่านายสมชายจะลาออก ไม่มีทาง และผบ.เหล่าทัพก็รู้ว่าพูดไปแล้วนายสมชายคงไม่ลาออก จึงไม่เข้าใจว่าพูดทำไม

“ผมเป็นนักการทหาร ติดตามประเมินสถานการณ์บ้านเมืองตลอด ผมรู้ว่ารัฐบาลนี้ต้องการทำสงครามประชาชน เพื่อปกป้องอำนาจที่เขาช่วงชิงมาด้วยวิธีไม่ถูกต้องด้วยการซื้อเสียง และคนในรัฐบาลก็แสดงพฤติกรรมต่างๆ ว่าจะใช้มวลชนจัดตั้งของเขามาจัดการกับพันธมิตรผู้รักชาติอย่างเรา ไม่ว่า นปก.อุดร ศรีสะเกษ หรือสนามหลวง ที่ไหนๆ ก็กล่าวจาบจ้วง ถ้าเราไม่ชี้ว่าผิด ตำรวจก็ไม่ไปจับ บ้านนี้เมืองนี้ ต้องรอให้ถูกประชาชนกดดันจึงทำในสิ่งที่ควรทำ

ที่น้องอนุพงษ์ออกมานั้นอาจจะถูกความกดดันจากพวกเรานี่แหละ มันเลี่ยงไมได้ สถานการณ์มันบีบบังคับให้กองทัพต้องแสดงอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา เพื่อจะบอกว่าเขาไม่ผิด และอยู่ข้างประชาชนนะ ปะโธ่! แล้วตำรวจไล่ฆ่าประชานเกือบ 24 ชั่วโมง ไม่รู้ได้อย่างไร ยิงกันอยู่ใกล้กองทัพบกแค่นี้ ถ้าไม่รู้แล้ว ไปทำสงครามกับเขมรก็แพ้

เวลานี้น้องแพ้ต่อสิ่งที่คิดไว้แล้ว น้องแพ้ ถอยกรูดต่อความไม่ถูกต้องของรัฐบาลไปแล้ว เขาบอกว่าเขามาจากการ มีความชอบธรรม เขาต้องทำหน้าที่ต่อไป ผู้ที่ออกมาแสดงคงวามคิดเห็น เขาก็ฟัง เพราะฉะนั้น ผบ.ทบ. ผบ.เหล่าทัพก็มีค่าไม่มากไปกว่าคนแก่ๆ อย่างผมนี่แหละ

บางทีรัฐบาลอาจกลัวผมมากกว่าคุณอนุพงษ์ก็ได้ เพราะตลอดชีวิตผมให้ชาติมาตลอด ไม่มีภาพอะไรที่ทุกคนสงสัย รบกันแล้วต้องเอาชนะลูกเดียว การเมืองผมคิดไม่เป็น แล้วเวลาข้าศึกทำกับเราก่อน ผมไม่คิดว่าต้องเลือกอาวุธที่พอเหมาะกับเขาที่จะไม่ขยายวง ผมคิดไม่เป็น ผมคิดว่ามึงมา 1 กูตอบมึง 100 ตอนอยู่ชายแดนข้าศึกล้ำเข้ามา ผมไม่คิดอะไรมาก เอาระเบิดบอมบ์มันเลย รบนี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย ไม่ต้องไปคิดการเมือง เป็นทหารอาชีพ ต้องรบให้ชนะ

น้องทรงกิตติ (พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.) น้องก็ไปนั่งกับเขา น้องก็รบกับพี่มา น้องอนุพงษ์ พี่ก็รู้จักดี พี่ก็เตือนน้องแล้วเมื่อ 2 วันก่อน จะคิดจะทำอะไรนั้นให้คิดถึงชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ถ้าทหารอาชีพคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก แล้วไม่ต้องมาบอกว่า ผมยืนข้างประชาชนหรอก ไม่บอกประชาชนก็รู้

เพราะฉะนั้น น้องพลาดไปแล้วในตอนนี้ น้องสัญญาว่าถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก น้องจะหยุดการใช้อำนาจรัฐ เวลาของน้องเหลือน้อยเต็มทีแล้ว

พี่อยากจะเดือนน้อง แม่ทัพนายกองที่ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จนั้นสิ่งแรกที่ต้องสูญเสียคือการเคารพและความเชื่อมั่นของผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะฉะนั้นสิ่งนี้น้องรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าค่าของกองทัพ เกียรติ ศักดิ์ศรีของกองทัพที่ประชาชนให้กับน้อง โดยเฉพาะกำลังพลของน้องเองนั้น ทุกกองทัพเลย เวลานี้ขาดความเชื่อมั่นต่อผู้บังคับบัญชาของเขาแล้ว

แล้วกองทัพที่ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เลื่อมใสในผู้ใต้บังคับบัญชา ในขณะที่เราจะรบกับเขมร จะพูดได้อย่างไรว่าเราจะรบชนะเขมร เพราะฉะนั้นน้องทรงกิตติ น้องอนุพงษ์ ที่น้องแถลงวานนี้นั้น กองทัพเสียหาย ประชาชนขาดความเชื่อมั่น ผู้ใต้บังคับบัญชาขาดกความเชื่อมั่น รวมทั้งท่าทางที่น้องแถลงว่า “ถ้าเป็นผมก็ออกแล้ว”

เพราะฉะนั้น กิจกรรมการแสดงทางโทรทัศน์ที่น้องแสดงอยู่นั้น ชาติไม่ได้อะไรเลย คนที่ได้ไปเต็มๆ ก็คือนักจัดรายการคนนั้น ชาติเสียทุกอย่าง น้องก็เสียความเชื่อมั่นศรัทธาของกำลังพลในกองทัพ พี่ก็มีความคับข้องใจกับน้อง นายทหารนอกราชการ ประชาชนเท่าไหร่ โทรศัพท์มารับแทบไม่ไหวที่บ้าน เขาแสดงความขมขื่น เขาขมขื่น

เมื่อคืนน้องอาจจะได้ไปบ้าง ที่อาจจะได้โอกาสชี้แจงเรื่องส่วนตัวของน้อง พี่จะไม่ตัดสินว่า มันจริงหรือไม่จริง เพราะทหารอาชีพนั้น เชื่ออะไรยากมาก เพราะฉะนั้นใครจะมีความรู้สึกต่อคำแถลงของเหล่าทัพอย่างไร แต่ผมนี้ อย่างที่บอก ถ้าสอบจะให้ศูนย์หรือติดลบ

ถ้ามุ่งมั่นจะทำจริงๆ ไม่ใช่การแสดง และเพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ ไม่ต้องไปออกรายการโทรทัศน์ อย่างนี้ไปที่กองบัญชาการที่บ้านของตัว เหล่าทัพของตัว ออกมาเป็นแผงพี่จะไม่ว่าเลย แล้วพูดให้มันเสียงดังฟังชัด ทุกอย่างมันจะไม่เป็นอย่างนี้

เวลานี้อยากจะพูดว่ามันอ่อนแอเกินไปในการแถลงข่าวที่แล้วมา แล้วรัฐบาลนี้ถึงอย่างไรเขาจะต้องไม่ออก แล้วเขาก็พร้อมที่จะทำสงครามกับเรา เขาบอกแล้วชัดเจน แล้วบอกได้เลยมันจะทำสงครามกับประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่เสียสละกันมา ไม่มีวันหรอกที่ใครจะมาชนะกองทัพของเรา

เพราะฉะนั้น พี่น้อง รัฐบาลเขารู้อยู่ มีวิทยากรหลายท่านบอกว่า การนองเลือดใกล้จะเกิดขึ้น ผมรู้มาตั้งนานแล้ว เพราะอย่างไงปลิงตัวนี้มันจะดูดชาติบ้านเมืองไปจนหมดตัวในที่สุด มีทางเดียวต้องเอาดาบปลายปืน มากราดมันออกไป

เพราะฉะนั้นน้องๆ ทุกคนในกองทัพ พี่ไม่ใช่คนพูดอ้อมค้อม ไม่ต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้กับใคร แต่พี่มีชาติในหัวใจ พี่คิดอย่างไร รู้อย่างไร พี่ก็พูดเช่นนั้น แล้วพี่อยู่ในกองทัพ ไม่เคยสั่งสอนน้องให้เห็นแก่ตัว หรือทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวแม่แต่น้อย

เพราะฉะนั้นน้องเอาคำที่พูดนี้ไปไตร่ตรองแล้วต้องทำในสิ่งที่ควรจะทำให้เร็วที่สุด นะน้องทรงกิติ น้องอนุพงษ์ ปืนเมื่อชักมาแล้วต้องยิง ถ้าไม่ยิงเจ้าของปืนก็ตาย จะไม่ตายก็แต่การแสดงหนังเท่านั้น” พล.อ.ปรีชากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น