xs
xsm
sm
md
lg

จับตา 3 วันอันตราย “สมเกียรติ” ขอมองกองทัพในแง่ดี - ปลุกบิ๊กทหารตื่นเสียที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ผู้จัดการออนไลน์ – “สมเกียรติ” แนะประชาชนให้จับตา 3 วันอันตรายก่อนศาลฎีกาตัดสินคดีที่ดินรัชดา 21 ต.ค. เผยมีความพยายามปฏิวัติล้มคดีนายใหญ่-ยุบพรรค ชี้การตบเท้าให้สัมภาษณ์ของ ผบ.เหล่าทัพวันก่อนมองได้หลายแง่ เพราะมีแรงกระตุ้นหลายอย่าง เช่น เบื้องหลังปัญหาชายแดน แต่ตนขอมองกองทัพในแง่ดีไว้ก่อน กระนั้นประชาชนก็ต้องพึ่งกำลังตัวเอง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นปราศรัย ณ เวทีทำเนียบรัฐบาล โดยนายสมเกียรติกล่าวว่าตนเพิ่งเดินทางกลับจากการปราศรัยใน 3 อำเภอของ จ.เพชรบูรณ์ ประกอบไปด้วย อ.ชนแดน อ.วิเชียรบุรี และ อ.หนองไผ่ ซึ่งก็มีพันธมิตรฯ เข้ามาทักทายและฟังปราศรัยของตนเป็นจำนวนมาก

ต่อมา นายสมเกียรติกล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการทหารสูงสุดออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ทางช่อง 3 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า สูญเปล่าไปเสียแล้วเนื่องจากวานนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พร้อมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้ออกมาปฏิเสธการกดดันของผู้นำกองทัพอย่างไร้เยื่อใย และฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็กำลังจ้องทำการปฏิวัติเพื่อประกาศยกเลิกในสองเรื่องอยู่ นั่นคือ ยกเลิกคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวทั้งหมด ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ ยกเลิกเรื่องการยุบพรรคทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชาชน มัชฌิมาธิปไตย ชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน

“ถ้าทักษิณโดยกองทัพตำรวจร่วมกับเตรียมทหารรุ่นที่ 10 ก่อรัฐประหารได้เขาก็จะออกประกาศคณะปฏิวัติสองเรื่อง เรื่องแรกคือ นิรโทษกรรมบรรดาคดีทั้งปวงของทักษิณ ครอบครัว และสุนัขรับใช้ทั้งปวง ทุกคดีเรียบร้อยหมดเลย ส่วนประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่สองจะยกเลิกคดีใดๆ ที่เกี่ยวกับการพิจารณายุบพรรค” นายสมเกียรติ กล่าว

ผบ.เหล่าทัพชี้ “ทักษิณ” บงการกัมพูชารบไทย

ต่อมา นายสมเกียรติได้เปิดเผยว่า มีนายทหารระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพท่านหนึ่งได้แจ้งข่าวให้แกนนำพันธมิตรฯ ว่า กรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชานั้นมีหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน โดยปัจจัยดังกล่าวนี้ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ทหารออกมาให้สัมภาษณ์ทางช่อง 3

“ผู้บัญชาการเหล่าทัพคนหนึ่ง ส่งสัญญาณมาถึงพวกเราว่า ได้สรุปกันเรียบร้อยแล้วว่า การเคลื่อนไหวของกัมพูชาคราวนี้เกิดจากการออกแบบของไอ้หน้าเหลี่ยมครับพี่น้อง จึงทำให้เกิดแรงแค้นที่หนึ่ง แล้วแรงแค้นที่สอง มีคนด่ากองทัพ คนด่าตำรวจเรื่องฆ่าประชาชน แรงขับที่สามของแรงขับที่คนไปเสนอแนะว่าบ้านเมืองไม่มีทางออก ก็เลยตั้งโต๊ะแถลงข่าวกันทางช่อง 3” ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์กล่าว

พร้อมกล่าวต่อว่า หลังการแถลงข่าวของผบ.เหล่าทัพเมื่อวันพฤหัสบดี นายสมชายก็เกิดฮึดสู้แถลงว่าจะไม่ลาออก-ไม่ยุบสภา ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถึงกับโทรศัพท์ไปที่ช่อง 3 ถามหาต้นตอของผู้ติดต่อให้ ผบ.เหล่าทัพ และนายทหารระดับสูงออกมาแถลงข่าวผ่านรายการ ทว่าในวานนี้ นายทหารกลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ

ชี้ทหารบางคนยังทำไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“บ้านเมืองมันก็เลยอึมครึม อย่างโฆษกกองทัพบกออกมาบอกว่าบ้านเมืองยังอึมครึม เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่สั่งการอะไร แต่สิ่งที่ไม่อึมครึมก็คือ ยอดพันธมิตรฯ ผู้บาดเจ็บจากกรณีวันที่ 7 ต.ค. ทะลุเป้า 600 คนไปเรียบร้อยแล้วครัว มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คนและยังไม่รู้สึกตัวอีก 2 คน ถ้ารวมจำนวนผู้ที่ยังไม่รู้สึกตัวทั้งหมดนั้นก็เป็น 6 คน โดยสองคนอยู่ในโรงพยาบาล อีกสี่คนอยู่ในกองทัพ” นายสมเกียรติกล่าว

พร้อมระบุว่า ขณะนี้ทหารบางคนยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเมืองบ้าง ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ สุกงอมตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม ที่มีการทำร้ายร่างกายประชาชนและตำรวจถืออาวุธหนักบุกทำเนียบแล้ว ส่วนกรณีวันที่ 7 ตุลาคมนั้นสถานการณ์ได้เลยคำว่าสุกงอมมามากแล้ว

จับตา 3 วันอันตราย

แกนนำพันธมิตร กล่าวต่อว่า คืนนี้ในเวลาประมาณ 19.00 น. ตนจะมาเล่าถึงพัฒนาการของขบวนการในการล้มล้างสถาบัน โดยเฉพาะจากกรณีที่วานนี้ ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นายสุชาติ นาคบางไทร หรือวราวุธ ฐานังกรณ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั้งนี้ ในช่วง 3 วันข้างหน้านี้ก่อนถึงวันพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกรณีที่ดินรัชดาของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิง พจมาน ชินวัตร ในวันที่ 21 ต.ค. นี้ ถือเป็นช่วงสามวันอันตรายที่อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้

“พรุ่งนี้ผมจะขอลำดับเหตุการณ์ของการรุกคืบเข้าสู่สถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด เพื่อเตือนว่าภายในสามวันนี้เหตุการณ์ใหญ่จะเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ชัยชนะต้องเป็นของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่มีแพ้เลย” นายสมเกียรติกล่าว

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่พิพากษาคดีมาแล้ว 2 คดี คือ คดีทุจริตยาของนายรักเกียรติ สุขธนะ ที่โกงยาและเครื่องมือแพทย์มูลค่า 1,400 ล้านบาท โดยถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ส่วนคดีที่ 2 คือ คดีคลองด่านของนายวัฒนา อัศวเหม ที่ตัดสินจำคุก 10 ปี จะมีความอิสระในการพิจารณาดคี และน่าจะมีแนวโน้มคำตัดสินอย่างที่พี่น้องพันธมิตรฯ คาดหวังเอาไว้

“ผมจึงบอกว่าสามวันนี้อย่าเพิ่งไปไหน รอวันพิพากษาคดีที่สาม หลังจากนั้นอะไรจะเกิดก็เกิด เพราะถ้าเกิดหลังจากนั้นไม่เป็นเหตุให้เกิดการลี้ภัย” นายสมเกียรติ วิเคราะห์ พร้อมระบุด้วยว่า หลังเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. มีข่าวสะพัดมาว่าตำรวจจะสนธิกำลังกับนายทหารเตรียมทหารรุ่น 10 จำนวนสามนาย เพราะมีเงินไหลเข้ามามาก

“มองอย่างเข้าใจบิ๊กป๊อก หวังว่าท่านจะยืนอยู่ข้างประชาชน ... การออกรายการเมื่อวันที่ 16 ต.ค. และไล่นายสมชายอย่างสุภาพ มองในแง่ดี เข้าใจว่าทหารกำลังบอกว่าพวกมึงที่คิดรัฐประหาร เราผนึกกำลังกันแล้ว อย่าคิดปฏิวัตินะ แต่ถ้ามองในแง่ร้ายก็คือ รออนุมัติงบประมาณจากภาครัฐซื้อยุทโธปกรณ์” นายสมเกียรติกล่าว พร้อมระบุว่า อย่างไรก็ตามประชาชนก็ยังต้องพึ่งพากองทัพของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

แจงผลกระทบหลัง ป.ป.ช.ฟัน “สมชาย”

ส่วนกรณีที่เมื่อวันที่ 16 ต.ค. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาชี้มูลความผิดว่า นายสมชาย สมัยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เอาเงินค่าธรรมเนียม 70 ล้านบาท เข้ารัฐ หลังจากขายทอดตลาดที่ดินมูลค่า 827 ล้านบาท นายสมเกียรติชี้ว่า กรณีนี้เรื่องต้องถูกส่งต่อไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อไล่ออกหรือปลดออก ซึ่งจะส่งผลต่อการดำรงตำแหน่ง ส.ส.และ นายกรัฐมนตรี ของนายสมชาย

“อนุกรรมการกระทรวงลงมติ ไล่ออก หรือ ปลดออก พอเป็นเช่นนี้ ก็เข้าสู่ มาตรา 102(6) ที่ระบุว่า ส.ส.ต้องไม่เคยถูกลงโทษไล่ออก หรือ ถูกให้ออกจากราชการ ก็จะพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าใจว่าขั้นตอนนี้จะล่าช้า เพราะกระทรวงนี้ควบคุมโดยพวกเขา เราจึงต้องเอาเขาลงโดยวิธีอื่นดีกว่า” นายสมเกียรติชี้แจง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี
กำลังโหลดความคิดเห็น