ปชป.เชื่อเขมรขู่บุกไทยมีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง หวังปั่นข่าวกลบกระแสวิกฤตการเมืองในไทย ระบุศักยภาพกองทัพไม่มีทางต่อกรกับไทยได้ เชื่อมีอะไรแอบแฝงจึงกล้าหือ จี้รัฐบาล-บัวแก้ว-กองทัพ แจงข้อเท็จจริง เหตุคู่เจรจาไม่จริงใจ หวั่น เพลี่ยงพล้ำเสียหายรุนแรงกว่าปี 2505
วันที่ 14 ต.ค. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกัมพูชาประกาศให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ทับซ้อนบนเขาพระวิหารว่า ปัญหาเรื่องนี้คงไม่จบ รัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศไม่เคยแสดงเจตนาที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหา โดยเป้าหมายสุดท้ายคือการเชื่อมโยงไปถึงผลประโยชน์ทางทะเลที่มีมหาศาล ซึ่งที่ประชุมพรรคได้มีการหารือในเรื่องนี้และเรียกร้องให้รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงจุดยืนอย่างแข็งขันในการรักษาผลประโยชน์ของไทย รัฐบาลและกองทัพต้องออกมาชี้แจงว่าทหารไทยได้มีการถอนกำลังจริงตามที่กัมพูชาออกมากล่าวอ้างจริงหรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกองทัพ เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาประกาศบุกประเทศไทยเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็มีการออกมายืนยันจากกัมพูชาว่าไทยได้ถอนกำลังออกไปแล้ว
“เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมีเบื้องหลังเพราะท่าทีของรัฐบาลกัมพูชาไม่เคยแข็งกร้าว หรือว่าอาจจะมีเจตนาเพื่อให้เป็นข่าวใหญ่เพื่อกลบข่าวในประเทศ ซึ่งทางทหารเป็นที่ทราบกันดีว่าขีดความสามารถของกองทัพไทยเหนือกว่าประเทศเพื่อนบ้านรวมไปถึงกัมพูชาที่ไม่สามารถจะต่อกรกับไทยได้ แต่ต้องมีอะไรถึงกล้าออกมาขู่ เหมือนมีเจตนาอื่นแอบแฝงหรือไม่ใครอยู่เบื้องหลัง” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องทีเกิดขึ้นไม่จบเพียงเท่านี้หากรัฐบาลไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ ไม่เข้าไปแก้ปัญหา ต่อไปจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ที่ประเทศไทยอาจจะเพลี่ยงพล้ำในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมายระหว่างประเทศและในเชิงยุทธศาสตร์ เนื่องจากคู่เจรจาของไทยไม่มีความจริงใจ ที่กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไทยทราบดี และที่ผ่านมาการเจรจาไม่เคยได้ข้อยุติแต่ก็ไม่มีเคยมีปัญหารุนแรงขนาดนี้ จึงถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ที่ต้องหาข้อเท็จจริงให้ได้ข้อยุติ
“เหตุการณ์นี้ถือว่ารุนแรงที่สุดถึงขนาดขู่ว่าจะบุกประเทศไทย เหมือนกับตั้งใจให้เป็นข่าวใหญ่ หลังจากประเทศไทยมีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายใน เรื่องนี้ต้องทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องการถอนกำลังหรือไม่ถอน ที่มีข่าวคลาดเคลื่อน รัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศต้องออกมาชี้แจง เพราะการประกาศบุกไทยถือว่ารุนแรงทางการทูตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแต่ไทยยังนั่งยิ้มรับ ดังนั้นจึงคารออกหนังสือประท้วงและเรียกทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เรื่องนี้จึงไม่จบง่ายๆ หากกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาล วางกลยุทธ์ผิดพลาด ความเสียหายจะรุนแรงมากกว่าปี 2505” นายพีระพันธุ์ กล่าว
รองประธานคณะกรรมาธิการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ คณะกรรมาธิการทหารจะเชิญ ผบ.เหล่าทัพ ทั้งทัพบก ทัพเรือ และ อากาศ มาชี้แจงและให้ข้อมูลถึงศักยภาพ ขีดความสามารถ และความพร้อมของกองทัพไทยต่อการถูกกัมพูชาบุกได้อย่างไร และขาดแคลนอะไร เพื่อสอบถามถึงความพร้อมและแผนการรองรับที่จะเกิดขึ้น
