ปลัดกลาโหม จวกคนใกล้ชิดนายกฯ ไม่รายงานข้อเท็จจริง คิดเอาใจ“น้องเขยแม้ว”เกินไป จึงไม่รีบแก้ปัญหา ระบุอันตราย ขรก.มัวแต่พากันยอนาย ขาดความจริงใจ พูดใน คตร.อย่าง ต่อหน้านายกฯ อีกอย่าง เผยเหตุ ผบ.เหล่าทัพไม่ร่วมประชุมสลายพันธมิตรฯ เพราะไม่ใช่ลูกน้อง“พล.ต.ท.”
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังจากประชุมวิดีทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จากจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่า การที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทยและรองนายกฯ ใช้กระทรวงกลาโหมเป็นที่ประชุมเพื่อการหารือถึงการสลายการชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากว่ากระทรวงมหาดไทยติดการประชุมกับนายกฯ จึงต้องใช้พื้นที่อื่น แต่ในส่วนที่ไม่มีผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วมประชุม ไม่ได้มีนัยอะไร เพราะถามดู พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วจะเห็นว่ามีคำสั่งแต่งตั้ง ผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ดังนั้นเมื่อตั้งนายตำรวจยศพลโทเป็นหัวหน้า จะให้ ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมได้อย่างไร ผบ.ไม่ใช่ลูกน้อง จึงต้องมอบให้ รอง ผบ.ร่วมประชุมแทน
แหล่งข่าวในที่ประชุม ระบุว่า ในที่ประชุมได้ได้มีการหารือกันในหลายประเด็น โดยมีการจับตามองว่าทหารจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ พล.อ.อภิชาติ ซึ่งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมประชุม และได้ระบุว่า คนใกล้ชิดของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีไม่รายงานข้อเท็จจริงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการปิดสนามบินสุวรรณภูมิให้นายกรัฐมนตรีรับทราบว่า ขณะนี้บ้านเมืองวิกฤตขนาดไหน ประเทศไทยสูญเสียเงินเป็นแสนล้านบาท เพราะเท่าที่ดู นายกฯ คิดจะซื้อเวลา ให้สถานการณ์คลี่คลายเอง
“ปลัดกระทรวงกลาโหม ท่านบอกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด และข้าราชการประจำหลายคนต้องมีอุดมการณ์ และ พูดอย่างตรงไปตรงมา อย่าพูดเอาใจนายกรัฐมนตรีมากเกินไป ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่มีโอกาสได้รับข้อมูลข้อเท็จจริง ว่าขณะนี้บ้านเมืองวิกฤตขนาดไหน คนรอบข้างมีแต่คำสรรเสริญเยินยอ ว่านายกรัฐมนตรีมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว ตรงที่หาความจริงใจไม่ค่อยได้ เท่าที่ผมดู ข้าราชการหลายคน พูดในที่ประชุม คตร.(คณะกรรมการ ติดตามสถานการณ์ร่วม)อย่าง มาพูดในที่ประชุมวันนี้อย่าง “แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว เปิดเผยอีกว่า นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่าจะใช้อำนาจตามขั้นตอน และจะยังไม่มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยจะเน้นการเจรจาเป็นหลัก
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังจากประชุมวิดีทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จากจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่า การที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทยและรองนายกฯ ใช้กระทรวงกลาโหมเป็นที่ประชุมเพื่อการหารือถึงการสลายการชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากว่ากระทรวงมหาดไทยติดการประชุมกับนายกฯ จึงต้องใช้พื้นที่อื่น แต่ในส่วนที่ไม่มีผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วมประชุม ไม่ได้มีนัยอะไร เพราะถามดู พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วจะเห็นว่ามีคำสั่งแต่งตั้ง ผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ดังนั้นเมื่อตั้งนายตำรวจยศพลโทเป็นหัวหน้า จะให้ ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมได้อย่างไร ผบ.ไม่ใช่ลูกน้อง จึงต้องมอบให้ รอง ผบ.ร่วมประชุมแทน
แหล่งข่าวในที่ประชุม ระบุว่า ในที่ประชุมได้ได้มีการหารือกันในหลายประเด็น โดยมีการจับตามองว่าทหารจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ พล.อ.อภิชาติ ซึ่งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมประชุม และได้ระบุว่า คนใกล้ชิดของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีไม่รายงานข้อเท็จจริงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการปิดสนามบินสุวรรณภูมิให้นายกรัฐมนตรีรับทราบว่า ขณะนี้บ้านเมืองวิกฤตขนาดไหน ประเทศไทยสูญเสียเงินเป็นแสนล้านบาท เพราะเท่าที่ดู นายกฯ คิดจะซื้อเวลา ให้สถานการณ์คลี่คลายเอง
“ปลัดกระทรวงกลาโหม ท่านบอกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด และข้าราชการประจำหลายคนต้องมีอุดมการณ์ และ พูดอย่างตรงไปตรงมา อย่าพูดเอาใจนายกรัฐมนตรีมากเกินไป ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่มีโอกาสได้รับข้อมูลข้อเท็จจริง ว่าขณะนี้บ้านเมืองวิกฤตขนาดไหน คนรอบข้างมีแต่คำสรรเสริญเยินยอ ว่านายกรัฐมนตรีมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว ตรงที่หาความจริงใจไม่ค่อยได้ เท่าที่ผมดู ข้าราชการหลายคน พูดในที่ประชุม คตร.(คณะกรรมการ ติดตามสถานการณ์ร่วม)อย่าง มาพูดในที่ประชุมวันนี้อย่าง “แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว เปิดเผยอีกว่า นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่าจะใช้อำนาจตามขั้นตอน และจะยังไม่มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยจะเน้นการเจรจาเป็นหลัก
