“พันธมิตรฯ” ไม่กลัวตาย เกณฑ์ไพร่พลการ์ดอาสาเตรียมรับมือ หลังลือสะพัด “ชายอำมหิต” เตรียมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเย็นนี้ และสั่งสลายการชุมนุมที่สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง “แกนนำพันธมิตรฯ” ประกาศ หากถูกสลายพร้อมนัดชุมนุมใหม่อีกครั้งพรุ่งนี้เพื่อยึดทำเนียบฯคืน
วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 18.31น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลว่า บนเวทีปราศรัยชั่วคราวได้มีการประกาศรับอาสาสมัครการ์ดเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่างรายละเอียดเตรียมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บริเวณสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะมีการแต่งตั้ง พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.นายทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์
ทางด้านเวทีชุมนุมพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวปราศรัยว่า แกนนำทุกคนต่างตกลงกันที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุดและถอยไม่ได้ แม้จะมีกระแสข่าวการสลายการชุมนุมก็ตาม โดยแกนนำได้มีการประเมินสถานการณ์ว่ารัฐบาลอาจจะจับมือกับกองทัพเพื่อสลายการชุมนุมในทุกจุด ทั้งทำเนียบรัฐบาล ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งหากมีการใช้อาวุธจนสลายการชุมนุมได้ ก็จะเรียกชุมนุมใหญ่อีกในวันรุ่งขึ้น เชื่อว่าจะยิ่งทำให้มีจำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จึงขอให้ผู้ที่ยังอยู่ที่บ้านเตรียมตัวให้พร้อม ในขณะที่ต้องติดตามท่าทีของนายสมชาย และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
พล.ต.จำลอง ยังย้ำด้วยว่า หากมีการสลายจริงก็ขออย่าให้กลุ่มผู้ชุมนุมตกใจกลัว เพราะอาจจะเป็นลักษณะของการฉีดน้ำใส่
“หากมีการสลายการชุมนุมจริงขอให้มารวมตัวกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ที่ถนนราชดำเนินนอก บริเวณแยก จปร.ถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และลานพระบรมรูปทรงม้า ถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อยึดทำเนียบรัฐบาลกลับคืนมาอีกครั้ง และขอให้พันธมิตรฯ เก็บซ่อนเสื้อเหลือง เพื่อป้องกันการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” พล.ต.จำลอง กล่าว
ด้าน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ได้กล่าวบนเวทีว่า การชุมนุมวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้าย ก่อนจะพูดทิ้งท้ายว่าจะมีทหารที่ไม่ใช่กองทัพภาคที่ 1 ออกมาปกป้องประชาชน เพราะได้รับแจ้งว่า กองทัพที่ประจำการอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ได้เตรียมพร้อมเครื่องบิน ซี-130 จำนวน 3 ลำ และจะส่งกำลังมาทันทีหากประชาชนถูกปิดล้อม