xs
xsm
sm
md
lg

“พิเชฐ” ชี้ ระบอบทักษิณโกงสูงสุด ย้ำ ปชต.คู่การเมืองใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พิเชฐ” ชี้ การเมืองเก่าสุดเน่า ระบอบทักษิณโกงกินเชิงนโยบายสูงสุด จากการเปรียบเทียบชาติเป็นบริษัทจำกัด ระบุ ดาวเทียมเป็นของคนไทยบริษัทที่ได้รับสัปทานไม่มีสิทธิ์ขายให้ต่างชาติ มั่นใจการเมืองใหม่เท่านั้นคือที่จะเป็นคำตอบหลังจากนี้

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิเชฐ พัฒนโชติ ปราศรัย 

วันนี้ (1 ต.ค.) เวลาประมาณ 18.45 น.นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีต ส.ว.นครราชสีมา ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในทำเนียบรัฐบาล ว่า ในอดีตที่ผ่านมามีคำพูดหลายประโยคที่อยากให้ฟัง เริ่มด้วยคำพูดของอดีตนายกฯ 2 คน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ นายชวน หลีกภัย โดยคนแรกพูดถึงประเทศไทยว่าเปรียบเสมือนบริษัทจำกัด ส่วนอีกท่านพูเหมือนเป็นการทำนายเอาไว้ว่าจะไม่ยอดให้ใครมาปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติ และคนๆ นั้นจะไม่มีแผ่นดินอยู่หากทำแบบนั้น

ทั้งนี้ จากคำพูดดังกล่าวปรากฏว่า อดีตนายกฯ คนที่ 23 คือ ทักษิณ ต้องไม่มีแผ่นดินอยู่มาแล้วถึง 2 หน ซึ่งหากไม่รูว่าประชาชนเคยตั้งคำถามกับตัวเองหรือไม่ ว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้เขาไม่มีแผ่นดินอยู่ ทั้งที่การเข้ามาเป็นนายกฯ ของเขาดูเหมือนจะมีองค์ประกอบสมบูรณ์ที่สุด ทั้งการมีเพื่อข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มากมาย และการมีธุรกิจใหญ่โต เป็นที่รู้จักในวงการค้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อผมพยายมศึกษาแล้วพบว่า ปัจจัยหลัก คือ การโกงชาติ เนื่องจากแนวคิดของเขาที่ผิดตั้งแต่ต้น ในการเปรียบประเทศเป็นบริษัทของตนเอง และจะเอาเงินของบริษัทไปทำอะไรก็ได้ ซึ่งการเมืองเก่านั้นถูกธุรกิจแทรกซึมมาตลอด โดยมีการคอร์รัปชันมาทุกยุคสมัยแต่ในสมัยนั้นถือว่ามากที่สุด จนรุกลามไปถึงการเมืองท้องถิ่นในที่สุด

“หากใครรู้จะมีคุณนาย 30% คือ ใครจะรับเหมาจะทำสัญญาอะไรกับรัฐไม่ว่าที่ไหน เธอคนนี้เข้าไปยุ่งหมด เก็บทุกคน 30% และอีกวิธี คือ การฮั้วประมูลโดยให้เงินว่าจ้างจำนวนน้อย และเก็บงบประมาณที่เหลือไว้เอง ในพื้นที่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ เมื่อตอนภัยแรง ปี 2546 มันไปกลับนำงบใน 2 ปีที่แล้วไปแจกตอนปี 2548 ที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง และอ้างว่าเป็นผลงานของเขา แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือประชาชนที่เดือนร้อนอยู่แล้ว กลับถูกซ้ำเติมอีกเมื่อเขานำปุ๋ยที่ผสมอิฐมาแจก” นายพิเชฐ กล่าว

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า การโกงที่เจ็บปวดที่สุด คือ การคิดว่าประเทศเป็นบริษัทของตนเอง ทำให้การทุจริตทางนโยบายมีมากขึ้น โดยหากดูในกรณีของดาวเทียมแล้ว เขาไม่สิทธิ์ที่จะเอาไปขายเพราะเป็นสิทธิ์ของประเทศที่จะมีวงโคจรดาวเทียมหนึ่ง แต่นี่กลับนำสัปทานที่ได้ไปขาย ซ้ำร้ายยังมีการหลีกเลี่ยงภาษีอีก ซึ่งการทุจริตรูปแบบนี้มีมากเหลือเกิน และบางส่วนก็ถูก คตส.จับได้และดำเนินคดีไปบ้างแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการโกงที่นับเป็นปรากฏการของโลกที่ไม่เคยเกิดที่ไหนมาก่อนอีกด้วยคือ การปล่อยเงินกู้ให้ประเทศพม่า แล้วให้ผู้ได้รับเงินกู้นำเงินไปจ่ายให้กับบริษัทตนเองที่ทำกิจการอยู่ในประเทศนั้น โดยวิธีการแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยในโลกแม้แต่ครั้งเดียว แต่กลับมาเกิดในประเทศไทย

“วิธีการแบบนี้มากมายเหลือเกืนที่แสนทุเรศ คือ การเริ่มต้นด้วยโครกงารเอื้ออาทรต่างๆ โครงการบ้านเอื้ออาทรเป็นแสนล้านมันฟัน 30-40% ตั้งแต่ซื้อที่จัดสร้าง แต่ที่แปลกเห็นจะเป็นแอร์โฮสเตสเอื้ออาทรที่มีการนำงบประมาณของรัฐมาจัดอบรม แต่เมื่อถึงเวลากลับนำไปเป็นลูกจ้างในบริษัท แอร์เอเชีย ที่ตนเองให้เข้ามาทำกิจแทน” นายพิเชฐ กล่าว

สำหรับการโกงในเชิงนโยบายก็กล่าวไปบ้างแล้ว แต่ยังมีในส่วนของลูกชายของเขาอีกคน ที่จำไม่ได้แน่ว่าตอนนั้นจบการศึกษาหรือยัง แต่กลับตั้งบริษัท ฮาวคัม และสามารถเข้าไปรับเหมาการจัดการโฆษณาของรถไฟฟ้าได้ โดยหากจำกันได้ผู้ว่าการ รฟม.ในสมัยนั้น ก็คือ นายประภัสร์ ที่ นายสมชาย ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ในขณะนี้นั้นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเมืองเก่าที่ประชาชนเจอมาตลอด โดยการเมืองใหม่เท่านั้นที่จะเป็นคำตอบหลังจากนี้ และต้องเป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอำนาจ ไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง หรือ โกงเลือกตั้งเขามาเท่านั้น แต่ประชาชนถูกคนต้องมีอำนาจที่แท้จริง ส่วนสื่อมวลชนก็สามารถตรวจสอบการทำงานของภาครัฐได้อย่างเสรีมิใช่รับเงินมาก็เลิกพูดถึง ซึ่งนี้เป็นแค่พาร์ทแรกเท่านั้น และครั้งต่อไปผมจะมาพูดถึงการเมืองใหม่อีกครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น