xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ย้ำการเมืองใหม่สร้างชีวิตใหม่-ติงข้อเสนออธิการฯ เหมือนให้โจรออกกฎจับโจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
“สนธิ” ขอไม่ร่วมประชุมการเมืองใหม่ หวั่นเกิดภาพการครอบงำ แค่ทำหน้าที่จุดประกายก็พอ พร้อมฝากหลักสำคัญการเมืองใหม่ต้องทำให้สถาบันกษัตริย์เข้มแข็ง คนเข้าสู่การเมืองเพื่อเสียสละ สร้างชีวิตใหม่ให้คนไทย เสนอระยะสั้นต้องเลือกคนดีเป็น กกต.กันนักการเมืองชั่วเข้าสู่อำนาจ ชี้ข้อเสนอ 24 อธิการฯ เจตนาดี แต่การให้รัฐบาลตั้ง กก.ปฏิรูป เหมือนให้โจรออกกฎจับโจรเอง เผยให้สัมภาษณ์สื่อฮ่องกง หากการเมืองใหม่สำเร็จ ไทยจะน่าอยู่ที่สุดในเอเชีย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 28 ก.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ถึงแม้ตนจะเป็นคนจุดประกายเรื่องการเมืองใหม่ แต่ในการประชุมสัมมนาการเมืองใหม่ 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย และจะไม่เข้าประชุมตลอดไป เพราะมีหน้าที่จุดประกายให้พี่น้องประชาชนรู้ว่าเราต้องการการเมืองใหม่ แต่จะไม่ลงไปข้างล่างหรือข้างใน เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าไปครอบงำ เราเพียงแค่ให้เกิดความคิดทางการเมืองใหม่เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นายสนธิ กล่าวว่า ตนได้ฝากผ่านแกนนำคนอื่นไปว่า การเมืองใหม่จะอย่างไรก็ตาม หลักสำคัญที่ต้องคิดไว้เลย คือ ต้องให้สถาบันกษัตริย์เข้มแข็ง ใครจะมาล้มไม่ได้ จะออกแบบอย่างไรก็ตาม ต้องให้พระมหากษัตริย์เข้มแข็ง และคืนพระราชอำนาจให้พระองค์ท่าน เพราะพระองค์ทรงทศพิธราชธรรม พระองค์ท่านไม่เคยขอพระราชอำนาจคืน และทรงใช้พระราชอำนาจตามที่ทรงได้รับเท่านั้น แต่ตนได้พูดเมื่อวานนี้เราต้องถวายพระราชอำนาจในการแต่งตั้งพระสังฆราชคืน เพราะพระองค์ทรงเป็นพุทธมามกะ อักนัยหนึ่งพระองค์ท่านคือสมภารใหญ่ แต่การเมืองยุคหลังมีการดึงพระราชอำนาจนี้ออก ผ่องถ่ายให้รัฐบาลแต่งตั้ง โดยผ่านเถรสมาคม ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะในที่สุดแล้วมหาเถรสมาคมก็แข่งกันชิงอาวุโส เหมือนกับว่ามีการกำหนดเป็นซี 7 8 9 10 ศาสนาพุทธจึงวุ่นวายเพราะการเมืองเข้ามาแทรก แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านมีพระราชอำนาจ ไม่เคยมีปัญหา มาปัญหามียุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นี้เอง

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ที่พูดไปเมื่อวานนี้จะตอกย้ำอีกครั้ง เมื่อพระองค์ท่านทรงเป็นจอมทัพไทย พระองค์ท่านต้องมีพระราชอำนาจในการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงระดับผู้บัญชาการทหารบก ทหารเรือ ทหารทัพอากาศ ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐมนตรีกลาโหมหรือนายกรัฐมนตรี ถึงแม้ว่าองคมนตรีจะไม่เห็นด้วย ถ้าไม่เห็นด้วยองคมนตรีจะต้องส่งกลับมาให้นายกฯ แก้โผ แต่ถ้านายกฯ ไม่ยอมแก้ พระองค์ท่านถึงจะไม่เห็นด้วยก็ต้องจำใจลงพระปรมาภิไท เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ต้องรักษา พระสังฆราช ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้อยู่ในพระราชอำนาจของราชบัลลังก์ ราชบัลลังก์จึงจะมั่นคง จึงจะไม่มีใครมาจาบจ้วง หรือเจตนาจะล้มล้าง

นายสนธิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะทำอย่างไรก็ตาม การเมืองใหม่ขอให้การเข้ามาสู่การเมืองคือการเสียสละ ไม่ใช่การเข้ามาทำมาหากิน ระยะสั้นต้องขอให้เอาคนดีมาเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อที่ใครก็ตามที่คิดจะมาลงทุนการเมือง ก็จะรู้ว่า ถ้า 5 คนนั้นเป็น กกต. ต้องโดนใบแดงแน่นอน

“นั่นเป็นระยะสั้น ระยะยาวต้องคิดระบบ ไม่ให้ กกต.ไม่ถูกซื้อขาย วิกฤติบ้านเมือง 2 ครั้งที่เกิดขึ้น ก็เพราะ กกต. ยุคแรกเกิดเพราะ 3 หนา 5 ห่วง ยุคที่ 2 เกิด เพราะ กกต. 2 ใน 5 คน ถ้าเขาทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ ป่านนี้วิกฤติชาติไม่มีแล้ว เพราะพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว แต่เป็นเพราะ กกต.2 ใน 5 คน รับเงินระบอบทักษิณทั้งคู่ แล้วไปรับกันที่ รร.เรดิสันข้างบน ไม่ต้องเอ่ยชื่อพี่น้องก็รู้” นายสนธิกล่าว และว่า เรื่องบางเรื่องที่สามารถดับไฟแต่ต้นลมได้ก็ควรดับไว้ก่อน กกต.มีหน้าที่เปิดประตูให้คนเข้ามาบริหารบ้านเมือง แต่ กกต.เปิดประตูให้โจรเข้ามาด้วย เราจึงมานั่งเหนื่อยไล่โจรอยู่ทุกวันนี้

นายสนธิ กล่าวอีกว่า การเมืองใหม่มีความหมายมาก วันนี้ไม่มีใครห้าม หรือหยุดยั้งความคิดการเมืองใหม่อีกต่อไป ทุกคนยอมรับหมด และจุดยืนของพันธมิตรฯ นั้น เข้าใจ เห็นใจ และขอบคุณความเห็นดีๆ ของ 24 อธิการบดีที่เสนอการเมืองใหม่ แต่เราขอแนะนำว่าวิธีการเสนอของท่านนั้นไม่ถูกต้อง เพราะว่าถ้าการเสนอให้รัฐบาลเป็นคนตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณาการเมืองใหม่ ก็จะตั้งคนของรัฐบาลเข้ามา เมื่อตั้งมาแล้ว ถ้ากรรมการเป็นคนดี มีมติว่าต้องเปลี่ยนแปลง รัฐบาลก็จะไม่เปลี่ยนแปลงตาม เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ จะเริ่มได้ก็ด้วยมหาประชาชน ประชาภิวัฒน์ของพันธมิตรฯ ที่จะเริ่มการเมืองใหม่ให้ได้

“การเมืองใหม่ไม่ใช่ความอยู่รอดของชาติบ้านเมืองอย่างเดียว การเมืองใหม่คือการอยู่รอดของรากเหง้าวัฒนธรรมไทย การเมืองใหม่คือการรักษาสถาบันกษัตริย์ การเมืองใหม่คือการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นทั่วแคว้นแดนไทย การเมืองใหม่คือให้นักธุรกิจมีความสำนึกว่าการเป็นนักธุรกิจนั้นต้องมีกำไรอย่างพอเพียง ไม่ใช่เอากำไรอย่างบ้าเลือด การเมืองใหม่ทำให้คนยอมเคารพในกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย การเมืองใหม่ทำให้นักการเมืองมีจริยธรรม มีหิริโอตตัปปะ รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก การเมืองใหม่ทำให้คนที่อยู่ในวงราชการนักการเมืองมีคุณธรรมมีจริยธรรม ทำให้ทุกๆ ส่วนของสังคมยอมรับว่าประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศแห่งศีลธรรม และคุณธรรม

เพราะฉะนั้นแล้ว การเมืองใหม่คือชีวิตใหม่ของคนไทย การเมืองหม่คือแผ่นดินใหม่ของประเทศไทย การเมืองใหม่คือความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

เราจะให้โจรเป็นคนออกกฎจับโจรเอง มันจะทำหรือเปล่า ไม่มีวันทำหรอก ก็เพราะเรามีโจรเป็นรัฐบาล แล้วมีกันมาตั้งไม่รู้กี่ชุด เราจะขอร้องให้โจรมันมานั่งประชุมกันแล้วแต่งตั้งคนออกกฎมาจับโจร แล้วให้มันยอมรับในกฎอันนั้น มันเป็นไปไม่ได้” นายสนธิกล่าว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ที่เราพูดกันมาตลอด การจุดประกายการเมืองใหม่นั้น ในช่วงแรกคนยังไม่เข้าใจ เหมือน 2,500 กว่าปีที่แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เอาธรรมะคำสั่งสอนมาสอนประชาชน การที่พระองค์บอกว่าไม่ว่าอยู่วรรณะไหนก็เข้าถึงพระธรรมได้เหมือนกัน นั่นคือการเมืองใหม่ของพระพุทธองค์ การเมืองใหม่ของเราถ้ามองอย่างลึกซึ้ง เรากำลังเดินตามรอยพระบาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเดินตามรอยธรรมผิดตรงไหน ธรรมะไม่เคยผิด ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยธรรม

นายสนธิ ได้กล่าวว่า วันนี้ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟินิกซ์ ของฮ่องกง เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เนื่องจากต้องสัมภาษณ์ทั้งภาษาจีนกลางและภาษาอังกฤษ เป็นรายการประจำสัปดาห์ของสถานี ออกอากาศครั้งละ 1ชั่วโมง คนที่มาสัมภาษณ์ชื่อแอนโทนี่ หยวน

“หลังจากคุยไป 1 ชั่วโมง เขาก็บอกว่า เริ่มเข้าใจเมืองไทยอย่างลึกซึ้งมากขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ทันขาดคำ เขาก็ถามคำถามต่อว่า ทักษิณ ชินวัตรบริหารชาติบ้านเมือง ทำให้เศรษฐกิจไทยดีไม่ใช่หรือ และพอเขาไม่อยู่เศรษฐกิจก็ไม่ดี ผมจึงบอกเขาไปว่า ตอนทักษิณเป็นนายกฯ นั้น เศรษฐกิจโลกกำลังขาขึ้น เอาขอทานมาบริหารเศรษฐกิจก็คงดีเหมือนกัน และเมื่อดูลงไปลึกๆ แล้ว ที่เศรษฐกิจดีก็เพราะว่า ทักษิณหลอกประชาชนให้เป็นหนี้เป็นสิน เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย ให้เศรษฐกิจดี แต่คนไทยมีหนี้มากขึ้น

เขาก็ถามต่อว่า พวกคุณเข้ามาประท้วงแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นจะมองว่าประเทศไทยวุ่นวายหรือ ผมจึงตอบว่า เหมือนผมกำลังอยู่ในบ้านที่ห้องน้ำเสีย เพดานรั่ว พื้นกะเทาะ เวลาฝนตก น้ำซึมขึ้นมา แต่ก็อยู่กันมาตั้งนาน คนก็รู้กันเยอะแยะไปหมด แต่ไม่มีใครกล้ามาโวยวาย แต่ถึงที่สุดแล้วผมก็ตัดสินใจออกมาบอกว่าผมจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ก็เลยลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ซ่อมห้องน้ำ ซ่อมพื้น ซ่อมเพดาน ซึ่งการซ่อมบ้านนั้น มันไม่เหมือนการนอนหลับ มันมีฝุ่น มีเสียง มีความวุ่นวาย ต้องขนปูน ต้องเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ต้องเอาผ้าใบมากั้นสีหล่น ดูวุ่นวาย แต่ถ้าคนที่ตาไม่แชแหม แล้วดูเป็นก็จะรู้ว่าบ้านหลังนี้ถ้าซ่อมเสร็จแล้วจะเป็นบ้านที่น่าอยู่ที่สุดในเอเชีย

“เขาบอกว่าในเอเชียเชียวหรือ ผมบอกว่าใช่ ถ้าซ่อมเสร็จ ถ้ามีการเมืองใหม่ เมืองไทย ประเทศไทยจะมีแต่คนอยากมาอยู่ เพราะมีแต่ความสงบ ทุกคนมีศีลธรรม จริยธรรม คนอยากจะมาลงทุน เพราะมีความโปร่งใส ไม่ต้องให้เงินใต้โต๊ะอีกต่อไป คนอยากมาเที่ยวที่นี่ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่ เพราะมีความปลอดภัย แล้วมันไม่ดีที่สุดได้ยังไง ผมก็พูดให้เขาฟังทุกอย่าง สัมภาษณ์เสร็จเขาก็เข้าใจ” นายสนธิกล่าว

นอกจากนี้ นายสนธิ กล่าวอีกว่า ได้ยกตัวอย่างให้นักข่าวฮ่องกงฟังว่า สหรัฐอเมริกากำลังจะเอาเงิน 7 แสนล้านเหรียญ ประคองระบบเศรษฐกิจของตัวเอง เป็นการเอาเงินไปประคองระบอบของอเมริกาเหมือนเดิม เพื่อให้ความโลภมีความต่อเนื่องกันโดยไม่หยุดชะงัก เงิน 7 แสนล้านเหรียญนั้นจะเอาไปซื้อสังหาริมทรัพย์ที่ราคาตกลงเรื่อยๆ เพื่อยันราคาเอาไว้ แล้วเอาราคาปลอมไปอ้างให้คนซื้อบ้านแพงเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้แบงก์เจ๊ง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยใน 2540 ไฟแนนซ์ของเรา 46 แห่ง กำลังมีปัญหาทางการเงิน รัฐบาลเรากำลังเข้าไปช่วย แต่ไอเอ็มเอฟบอกว่าห้ามช่วย อ้างว่าเดี๋ยวจะเป็น moral hazard เป็นเรื่องไม่ควรทำ

“แต่วันนี้มันช่วยพวกมันเอง กำลังเอาเงิน 7 แสนล้านเหรียญเข้าไปช่วย ผมก็เลยบอกนายแอนโทนี หยวน ว่า ประเทศไหนก็ตามที่มีปัญหา เราต้องช่วยประชาชนของเราก่อน เราไม่แคร์หรอกว่าฝรั่ง ญี่ปุ่น อินเดีย หรือยุโรปจะคิดอย่างไรกับเรา แต่ประเทศไทยต้องอยู่รอดก่อน

เขาก็อึ้ง ผมก็เลยบอกว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเป็นแบบฮ่องกง เพราะประชากรฮ่องกงน้อยกว่าไทย และมีจีนหนุนหลังอยู่ เขาก็ถามว่า คุณสนธิจะทำยังไงให้ราคาบ้านมันถูก ผมบอกไม่ยาก ถ้าผมเป็นรัฐบาลจะบอกเลยว่าการผ่อนบ้านไม่ให้เกิน 15 ปี และดาวน์ขั้นต่ำ 30 แล้วราคาบ้านที่ตั้งราคาปัจจุบันก็จะขายไม่ออก ต้องลดราคาลงมา ง่ายนิดเดียว ถ้าทาวน์เฮาส์ราคา 3 ล้าน ตั้งเงิน ดาวน์ 9 แสน ใครจะกล้ามาผ่อน เขาก็ต้องลดราคาลงมาเหลือสัก 1 ล้าน 5 ถ้าไม่ลดก็ไม่ต้องขาย ก็เป็นหนี้แบงก์ไป ถ้าแบงก์ยึดแบงก์ก็เจ๊งด้วย

ถึงเวลาแล้วที่เราจะไม่ทนอีกแล้ว ที่มันให้ดาวน์น้อย และผ่อนยาว มันจะได้ตั้งราคาไว้สูงๆ ซึ่งถ้าไม่มีการเมืองใหม่จะทำไม่ได้ เราไม่ต้องแคร์ เพราะเศรษฐีเจ้าของแบงก์มีไม่กี่คน เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่กี่คน ผมแคร์แฟนของผมมากกว่า” นายสนธิกล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น