“สมศักดิ์” เตือนสติ อสส.เป็นทนายแผ่นดินอย่าคิดช่วย “จำเลยหมัก” ยื่นฎีกา ชำแหละ “ครม.สมชาย” เต็มไปด้วยคนประวัติไม่ดี พร้อมชี้กรณีลูกสาวนายกฯ ถูกสอบแจ้งบัญชีเท็จ เหตุพ่อแม่ใช้ลูกเป็นที่ซุกทรัพย์สิน เข้าข่ายพ่อแม่ทำลายลูก สุดเอือมการเมืองไทยวนเวียนโกงซ้ำซาก ชี้ต้องเร่งสร้างการเมืองใหม่หนีวงจรอุบาทว์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
วานนี้ (25 ก.ย.) เวลาประมาณ 22.20 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ขอเตือนไปนายชัยเกษม นิติศิริ อัยการสูงสุด กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปขอให้รับรองการยื่นฎีกาคดีหมิ่นประมาท ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำคุก 2 ปีแล้ว เพราะโดยหลักอัยการคือทนายของแผ่นดิน เวลาใครมาโกงรัฐบาล อัยการจะเป็นโจทก์ฟ้องตลอด เพื่อนำทรัพย์สินมาคืนให้รัฐบาล หรือดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายของประเทศ แต่เที่ยวนี้กลายเป็นทนายแก้ต่างให้นายสมัคร ซึ่งเป็นจำเลยไม่ใช่รัฐบาล เป็นนายกฯ จริงแต่เป็นจำเลยในคดีส่วนตัว เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นจำเลยเพราะใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
“อัยการทำหน้าที่เป็นทนายของแผ่นดิน ทนายของประชาชนดีกว่า ดังนั้น ไม่มีสิทธิ์ไปว่าความให้นายสมัคร เนื่องจากวันนี้นายสมัครไม่ได้เป็นนายกฯ ถึงเป็นนายกฯ ก็เป็นความผิดส่วนตัวอีก เพราะอัยการเป็นทนายของแผ่นดิน ไม่ใช่ทนายส่วนตัวของนายสมัคร นี่เป็นการส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าเผื่อว่าจะคิดได้ เมื่อคิดได้จะได้ไม่ต้องไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขอให้พี่น้องอยู่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ แล้วคดีอื่นๆ จะตามมา ซึ่งสิ่งที่พวกตนพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ไม่มีโกหก เราคนจริงเราไม่กลัว อันธพาลการเมืองรัฐบาลโจรเราก็ไม่ต้องกลัว เพราะเราพูดความจริง เราทำหน้าที่พลเมืองรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่รัฐบาลไม่ใช่รัฐบาลตามกฎหมาย เพราะหากเป็นรัฐบาลตามกฎหมายจะไม่ขัดแย้งกับเรา เนื่องจากหน้าที่ของรัฐบาลคือกินภาษีของประชาชน ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่เมื่อเป็นรัฐบาลโจรจึงปกป้องรักษาผลประโยชน์ของโจร
“ด้วยเหตุนี้จึงเกิดพันธมิตรฯเพื่อเคลื่อนไหวขับไล่ แล้วยังมาหาว่าพวกเราเป็นกบฏ ฉะนั้นจงอย่าไปกลัวกับรัฐบาลที่ชั่วเป็นที่ปรากฏอย่างมีหลักฐาน โดยหลักนิติธรรม ทั้งรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ว่าชั่วช้าหาประโยชน์ใส่ตัว” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า มีนายแพทย์ผู้อำนวยการ รพ.หลังสวน จังหวัดชุมพรบอกตนว่า มีรัฐมนตรีสาธารณสุขแบบ “เป็ดเหลิม”อย่ามีเลยดีกว่าเนื่องจากเปลืองเงินงบประมาณ รัฐบาลชุดนี้นำคนที่ไม่รู้เรื่องการศึกษาไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา นำคนที่ไม่รู้เรื่องหมอไปคุมกระทรวงที่เกี่ยวกับหมอ หมออื่นมีมากมายไม่นำไปเป็น นอกจากนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข คนนี้เคยเป็นเลขานุการของนายรักเกียรติ สุขธนะ ซึ่งติดคุกเพราะคดีทุจริตยา และนายปรีชาเคยถูกตั้งกรรมการสอบเรื่องทุจริตยาจนมีการชี้มูลความผิดด้วย วันนี้ได้นำมาเป็น รมช.มหาดไทย ส่วนนายสมชาย วงสวัสดิ์ เคยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม เวลาจัดครม.ก็เลอะเทอะไปหมด ในพวกพรรคกันก็ค้านกันมั่ว เอาคนประวัติไม่ดีมาทั้งนั้น
ส่วนเรื่องที่นางสาวชิณนิชา วงศ์สวัสดิ์ ลูกสาวของนายสมชาย ที่เป็น ส.ส.เชียงใหม่ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จนั้น ขณะนี้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหากำลังดำเนินการเรื่องนี้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.แล้ว คือ มีการแจ้งว่าบัญชีทรัพย์สินว่ามีเงินอยู่ประมาณ 363 ล้านบาท มีหนี้ 75 ล้าน เมื่อนำหนี้มาหักกันแล้ว เงินจะเหลือ 287 ล้านบาท
คนในประเทศไทยมี 65 ล้านคน แต่พวกนี้คนเดียวมีเงิน 3 แสนล้าน ที่ตนเคยบอกว่าถ้ามีนักการเมืองสามานย์พวกนี้จะทำให้คนอื่นจนหมด มันดูดไปไว้คนเดียว ฉะนั้นคนส่วนใหญ่จึงจน เพราะพวกนี้กินไม่เลิก แล้วจะติดคุกเพราะกินมากเกินไป เนื่องจากกรมสมัยนี้มันติดดิจิตอลจึงตามทันเร็วมาก
ตอน คตส.ตรวจสอบทรัพย์สินมีอยู่จำนวน 100 ล้านบาทที่อายัดไว้ โดยนางสาวชิณนิชาอ้างว่ายืมมาจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งจะเห็นว่าพวกเขาจะวนเวียนกันอยู่แต่สกุลดามาพงศ์ ชินวัตร วงศ์สวัสดิ์ 3 สกุลนี้ บังเอิญว่าตอนแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ไม่แจ้ง 100 ล้านบาทนี้ แล้วน่าเชื่อหรือไม่ มีเงิน 363 ล้าน มีหนี้ 75 ล้าน เมื่อนำมาหักกันแล้วมีเงินเหลือ 287 ล้าน แล้วจะไปยืมคนอื่นมาทำไม 100 ล้าน ยืมจริงหรือเปล่า พ่อแม่ที่เป็นโจรนั้นจะทำลายลูก น.ส.ชิณนิชาจึงน่าสงสาร ทั้งที่อายุยังน้อยแค่ 26 ปี อาจจะโดนเหมือนพ่อแม่ที่ค้ายาบ้าแล้วยัดยาบ้าใส่กระเป๋าลูก เพราะพ่อแม่ได้เงินมาไม่รู้จะเอาไปซุกไว้ไหน และเป็นเรื่องที่น่าสงสัยมากว่าคนพวกนี้ได้เงินจำนวนมากมายมาได้อย่างไร นายสมชาย เกษียณอายุราชการ ไม่รู้เมียไปรวยมาจากไหนเป็นพันๆ ล้าน ทั้งที่ไม่เห็นทำอะไรน้องจากเป็นน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การเมืองเก่าได้วนเวียนกันอยู่แบบนี้ บ้านเมืองเราทรัพยากร ประชากร ดินฟ้าอากาศสมบูรณ์ที่สุดในโลกจริงๆ แต่เราโชคไม่ดีตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นต้นมา เรามีนักการเมืองเลว แล้วบ้านเมืองอยู่ในวงจรอุบาทว์ ทหารยึดอำนาจยึดไปก็โกง แต่ยังโกงไม่มาก คราวที่แล้วที่ คมช.ยึดอำนาจนั้นยังโกงน้อยกว่า ตัวเลขขององค์กรความโปร่งใสนานาชาติ บอกว่าโกงลดลงนิดหน่อยไม่มากเท่ากับเมื่อปี 2549 มันอยู่ในแวดวงนี้ เราต้องทำให้หลุดจากวงจรอุบาทว์
ประชาชนต้องมาสร้างการเมืองใหม่โดยประชาชนเอง อย่างที่เคยบอกไว้คือประชาภิวัฒน์ ดังนั้นการเมืองใหม่จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเลือกตัวแทนที่มีหลากหลายอาชีพเข้าสู่อำนาจ จะได้ช่วยกันตรวจสอบได้อย่างทั่วถึงไม่ต้องพึ่ง ป.ป.ช. หรืออัยการที่ทำงานล่าช้า และบางส่วนยังซื้อได้
