นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการเสนอกฎหมายที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กันคือ ห้ามชุมนุมบนทางหลวงทั่วประเทศ โดยมีเจตนาไม่ต้องให้มีการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งในช่วงนั้นได้มีการเสนอศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การห้ามชึมนึมขัดแย้งรัฐธรรมนูญว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะของพรรคพลังประชาชนในครั้งนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเห็นของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่กล่าวว่าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ที่ว่าด้วยเสรีภาพในการชุมนุมและสมาคม
ขณะเดียวกันนายเจิมศักดิ์ก็ได้แสดงความแปลกใจด้วยว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่กลับเสนอกฎหมายที่มีเนื้อหาเป็นเผด็จการ
นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแกนนำร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เสนอรัฐบาลให้ถอนร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพราะเห็นว่าหากมีกฎหมายลักษณะนี้จะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยเพราะเป็นการห้ามชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองของประชาชน รวมทั้งได้กำหนดให้ผู้ชุมนุมต้องขออนุญาตจากรัฐบาล หากต้องการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่มีประชาธิปไตยที่ไหนในโลกที่มีกฎหมายแบบนี้
นายสุธาชัย แสดงความกังวลด้วยว่า หากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะเป็นการริดรอนสิทธิการชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมของประชาชน ที่ใช้การชุมนุมเพื่อต่อรองกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม
ขณะเดียวกันนายสุธาชัยได้กล่าวเปรียบการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ว่า ละม้ายคล้ายกับการที่คณะทหารยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยอ้างเหตุปัจจัยทางการเมือง แต่การยึดอำนาจครั้งนั้นได้ทำลายระบอบประชาธิปไตยของบ้านเมือง และเห็นว่าการเสนอร่างพระราชบัญญัติครั้งนี้ ก็มีสาเหตุมาจากที่รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาการชุมนุมที่ยืดเยื้อของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่การออกกฎหมายห้ามการชุมนุมเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นการไม่ยอมรับสิทธิของประชาชน ในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย แม้ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ตาม
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะของพรรคพลังประชาชนในครั้งนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเห็นของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่กล่าวว่าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ที่ว่าด้วยเสรีภาพในการชุมนุมและสมาคม
ขณะเดียวกันนายเจิมศักดิ์ก็ได้แสดงความแปลกใจด้วยว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่กลับเสนอกฎหมายที่มีเนื้อหาเป็นเผด็จการ
นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแกนนำร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เสนอรัฐบาลให้ถอนร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพราะเห็นว่าหากมีกฎหมายลักษณะนี้จะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยเพราะเป็นการห้ามชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองของประชาชน รวมทั้งได้กำหนดให้ผู้ชุมนุมต้องขออนุญาตจากรัฐบาล หากต้องการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่มีประชาธิปไตยที่ไหนในโลกที่มีกฎหมายแบบนี้
นายสุธาชัย แสดงความกังวลด้วยว่า หากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะเป็นการริดรอนสิทธิการชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมของประชาชน ที่ใช้การชุมนุมเพื่อต่อรองกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม
ขณะเดียวกันนายสุธาชัยได้กล่าวเปรียบการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ว่า ละม้ายคล้ายกับการที่คณะทหารยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยอ้างเหตุปัจจัยทางการเมือง แต่การยึดอำนาจครั้งนั้นได้ทำลายระบอบประชาธิปไตยของบ้านเมือง และเห็นว่าการเสนอร่างพระราชบัญญัติครั้งนี้ ก็มีสาเหตุมาจากที่รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาการชุมนุมที่ยืดเยื้อของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่การออกกฎหมายห้ามการชุมนุมเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นการไม่ยอมรับสิทธิของประชาชน ในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย แม้ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ตาม
