xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” ปากสั่น! ท้า “กษิต” ยึดพาสปอร์ตคืน ขู่นำม็อบบุกกรุงหากเสียงปืนแตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
“นช.แม้ว” ปากกล้าขาสั่นโฟนอินท้า “กษิต” ให้มายึดพาสปอร์ตได้เลย ขู่ลั่นนำ “ม็อบถ่อย” บุกกรุงทันที หากทหารยึดอำนาจ งัดมุกเดิมโจมตี “รัฐบาล” แจกเงินก็ยังไม่เป็น-ไร้ความน่าเชื่อถือ เสี้ยม “ขรก.” หากทนไม่ได้ให้เข้าร่วม “เสื้อแดง” เพ้อข้อมูล “เหลิม” ชี้เหตุยุบ ปชป.ชั้นเยี่ยม เตือน กกต.ต้องไม่สองมาตรฐาน ท้า"มาร์ค” หากมั่นใจให้ยุบสภาลงเลือกตั้ง
 
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัย  

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 30 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างหลบหนีโทษจำคุกอยู่ต่างประเทศ ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์มายังกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ตนรู้สึกชื่นใจ เพราะเมื่อเช้าพอมีกระแสข่าวว่าจะมีการสลายการชุมุนม พอดีสเตชั่น วิทยุแท็กซี่ออกข่าว คนเนสื้อแดงก็มากันหมด ไม่ว่าจะเป็น กทม.และทุกจังหวัด ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง เพื่อทวงประชาธิปไตยที่แท้จริงของเรา ฉะนั้น อย่าไปทำร้ายประชาชนเลย

“ไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะกว่านี้อีกแล้ว ที่เราจะทวงคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงที่การเมืองเป็นเรื่องของประชาชน โดยไม่มีองคมนตรีและทหารมายุ่ง วันนี้ผมขอขอบคุณตำรวจที่ใส่เสื้อแดงมาทวงประชาธิปไตย เพราะวันนี้รับไม่ได้ที่อยู่ๆ จะไปยกตำรวจให้นักเลงคุม เมื่อปี 2540 เศรษฐกิจล่มไปรอบหนึ่งแล้ว ไม่กี่ปีเอาอีกแล้ว เพราะไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ขาดอำนาจ ประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง ประชาชนเลือกพรรคพลังประชาชนมาก็หาเรื่องยุบพรรค”

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ก่อนยุบพรรคพลังประชาชน นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ไปทำกับข้าวออกทีวีก็ถูกปลด ต่อมาอยากปลด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ก็ยุบพรรคพลังประชาชน เพราะต้องการยกรัฐบาลให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งที่ประชาชนไม่ได้ยกให้ อย่างนี้ความน่าเชื่อถืออยู่ที่ไหน ออกไปเชิดหน้าต่างประเทศเขาก็รู้ว่าประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ใช้ศาลรัฐธรรมนูญ องคมนตรี และทหาร ตั้งรัฐบาลแบบปฏิวัติเงียบ หาเงินไม่เป็นก็ยังพอว่า แจกเงินยังไม่เป็นอีก วุ่นวายไปหมด

“พี่น้อง และเพื่อนข้าราชการทั้งหลาย วันนี้หลายคนกลัวเนื่องจากโดนขู่ เพราะมีรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ท่านต้องรักษาสิทธิ์ วางตัวให้เป็นกลางที่สุด จนกว่าจะได้รัฐบาลที่ประชาชนเห็นด้วย ผมไม่ขออะไร แต่ให้รักษาศักดิ์ศรีของประเทศ และสังคมไทย ท่านทั้งหลายขอให้มาร่วมเสื้อแดงกับผมดีกว่า ให้แดงทั้งแผ่นดิน เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับสู่ไทย อย่าเที่ยวไปหลอกใครว่าเราเป็นประชาธิปไตย เพราะมันเลวร้ายกว่าการซื้อเสียงเสียอีก” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ส่วนองค์กรอิสระทั้งหลาย โดยเฉพาะ กกต.นั้น อดีตนายกฯ กล่าวว่า รู้หรือไม่ว่ามีการประชุมภายในพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะนักกฎหมายชั้นนำบอกว่าคดีแบบนี้หลบเลี่ยงยาก โดยตามข้อกฎหมายต้องยุบอย่างเดียว ถ้าใช้สองมาตรฐานก็จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์ว่า กกต.มีคุณธรรม จริยธรรมหรือไม่ ฉะนั้น กกต.ต้องกล้าทำในสิ่งถูกต้อง อย่าฟังใครสั่งทั้งสิ้น

“วันนี้ถ้าทุกฝ่ายไม่ฟังคำสั่งใคร แล้วใช้หลักกฎหมาย บ้านเมืองก็ไม่วุ่นวายแบบนี้ แต่วันนี้มีการแทรกทุกระบบ จึงวุ่น ประชาชนรับไม่ได้ ผมเชื่อว่า ผู้พิพากษาทุกคนมีอุดมการณ์ หลายคดีถูกสั่ง จึงจำเป็นต้องทำ ดังนั้น อย่าให้ใครมาสั่งให้เขียนกฎหมายแบบบิดเบือน โดยเฉพาะผู้พิพากษาที่เคยนั่งคุยกันอยู่ที่บ้านคุณปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา วันนี้ความเป็นธรรมไม่มีแล้วในสังคมไทย กูจะตะแบงว่า เอาประชาธิปัตย์ เสื้อแดงเป็นไพร่ชั้นต่ำหรืออย่างไร ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา วันนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจ ก็ไปลงเลือกตั้ง อย่ากลัวแพ้ ประชาชนเท่านั้นที่รู้ ตัดสินใจเป็น วันนี้รู้หรือไม่ประชาชนต่างจังหวัดเขาสนใจการเมือง ขนาดบิดเบือนให้ลืมนโยบายของไทยรักไทยที่เขามีความสุขอย่างไร ชาติหน้าเขาก็ไม่ลืม” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้เรื่องทั้งหมดมันเลยเรื่องของตนไปแล้ว ทั้งทหาร และทุกฝ่าย เราต้องเดินหน้าไปทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดประชาธิปไตย มาช่วยกันแก้รัฐธรรมนูญแล้วเลือกตั้งใหม่ ให้ประชาชนตัดสิน ถ้าอยากใช้ใครให้คนนั้นทำงาน ถ้าไม่ใช้ให้ไปพักผ่อนซะ กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ต้องมาไล่ล่าตน ทูตทั้งหลายทำงานกับตนมา รู้ว่าตนเป็นคนอย่างไร รวมถึง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ด้วย ที่ตนรู้ดีว่าเป็นคนอย่างไร เพราะตนทราบข่าวว่าผู้ก่อการร้ายสากล ที่เป็น รมต.ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ระบุว่า เอาพาสปอร์ตตนคืน ตนขอให้มาเลย พาสปอร์ตราคาพันกว่าบาทมาเอาเลย แต่เอาหัวใจความเป็นคนไทยที่รักประชาธิปไตยของตนไปไม่ได้

พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่า รู้จักนายกษิตครั้งแรก ตอนที่ตนเป็นรองนายกฯ และไปประชุมเอเปคที่อินโดนีเซีย ซึ่งนายกษิตเป้นเอกอัครราชทูตอยู่ ก็มาต้อนรับตน ซึ่งตนก็ให้เงินใช้ เช่นเดียวกับทูตประเทศอื่นที่มาต้อนรับ ตอนสมัยก่อนที่จะเข้ามาเป็นตำแหน่งนายกฯ ได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศเยอรมนี ขณะนั้นนายกษิต เป็นทูตอยู่ ก็ให้เงินไปใช้เช่นกัน และ นายกษิต บอกว่า ถ้าตนเป็นนายกฯ ขอให้เอาตัวเองไปเป็นหน้าห้อง

"แต่ผมบอกว่าเป็นทูตจะมาช่วยราชการได้ไง นายกษิต จึงเป็นทูตประจำกระทรวง และขอมาอยู่ที่หน้าห้องผม ซึ่งก็ไม่เคยใช้ทำงานไรเลย เขาเขียนรายงานนิดน่อยๆ ให้ผม ซึ่งผมก็ไม่เคยอ่าน เพราะเขาเป็นคนบ้าๆ บอๆ” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ด้วยความที่เป้นคนขี้สงสาร จะเอาไปเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่มีใครรับ ต่อมาได้มอบหมายให้ นายกษิต ไปเป็นทูตที่ญี่ปุ่น พออายุราชการเหลืออีกหนึ่งปี เอกอัครราชทูตอเมริกาว่าง ก็ได้ให้ไปเป็นทูตที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งภายหลังมารับว่า สาเหตุที่ นายกษิต ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อว่าตน และ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย หลังจากเกษียณอายุราชการ เพราะนายกษิตอยากเป็นที่ปรึกษา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ แต่ไม่ได้เป็น เพราะนายสมคิดไม่รับ แต่กลับมาคิดว่าเพราะตนเป็นคนไม่ให้เป็น ก็เลยโกรธ

"นี่แหละนายกษิต คนที่ยึดสนามบิน แล้วมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ถ้าจะมาเอาพาสปอร์ตผมคืน ก็มาเอาไปเลยเลย พาสปอร์ตเล่มละพันกว่าบาท แต่ถ้าจะเอาหัวใจความเป้นคนไทยผมคืนไม่มีปัญญาหรอก วันนี้พี่น้องไม่ต้องห่วงผม ไม่ต้องห่วง ผมเอาตัวรอดได้ แต่ผมห่วงพี่น้อง
บอกได้เลย ถ้าเมือ่ไหร่เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชนผมจะเดินเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯ ทันที ผมจะไม่ยอมอีกแล้วให้กับเผด็จการ"

นักโทษหนีคดีกล่าวต่อว่า วันนี้ไม่ต้องเสียเวลา ต้องคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนแล้วไปเลือกตั้งใหม่ ถึงยังไง พี่น้องก็ไม่ยอม พี่น้องมีทุกจังหวัดในอีสาน พี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศ รวมทั้งอยู่ในต่างประเทศ ให้เราเข้าใจตรงกันว่าเมื่อไหร่มีปฏิวัติ เมื่อไหร่ทหารทำร้าย ประชาชน เราจะเดินเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกัน

"เราจะไม่ยอมเด็ดขาด ผมไม่ยอม ผมจะเข้าไปด้วย วันนี้ที่ผมไม่อยากเข้าไป เพราะไม่อยากให้มันวุ่น แต่ผมไม่ได้กลัวหรอก" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า พี่น้องมากันเยอะมาก และมาทุกวัน ถ้ามาอย่างนี้ ให้ตนได้พูดด้วยทุกวันก็คงทำให้มีกำลังใจกลับคืนมาอีกเยอะ และคงจุหนุ่มขึ้นกว่านี้ถ้าได้พูดทุกวัน "ผมอยากกลับไปทำงานให้พี่น้อง ถ้าพี่น้องจะใช้ผม ผมยินดีรับใช้ พี่น้องอาจเห็นว่าผมเริ่มแก่ แต่ผมยังมีสติปัญญาและแข็งแรงพอ และพร้อมที่จะรับใช้ชาติ" พ.ต.ท.ทักษิณหาเสียงตบท้าย






กำลังโหลดความคิดเห็น