ผู้จัดการรายวัน -- ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นที่มีการถามไถ่เกี่ยวกับความเป็นมาและเป็นไปข่าวคราวการเข้าลงทุนในกัมพูชาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาว ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดีความในศาล และมีรายงานว่า กำลังพยายามขอลี้ภัยในอังกฤษ
ในกัมพูชาอันเป็นต้นกำเนิดของข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยมีความสนใจจะเข้าลงทุนในธุรกิจสำรวจพลังงาน รวมทั้งการพัฒนาเกาะใหญ่แห่งหนึ่งให้เป็นปลายทางท่องเที่ยวและปลายทางแห่งความบันเทิง เรื่องนี้กำลังเป็นปัญหายุ่งเหยิง
เจ้าหน้าที่พรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน ต่างกล่าวหากันและกัน ว่า อีกฝ่ายหนึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มการเมืองในประเทศไทย
สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสอนชัย (Sonn Chay) ส.ส.พรรคสมรังสี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ทำหนังสือสอบถามไปยัง นายโสกอาน (Sok An) รองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวโครงการลงทุนหรือสัญญาใดๆ ที่ฝ่ายกัมพูชาทำไว้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายสอนชัย กล่าวว่า มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดต่อสาธารณชนโดยผ่านสื่อต่างๆ ในประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า รัฐบาลกัมพูชามีความสัมพันธ์ใดๆ กับอดีตผู้นำที่อื้อฉาวของไทยหรือไม่
นายสอนชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ปรากฏอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาที่เกาะกง (Koh Kong) ในจังหวัดชื่อเดียวกัน ในกรุงพนมเปญ ในอีกหลายภูมิภาคของกัมพูชา รวมทั้งที่พระวิหารด้วย และบ่อยครั้งที่ชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียมในน่านน้ำของกัมพูชา
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กัมโบดจ์ซวาร์ (Cambodge Soir) ฉบับภาษาฝรั่งเศส ในกรุงพนมเปญ ที่ผ่านมาได้มีเสียงกล่าวขานกันว่า พรรคสมรังสี ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันอย่างล้ำลึกกับอดีตผู้นำของไทยกับกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่ง นายสอนชัย ได้ปฏิเสธเรื่องนี้
“พรรคของผมถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวพันกับทักษิณและพระวิหาร เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง (ของรัฐบาล) ตอนนี้การเลือกตั้งผ่านไปแล้ว มันเป็นเวลาที่จะต้องถามรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ มันมีหลายเรื่องที่มีชื่อของทักษิณไปเกี่ยวข้องด้วยและทำให้กัมพูชามีปัญหา” กัมโบดจ์ซวาร์อ้างคำกล่าวของนายสอนชัย
นักการเมืองฝ่ายค้านผู้นี้ กล่าวหาว่า ที่ผ่านมา ทหารไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชาในหลายจุดอย่างไม่เกรงกลัวการตอบโต้ของรัฐบาลกัมพูชา จึงมีประเด็นที่น่าสงสัยเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารกับประสาทตาเมือน และ ตามมาตรา 96 แห่งรัฐธรรมนูญรัฐบาลจะต้องทำให้ความสงสัยเหล่านี้มีความกระจ่าง
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายฟาน สีฟาน (Phai Siphan) โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชาได้มีจดหมายฉบับหนึ่งถึงหนังสือพิมพ์กำปูเจียทะเมย (Kampuchea Thmei) หรือ “กัมพูชาใหม่” ประกาศว่าไม่มีการทำสัญญาลับใดๆ ระหว่างรัฐบาลกัมพูชากับอดีตผู้นำของไทย
นายสีฟานกล่าวหาพรรคสมรังสีว่าการกล่าวโจมตีฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ต่างไปจากกลยุทธ์ที่พรรคฝ่ายค้านในประเทศไทยกระทำในประเทศไทย และขอให้พรรคสมรังสี ชี้แจงด้วยว่ามีความร่วมมือระหว่างกันใดๆ หรือไม่ในกรณีพิพาทเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร
ยังไม่มีฝ่ายใดทราบคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นับตั้งแต่ พล.อ.เตียบัญ (Tea Banh) รองนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาให้สัมภาษณ์ในเดือน พ.ค.ปีนี้ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยสนใจเข้าลงทุนหลายโครงการในประเทศ
ความสงสัยทั้งหมดเริ่มขึ้นจากการที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสนิทสนมส่วนตัวกับอดีตผู้นำของไทย ซึ่งหลังเหตุการณ์รัฐประหารวันที่ 19 ก.ย.2549 ก็ยังคงโทรศัพท์ติดต่อไต่ถามทุกข์สุขกันเป็นระยะๆ ติดต่อกันเป็นระยะ แม้กระทั่งก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับเพียงไม่นาน
“เขาก็เป็นเพื่อนสนิทตอนนี้ก็ยังโทรถามข่าวดันบ่อยๆ ถ้าหากมากัมพูชาก็จะได้รับการต้อนรับในฐานะเพื่อนเก่า” สมเด็จฯ ฮุนเซนให้สัมภาษณ์สื่อในกัมพูชาคราวนั้น
พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับไทยอีกครั้งหนึ่งหลังจากพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคไทยรักไทยเก่าที่ถูกยุบพรรคเข้าจัดตั้งรัฐบาลผสม และความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสมเด็จฯ ฮุนเซนยิ่งปรากฏชัดเจนมากขึ้น
ในต้นเดือน เม.ย. อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้ใกล้ชิด รวมทั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีต สส.พรรคไทยรักไทย โฆษกส่วนตัวเดินทางไปพบหารือและเล่นกอล์ฟกับสมเด็จฮุนเซนฯ ที่เมืองเสียมราฐ
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พบหารือกับสมเด็จฯ เจียซิม (Chea Sim) ประธานวุฒิสภา สมเด็จเฮงสัมริน ประธานสภาผู้แทนฯ รวมทั้ง พล.อ.เตียบันด้วย
ในเดือน พ.ค.เจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชาได้เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเคพี (Agance Kampuchean-Presse) ว่า อดีตนายกฯ ไทยมีแผนจะนำนักลงทุนจากประเทศไทยเข้าก่อสร้างเมืองทันสมัยขึ้นที่เกาะกง มีการหารือเรื่องนี้ในวันที่ 23 เดือนเดียวกัน ระหว่างเข้าพบหารือกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่บ้านพักส่วนตัวเมืองตาขะเมา (Takhmao) ใน จ.กันดาล (Kandal) ซึ่งอยู่ชานกรุงพนมเปญ
นายเอียง โสพัลเลธ (Ieng Sophalleth) ผู้ช่วยคนหนึ่งของสมเด็จฯ ฮุนเซน บอกกับเอเคพีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บอกกับนายกฯ กัมพูชาโดยพูดถึง “เมืองทันสมัย” ซึ่งจะประกอบด้วยเขตการเงิน เขตที่อยู่อาศัย มีโรงพยาบาลและสาธารณูปโภคต่างๆ มีท่าเรือและมีศูนย์การซ่อมเรือครบครัน
นับเป็นการพบหารือกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ครั้งที่ 2 ของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย นับตั้งแต่ถูกทหารยึดอำนาจ การพบปะครั้งแรกมีขึ้นที่เมืองเสียมราฐในเดือน มี.ค.ซึ่งสองฝ่ายเน้นการหารือไปที่เรื่องธุรกิจ เอเคพีกล่าว
พล.อ.เตียบัญ ได้ยืนยันข่าวความสนใจเข้าลงทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระหว่างพิธีเปิดใช้ทางหลวงสาย 84 ในเดือนเดียวกัน ซึ่งทำให้อดีตผู้นำไทยได้รับความสนใจอีกครั้งหนึ่ง