“สมศักดิ์” สุดเอือม “ครม.สมชาย” น่าจะย่อมาจาก “คนรกบ้านเมือง” ผู้ต้องหาหนีอาญาแผ่นดินไปอยู่ต่างประเทศ พร้อมทั้ง 111 ซากศพ ทรท.กลับมีอำนาจจัดตั้งรัฐบาล ดึงคนมีมลทินกลับมาเพียบ เพื่อสืบทอดพันธุ์โคตรโกง จวกนักวิชาการขวางการเมืองใหม่โดยไม่เสนอทางออก ตั้งท่าค้านอย่างเดียว ย้ำการเมืองใหม่ ต้องเพิ่มอำนาจประชาชนตรวจสอบนักการเมือง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 23.22 น.วันที่ 24 ก.ย. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า พันธมิตรฯ ต่อสู้มา 120 กว่าวัน มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลจากการต่อสู้มากมาย รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต้องปรับ ครม. 3 ครั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ต้องหนีหัวซุกหัวซุน แต่วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิมก็กลับมาอีก จึงเป็นเรื่องที่แปลก และอยากจะเปลี่ยนชื่อ ครม.เป็นคนรกบ้านเมือง ที่เราต้องมาขับไล่ ให้พ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อ เห็นหน้า ครม.แล้วเศร้ามาก คน 63 ล้านคน ทำไมอับจนหาคนดีกว่านี้มาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ แล้วเวียนว่ายตายเกิดอยู่กับนักการเมืองพวกนี้ ที่ประวัติการคดโกง สืบทอดยืดยาวเป็นพวง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ต้องหาหนีหมายศาลเป็นผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินก็ยังมารวมหัวกับผีหัวขาด 111 ศพ ที่ศาลตัดสิทธิทางการเมืองแล้ว มาตั้งรัฐบาล มันกลายเป็นกรรมการคัดเลือกจัดตั้งรัฐบาลแล้ว
“นักวิชาการ หรือว่าสื่อบางคนมันคิดอะไร มันรู้สึกหรือเปล่าว่านี่คือขบวนการโกงที่สืบพันธุ์ ต่อยอดแพร่เชื้อชั่วไม่หยุดยั้ง ขนาดเราต่อสู้ มันยังตั้งหน้าเดินต่อ จากทักษิณ มาเป็นน้อง มาเป็นน้องเขย ครม.ชุดนี้มีไชยา ที่ศาลให้ออก ไปแล้ว แต่ได้กลับมา 3 หน เท่ากับมันเข้าไปถวายสัตย์ 3 ครั้ง ทำไม่ได้ตามที่ถวายสัตย์ ก็ยังเอามาเฉย ไม่เกรงฟ้าอายเดิน ไม่สะเทือน ไม่อับอายเลย
ส่วนนายสมชาย เป็นแค่รองหัวหน้าพรรค เพิ่งเป็น ส.ส.ได้ 7 เดือน ไม่ถึง 1 สมัย แต่ได้เป็นนายก นายสมัครก็ใจถึงพอ ยอมเป็นหัวหน้าพรรคทั้งที่เขาไม่ให้เป็นนายกฯ แล้ว ก็ยังอยู่ได้ เป็นการใจถึงแบบแปลกประหลาด
นายสมชายเป็นนายกฯ คนแรกที่ทำสถิติเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องเป็นหัวหน้าพรรค และอายุทางการเมืองน้อย แค่ 7 เดือนได้เป็นนายกฯ เฉย แน่ไหม เจ๊แดงแน่ไหม ดันผัวเป็นนานยกได้ ใครจะทำไม มีน้อยมาก ที่คนเป็นนายกฯ ถ้ามีพรรคแล้ว ไมได้เป็นหัวหน้าพรรคเอง แต่ก็เป็นครั้งแรกที่เป็นนายกฯ แล้วไม่มีทำเนียบอยู่ ต้องไปถ่ายรูปที่ร้านเหล้า”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนนั่งดูโศกนาฏกรรมทางการเมือง เมื่อนายบรรหาร ศิลปอาชา เอาลูกชายมาเป็นรัฐมนตรี ส่วนนายสมชายก็มีลูกสาวที่รวยมาก มีเงินเป็นพันล้าน และทั้งที่นายสมชายไม่เคยต่อสู้อะไรมาก่อน มาถึงได้เป็นเลย เพราะที่นี่เมืองไทย ขอให้มีเงินอย่างเดียวก็ใช้เป็นอาวุธยึดอำนาจรัฐ แล้วก็โกง แล้วก็ซื้อเสียงเพื่อสืบทอดการโคตรโกง โกงทั้งโคตรอยู่อย่างนี้
ส่วน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เอาเมียออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ก็เอาคู่เขยเข้ามาเป็นแทน ด้าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ทำลายสถิติมาเป็นรัฐมนตรี ตนเคยยกย่อง เมื่อปี 2540 มีคนประท้วงหน้าทำเนียบ 70-80 คน ก็ลาออก เป็นนายกที่หน้าด้านน้อยที่สุด แต่ตอนนี้คนไล่รัฐบาลอยู่เต็ม พล.อ.ชวลิตกลับเดินมาเป็นรองนายกเฉย ไม่รู้แกคิดอะไร หรือจะมานำลาออกทั้งคณะ น่าสงสัยไหม
ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ด็อกเตอร์เยสโนโอเค จบทางกฎหมาย แต่ไปคุมกระทรวงสาธารณสุข หมอทั้งหลายในกระทรวงคงเจริญแน่ ไม่รู้หมอมั่วอะไรต่อไปซึ่งคงจะน่าดู ทั้งที่หลักการบริหารนั้นต้องจัดคนให้เหมาะสมกับงาน มีความรู้อะไรจัดให้ลงอย่างนั้น แต่นี่เอาดอกเตอร์ด้านกฎหมายไปดูกระทรวงสาธารณสนุข โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อดูบ้านเมืองแล้วน่าเศร้า ทำไมเป็นอย่างนี้ ทั้งหลายทั้งปวง ฝนตกขี้หมูไหลทุกคนมาจากระบอบทักษิณ มาจากพรรคไทยรักไทยเก่า มาเป็นพรรคพลังประชาชน เหมือนคนที่เปลี่ยนชื่อ 3 ครั้ง แล้วบอกเป็นคนละคน แล้วถามว่าทำไมเปลี่ยนชื่อ ก็เพราะไปขโมยของเขา โดนจับได้ เลยเปลี่ยนชื่อ ไม่ใช่เปลี่ยนเพราะ ชื่ออัปมงคล แต่เปลี่ยนเพราะทำผิด พรรคไทยรักไทยถูกจับได้ว่าโกงเลือกตั้ง ก็เปลี่ยนเป็นพรรคพลังประชาชน แล้วก็โกงอีก ก็จะเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทย
“สื่อบางคนหาว่าเราไม่รู้จักพอ จะพอได้ยังไงก็มันคนเดิม เหมือนเดิม นิสัยเดิม ชั่วสันดานเดิม มาอยู่ที่เดิม จะไม่ให้ไล่ได้อย่างไรที่ว่าเราสุดโต่ง สุดโต่งตรงไหน มันเหมือนเดิม มาเหมือนเดิม แล้วความหวังอยู่ไหน การเมืองเก่าน้ำเน่า จะให้เราไปพบครึ่งทางตรงไหน จะยอมรับให้โกงต่อไป แล้วเราพอแค่หนี้หรือ แปลกมาก ผมงง เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจกระรอกทัก จิ้งเหลน แมลงทัก เราฟังได้ แต่ใช้สติปัญญาว่าคนที่พูดเป็นยังไง เรามาไล่ จับโจรจนจะจับได้ มีคนมาบอกให้หยุด อย่าไปจับเดียวโจรมันจะโกรธ พวกมันก็คือพวกโจร เข้าข้างความชั่ว ไม่รู้จักถูกผิดชั้วดี เวลาที่เขาพูด ทุกคนต้องรู้ว่าคนดีบริหารประเทศ มันยังมาว่าดียังไง ดีก็คือไม่ชั่วไม่โกงไง แล้วยังไม่รู้หรือว่าดียังไง
คนจน ชาวนา ผู้ใช้แรงงานจนเอาๆ แต่พวกนี้ แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินคนจนๆ ยังมีเป็นร้อยล้าน ขณะที่คนส่วนใหญ่อดอยากยากจน แล้วคุณจะเป็นผู้นำได้อย่างไร ผู้นำต้องเสียสละ ฉลาด มีความเป็นมนุษย์ แต่ทุกวันนี้ ใครเสียสละ ใครไม่มีเงินบอกว่าเป็นคนโง่”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการอันดับประเทศที่โปร่งใสปรากฏว่าประเทศไทยอยู่ที่ 80 ได้แค่ 3.5 คะแนน โดยประพเทศที่ได้คะแนนสูงๆ จะอยู่ทางสแกนดิเนเวีย ส่วนประเทศไทยชอบคบค้ากับกัมพูชาและพม่า มีการสมคบกับเขมรเรื่องที่ดินพระวิหาร กับพม่าก็ ให้เขากู้ 4 พันล้าน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนชั่วมักจะคบคนชั่ว สมคบกันโกงในบ้านเมืองตัวเอง และกลายเป็นโกงระดับนานาชาติ
นายสมศักดิ์ ได้กล่าวถึงโครงการรถเมล์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีว่า ถ้าซื้อสดจะตกคันละ 2.8 ล้าน ถ้าซื้อผ่อนจะตำคันละ 3.5 ล้าน แต่โครงการที่จะเช่า 10 ปีนี้ รวมแล้วต้องจ่ายคันละ 18 ล้านบาท ฟาดไป 2.5 หมื่นล้าน เฉพาะเจ้าเดียว แล้วองค์กรที่ตรวจสอบก็นอนหลับ ไม่ทำงาน เราต้องลุกขึ้นมาขับไล่
อาคารรัฐสภาก็จะสร้างใหม่ 2.9 หมื่นล้าน แล้วยังมีค่ารื้อถอนอีก ทั้งที่เวลาประชุมก็ไม่ค่อยเข้าประชุม ดูอย่างอาคารรัฐสภาอังกฤษไม่สบายเหมือนที่นี่ มีที่นั่ง ผู้ช่วย ส.ส. เดี๋ยวก็เล่นไพ่กัน ส.ส.บางคนก็ไปบีบไหล่ในห้องน้ำขอค่ายกมือ
ด้วยเหตุนี้เราต้องมีการเมืองใหม่ โดยให้มีการเลือกตามสาขาอาชีพด้วย ซึ่งนักวิชาการบางคน เช่น นายโคทม อารียา ก็ออกมาค้านแล้ว ทั้งที่ความรู้ไม่มีเลย เมื่อถามว่า ให้ลองวิเคราะห์การเมืองตอนนี้ว่าเป็นยังไง มีทางออกยังไง ก็บอกไม่รู้ จะค้านอย่างเดียว นักวิชาการต้องออกแบบ ถกเถียงด้วยสติปัญญา ทั้งนี้การเลือกตั้งตามอาชีพ เขามีทั้งนั้น ที่ฮ่องกง เยอรมัน และในสแกนดิเนเวีย โดยหลักการประชาธิปไตยนั้นจะเลือกมาอย่างไรก็ได้แต่ต้องทำเพื่อคนส่วนใหญ่ ให้ประชาชนตรวจสอบได้ และเอาออกจากตำแหน่งได้ ถ้าไม่ดี ซึ่งการตรวจสอบจะได้ผลต้องใช้ประชาธิปไตยทางตรง คือการเลือกตั้งตามสาขาอาชีพ ไม่เช่นนั้นก็จะมีลูกเมียน้องเขยนักการเมืองหน้าเดิมๆ ผลัดเปลี่ยนกันมาหาประโยชน์จากการโกงบ้านโกงเมืองต่อไป
“เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐบาลโกง ภาษีของเราอย่าไปเสียให้มันเอาไปโกงกิน มันโกงมากเกินไป เห็นแล้วไม่รู้จะร้องเพลงอะไร รถซื้อสดราคา 2.8 ล้าน มันไปซื้อ 18 ล้าน รถเข็นสนามบินสุวรรณภูมิคันเล็กๆ คันละ 28,000 บาท อิฐสี่เหลี่ยมปูพื้นแผ่นเดียวเกือบ 500 บาท ทำได้ 8 วันอิฐแตก เพราะมันโกงดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ”
นอกจากนี้ ทั้งที่รู้ว่าทำผิด พรรคจะถูกยุบภายในไม่กี่วัน แต่ละคนก็ยังดิ้นจะเป็นรัฐมนตรี ขอเป็น 3 ชั่วโมงก็เอา เพื่อเป็นเกียรติประวัติ แม้ว่าจะโดนไล่ออกเหมือนหมูหมา ก็จะเอา ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แม้แต่นิดเดียว หน้าด้านผิดปกคติ ไม่ใช่คน และไม่ใช่สัตว์ธรรมดา ซึ่งเวลาเราโห่มันยังบินหนี แต่นี่ยังเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การเมืองน้ำเน่าโสโครกแบบนี้ เราคนไทยพี่น้องทั้งลาย พลังของเราที่ออกมาเพียงพอที่จะเปลี่ยนการเมืองสกปรก เราอธิบายได้ อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาที่จ้างให้เขียน พูด พี่น้องรับฟังใคร่ครวญ ใช้ภูมิปัญญา ตัดสินใจต่อสู้ ยืนยันพี่น้องทั่วโลกรู้แจ้งเห็นจริง มันไม่ยาก ที่จะพูดความจริง แต่คนที่บิดเบือนมีหลายคน แต่เราอย่าไปใส่ใจ อันไหนดีเอามาแก้ไข
“ตามตำราการรบ เราอย่าเชื่อฟังศัตรู เชื่อเมื่อไหร่แพ้เมื่อนั้น เราต้องจับจุดอ่อนศัตรู ชกตรงไหนออกอาการ ให้ซ้ำตรงนั้น เพราะมันกลัว จึงแสดงอาการให้เห็น การต่อสู้ของเราบนหลักที่ถูกต้องไม่มีวันแพ้ เราต้องสู้ต่อไปอย่าท้อถอย ไม่หยุดยั้ง เดินหน้าชน และระดมสรรพกำลังด้วยสติปัญญา มาช่วยกันระดมความคิดความเห็นสร้างการเมืองเพื่ออนาคตที่ดีของประเทศชาติ
“ขอให้พี่น้องหมุนเวียนกันมา อย่าละทิ้งทำเนียบ นี่คือจุดชี้ขาดชัยชนะ เราต้องอดทนเป็นพิเศษ เรามาเจอกับผีใหญ่ที่ขึ้นลงสลับหลุม แต่เรารู้เท่าทัน ใครมาก็ไล่มันทุกตัว ป่าช้านี้ต้องไล่ให้หมด ภารกิจเราคือรักษากำลัง ขยายกำลัง ขยายมวลชน กำหนเวลาสลับกันมาอยู่ทำเนียบ ก่อนที่เราจะปฏิบัติการขั้นต่อไป ให้รอสัญญาณบางสิ่งบางอย่าง
ที่ถามว่าเมื่อไหร่จะไปไหนซักที ได้ไปแน่ แต่ครั้งนี้ ต้องเพิ่มจำนวนคนขึ้นอีก เพราะอย่างน้อยในทำเนียบต้องมีคนอยู่ 1 หมื่นคน ส่วนที่มาจะไปที่ไหน จะจัดแจงกันต่อ 5 แกนนำ จะหารือกัน”
สำหรับการสัมมนาเรื่องการเมืองใหม่วันที่ 27 ก.ย.นี้ จะระดมปราชญ์มาร่วม และนำข้อเสนอของประชาชนที่ส่งมาได้ ซึ่งตนได้อ่านทุกกระดาษทุกเอกสาร และเห็นว่าเป็นประโยชน์ นี่คือการมีส่วนร่วม เมื่อจัดลำดับจะได้ช่วยกันผลักดันต่อไป ให้มีการเลือกตามสาขาอาชีพ เหมือนหลายประเทศที่ทำได้
แต่ทั้งนี้ การเลือกตั้งแบบไหนไม่สำคัญ ขอให้สอดคล้องกับความจริงในแต่ละประเทศ และที่สำคัญฯ ตัวแทนต้องมีองค์กรตรวจสอบ ถอดถอนนักการเมืองที่ไม่ทำตามเจตจำนงค์ให้ออกไปจากตำแหน่งได้ ประชาธิปไตยนั้นอำนาจอยู่กับประชาชน 24 ชั่วโมง อย่ามาพูดว่ายุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเพราะอำนาจอยู่กับประชาชนตลอดเวลา ถึงมีสภา เราก็ใช้อำนาจขับไล่รัฐบาลได้ ไล่นักการเมืองโกงให้หนีไป และเอาทรัพย์สินที่โกงไปกลับคืนมา ขอให้ยืนยันต่อสู้ ไล่รัฐบาลนี้ต่อไปอย่างไม่พรั่นพรึง ท้อถอย