ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “สุวัจน์” แกนนำพรรครวมใจไทยฯ ชี้ งานเร่งด่วนอันดับแรก “นายกฯสมชาย” ต้องเจรจายุติปัญหาความแตกแยกและสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองโดยเร็ว ต่อด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนข้อกล่าวหา “ซูเปอร์นอมินีทักษิณ” ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ระบุด่านแรกต้องจัด “ครม.” ออกมาให้ดีเป็นที่ยอมรับของสังคม สรรหาบุคคลมีความรู้ความสามารถซื่อสัตย์ เข้าร่วม เผย การเมือง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหา เห็นด้วยกับแนวคิด “การเมืองใหม่” แต่ต้องระดมความเห็นจากทุกฝ่าย และที่สำคัญประชาชนส่วนใหญ่ต้องยอมรับ
วันนี้ (19 ก.ย.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่บ้านพักส่วนตัว เลขที่ 2222/2 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงสถานการณ์ทางการเมืองหลัง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 ว่า เชื่อว่าจากนี้ไปสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยน่าจะคลี่คลาย เนื่องจากด้วยภาพพจน์ และภาพลักษณ์ของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของไทย มีความอ่อนโยน สุขุม ประนีประนอม และ คงจะได้มีการทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ เพราะท่านนายกฯ มาจากฝ่ายตุลาการ เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษามาก่อน
ต้องยอมรับว่า ปัญหาทางการเมืองของประเทศนั้น ที่ผ่านมา ไม่ได้มีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของการเจรจา ซึ่งโดยบุคลิกและความตั้งใจจริงของนายกฯ คนใหม่ น่าจะมีการเจราจากันเกิดขึ้น และคิดว่าการเจรจาเป็นพื้นฐานที่ดีและจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาภายนอกประเทศ แต่เป็นปัญหาที่เกิดความไม่เข้าใจกันขึ้นของคนในประเทศ หากได้มีการพูดคุย เจรจากันแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และปัญหาเร่งด่วนสิ่งแรกที่นายกรัฐมนตรี คงจะให้ความสำคัญมากที่สุดในตอนนี้คือ การยุติปัญหาความแตกแยก สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติบ้านเมือง จากนั้นค่อยเดินหน้าไปแก้ไขปัญหาที่ 2 คือ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ
ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นตัวแทนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ให้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และตัวนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็มาจากกระทรวงยุติธรรม ต้องยึดหลักของความเท่าเทียมกัน และประชาชนน่าจะสบายใจได้ในเรื่องนี้ แต่สิ่งแรกที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเป็นตัวแทนหรือนอมินีหรือไม่นั้น จะต้องจัดหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ให้ออกมาดี เป็นที่ยอมรับของสังคม สรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ และมีคุณธรรม ไม่ถูกแทรกแซงจากคนอื่น
นายสุวัจน์ ยังกล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองใหม่ ว่า ต้องยอมรับว่า การเมืองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดวิกฤตขึ้นในประเทศมากมาย และเห็นด้วยที่จะพูดถึงการเมืองใหม่ เพราะทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปกับยุคสมัย อะไรที่นำไปสู่ความสงบสุข ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นก็ควรมีการปรับปรุงแก้ไข แต่การเมืองใหม่ จะต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และที่สำคัญต้องเป็นที่ยอมรับของประเทศทั่วประเทศด้วย
ส่วนรัฐบาลชุดใหม่นี้จะอยู่ถึง 4 ปีหรือไม่ นายสุวัจน์ บอกว่า อย่ามองไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะทุกวันนี้มันเป็นการเมืองภาคพิเศษ มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ว่า จะพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นมาน้อยเพียงใด