“อภิสิทธิ์” ระบุโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่จะเป็นตัวชี้วัดภาวะผู้นำ “สมชาย” แนะบุคลิกดีเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถนำบ้านเมืองฝ่าวิกฤตไปได้ เตือนอย่าแตะต้อง รธน. จี้เคลียร์ปาก “แม้ว” ใช้การเมืองจัดการคดีความ
วันนี้ (22 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งจัดคณะรัฐมนตรีให้เสร็จ เพื่อที่จะได้เข้ามาทำงาน เพราะมีปัญหารออยู่มาก จึงไม่อยากให้เสียเวลากับเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล เพราะไม่คิดว่าหากช้าไปอีก 2-3 วันแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ดังนั้น น่าจะเดินหน้าให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ทำงาน ส่วนเรื่องการเมืองภายในพรรคก็ต้องบริหารจัดการกันไปและค่อยไปจัดการทีหลัง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ขอวิจารณ์ถึงตัวบุคคล เพราะยังไม่ชัดว่าใครจะเข้าไปอยู่ในตำแหน่งไหน แต่คิดว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีพูดชัดว่าเป็นผู้รับผิดชอบเอง ก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะหากตั้ง ครม.แล้วประชาชนผิดหวัง จะถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดี เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้คงไม่เอื้ออำนวยที่จะให้รัฐบาลตั้งขึ้นมาแล้วคนไม่มีความเชื่อมั่น ไม่มีความคาดหวัง ทั้งนี้ เชื่อว่าหากได้เห็นหน้าตาคณะรัฐมนตรีก็จะพิสูจน์ชัดขึ้นถึงภาวะความเป็นผู้นำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แต่เท่าที่ติดตามเห็นว่าภาพรวมแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจะต้องตอบว่าที่เข้ามาและตั้งใจจะแก้ไขปัญหานั้นตรงไหนคือส่วนที่ได้นำเข้ามาที่เป็นเรื่องใหม่หรือมีการเปลี่ยนแปลง
“ผมว่านายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงความเป็นผู้นำให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว นอกจากปัญหาต่างๆ จะแก้ไขไม่ได้แล้ว ผมมองว่าความน่าเชื่อถือในการทำงานจะมีปัญหา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่พรรคพลังประชาชนยังเชื่อว่าบุคลิกของนายสมชาย ยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอยู่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนไหนที่ดีก็ขอให้คงเอาไว้ แต่เวลาทำงานจะต้องเจอกับปัญหาอีกมาก ซึ่งต้องอาศัยหลายปัจจัย โดยบุคลิกที่ดีก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่เรื่องอื่นสำคัญมากกว่า เช่นเรื่องเศรษฐกิจขณะนี้ต้องการทั้งผู้รู้และต้องการคนที่กล้าตัดสินใจ เรื่องของการเมืองก็ต้องกล้าเปิดใจกว้างเพื่อจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการเมืองใหม่ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ เสนอว่ามาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแต่จะแบ่งเป็นตัวแทนประชาชนโดยตรง และตัวแทนสาขาอาชีพต่างๆ ว่า อย่างน้อยเรื่องที่ยอมรับกระบวนการของการเลือกตั้งน่าจะเป็นแนวคิดที่ดี แต่ส่วนตัวคิดว่าอาจจะใช้สูตรของการมีผู้แทนอาชีพในวุฒิสภา และอาจจะมาพิจารณาดูว่าอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาควรจะมีเพิ่มเติมอย่างไร แต่หากปะปนกันอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าการบริหารงานต่างๆ จะสะดวกหรือเป็นไปได้แค่ไหน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ควรจะมีการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็น และไม่ควรจำกัดเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเดิมตนได้หวังว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญจะเป็นเวทีที่ระดมความเห็นตรงนี้ แต่เท่าที่ดูรู้สึกว่ายังเงียบอยู่
ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนยังเดินหน้าจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องไปที่นายกรัฐมนตรีที่จะต้องแสดงให้เห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลง และต้องกล้าที่จะบอกว่าเรื่องแบบนี้เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง และต้องพักเอาไว้ก่อน
สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุว่าคดีความที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเรื่องการเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณต้องแก้ด้วยกระบวนการยุติธรรม และนายสมชายในฐานะนายกรัฐมนตรีและเคยอยู่กระบวนการยุติธรรมมาควรจะต้องยืนยันเช่นนั้น หากยิ่งปล่อยให้ผ่านไปก็จะเป็นปัญหากับตัวเอง
