หน.ปชป.ทดสอบท่าที “สมชาย” ท้าตอบโต้คำให้สัมภาษณ์ “แม้ว” ดิสเครดิตศาล ชี้ไม่เกี่ยวเรื่องการเมือง จับตาบทพิสูจน์ภาวะผู้นำจัดโผ ครม.ใบสั่ง “เจ๊แดง” หรือไม่ เรียกร้องยกเลิกรายการความจริงวันนี้ ลั่นใช้สื่อรัฐเป็นเครื่องมือ
วันนี้ (19 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีว่าจะสร้างความสมานฉันท์ในชาติว่า แนวทางในการพยายามหาทางปรองดองเป็นเป้าหมายที่คนไทยทุกคนอยากเห็นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้ามีการดำเนินการอย่างจริงจังก็จะเป็นการเริ่มต้นในการช่วยคลี่คลายวิกฤตได้ แต่ที่สำคัญคือ สิ่งที่เป็นเนื้อหาสาระที่ต้องพูดคุยกัน เพราะปมของความขัดแย้งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยต้องทบทวนดูว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่เป็นปมความขัดแย้งที่ต้องเร่งหาข้อยุติ และให้ประชาชนทุกกลุ่มได้รับทราบแนวทางและจุดยืนต่างๆ ก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี
“นายกฯ ต้องเร่งสรุปเพื่อประมวลออกมาและพิสูจน์ให้เห็น ถ้าไม่สามารถตอบได้ว่าอะไรคือความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจากรัฐบาลเดิม เราก็ไม่เห็นคำตอบ จึงอยากเห็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือเรื่องที่เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลที่ผ่านมาว่าจะแก้ไขอย่างไร อย่างวันนี้รอฟังนายกฯ อยู่ เพราะเมื่อวานนี้อดีตนายกฯ ทักษิณให้สัมภาษณ์กระทบกับกระบวนการยุติธรรมไทย โดยพยายามลดความน่าเชื่อถือ ก็ต้องดูว่านายกฯ จะตอบอย่างไร โดยเฉพาะท่านมาจากกระทรวงยุติธรรมด้วย ต้องปกป้องประเทศไทย ปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย ถ้าแสดงอย่างนี้จะช่วยลดความกังวลหรือความระแวงที่คนมีอยู่ในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ถ้าไม่ทำก็จะเป็นปัญหาทำให้คนระแวงต่อไป อันนี้เป็นจุดทดสอบง่ายๆ ที่อยากเห็นท่านแสดงท่าทีตอบโต้อดีตนายกฯ เพราะต้องเลือกยืนข้างประเทศไทย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีต้องชี้แจงว่า ปัญหาคดีความทั้งหลายไม่ใช่เรื่องการเมืองที่จะแก้ด้วยการเมือง คือไม่ใช่เรื่องเกมการเมืองหรืออะไรทั้งสิ้น แต่เป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายกฯต้องยืนยันตรงนี้ก่อน และหากไม่มีปฏิกริยาอะไรออกมา ก็เป็นเรื่องยากที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤตความขัดแย้งในสังคมได้ ทั้งนี้ต้องให้โอกาสนายกฯในการแสดงจุดยืนนี้ แต่เวลาก็มีไม่มาก เพราะปัญหาทุกอย่างรุมเร้าทั้งเรื่องเศรษฐกิจและน้ำท่วม ฉะนั้น หากไม่สามารถที่จะคลายปมตรงนี้ได้ การทำงานก็มีแต่ความยากลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนที่นายสมชายจะเป็นนายกฯเคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จะตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ววันนี้เป็นนายกฯ จะไม่ตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณหรือ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า บุญคุณที่ยิ่งใหญ่กว่าคือแผ่นดินและประเทศไทย วันนี้นายสมชายต้องแสดงให้ชัด ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวอย่างในบททดสอบว่าท่านจะเลือกยืนข้างไหน จึงคาดหวังว่านายกฯ ของไทยต้องยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยไม่ได้มีปัญหา และการดำเนินการทุกอย่างจะว่าไปตามข้อเท็จจริง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งแรกที่คนไทยอยากเห็นคือ คณะรัฐมนตรีที่ประชาชนยอมรับได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่มีเรื่องต่อรองและแย่งชิงผลประโยชน์ และเร่งทำนโยบายที่เป็นรูปธรรม ทั้งนโยบายสานต่อรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลง ส่วนแผนที่อยากเห็นชัดเจนเร่งด่วนขณะนี้คือ น้ำท่วม ที่นอกเหนือจากการช่วยเหลือเฉพาะหน้าแล้ว จะมีแผนในการฟื้นฟูและการชดเชยค่าเสียหายที่ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาการขาดช่วงในการประกอบอาชีพ ก่อนที่จะสายเกินไป ส่วนผลกระทบด้านเศรษฐกิจก็ได้ย้ำไปแล้วในแง่การบริหารความเชื่อมั่น การบริหารสภาพคล่อง การวางแผนด้านการส่งออก ซึ่งจะต้องประเมินผลกระทบจากการล้มละลายของสถาบันการเงินต่างๆ รวมทั้งผลกระทบที่มาถึงกองทุนต่างๆ ในประเทศด้วย และการลงทุนภาครัฐเอง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายกฯ เข้ามามีบทบาทในการจัด ครม.นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของนายกฯ ใครจะมาเสนอหรือมาช่วยจัดโผอะไรก็แล้วแต่ ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ ต้องพิสูจน์ภาวะการเป็นผู้นำ การจะมีอดีตนายกฯหรือหลังบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อยู่ที่นายกฯจะพิจารณาอย่างไร
ส่วนการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่ท้องสนามหลวงนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องดูแลไม่ให้เกิดการปะทะกัน เนื่องจากไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ก็สามารถควบคุมการชุมนุมได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ถ้านายกฯยังยืนยันในเรื่องของความปรองดองก็ต้องขจัดเงื่อนไขเหล่านี้ออกไป แม้แต่ในกรณีของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีก็เช่นเดียวกัน ควรมีท่าทีที่ชัดเจนได้แล้วว่าจะเปิดโอกาสให้คนอื่นมีสิทธิ์ได้ใช้สื่อของรัฐหรือจะปล่อยให้มีการใช้สื่อของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมือง ตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่ถ้าทำได้เร็วก็จะเรียกความเชื่อมั่นได้ โดยขณะนี้ยังไม่ได้คิดที่จะขอพื้นที่ให้ฝ่ายค้านเพราะยังไม่ทราบว่ารัฐบาลจะมีแผนการใช้สื่อของรัฐอย่างไร แต่เฉพาะรายการที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้คือ รายการความจริงวันนี้ ควรจัดการยกเลิกได้แล้ว
