“ปริญญา” ชี้ 2 ภารกิจใหญ่ นายกฯต้องเร่งลดปัญหาความขัดแย้ง หาแนวทางเจรจาพันธมิตรฯสู่การเมืองใหม่ที่ชัดเจน ย้ำ ต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงเด็ดขาด ขณะเดียวกัน รีบถอนพาสปอร์ตเล่มแดง “แม้ว” เพื่อแสดงความจริงใจ พร้อมยกเลิกระบบโควตา ครม.หาคนมีความสามารถเข้ามาให้ ปชช.ยอมรับ
วันนี้ (19 ก.ย.) นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนจับตาดูอยู่ ว่า จะออกมาในรูปแบบใด ภาพของ นายสมชาย ในสายตาของประชาชน ยังมีด้านบวกอยู่ เช่น ทันทีที่ได้รับโหวตเป็นนายกฯ ก็ได้เดินไปจับมือกับฝ่ายค้าน ทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น แต่ต้นทุนด้านลบก็มี คือ การเป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการสังกัดพรรคพลังประชาชน ฉะนั้น เพื่อเป็นการลดปัญหาความขัดแย้งทางสังคม นายกฯจึงมีประเด็นที่ต้องแก้ไข 2 ประเด็นใหญ่ คือ 1.ในเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี หากยังเป็นการแบ่งปันโควตา ทั้งของรัฐบาลและของพรรคร่วมรัฐบาล หรือกลุ่มมุ้งในพรรคเองรัฐบาลก็จะไปไม่รอด เพราะประชาชนก็ไม่อยากเห็น ไม่ใช่ว่าจะปรับเปลี่ยนกระทรวงเศรษฐกิจ เพียงอย่างเดียว กระทรวงอื่นๆ ไม่แตะเลยก็จะทำให้ความขัดแย้งมีอยู่ และอาจจะไม่ยอมรับได้ จำเป็นที่จะต้องหาคนที่มีความรู้ ความสามารถเป็นที่ยอมรับก็จะไปได้ไกล
2.ภารกิจเร่งด่วนในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง รัฐบาลควรจะใช้โอกาสนี้คลี่คลาย สถานการณ์ทางการเมือง เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายมองว่ารัฐบาลนี้อยู่นานลำบาก ฉะนั้น ควรกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน เพื่อลดความขัดแย้ง เช่น แนวทางจะนำไปสู่การเมืองใหม่อย่างไร จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือจะต้องมี ส.ส.ร.3 หรือไม่ แล้วไปยุบสภา รัฐบาลจะต้องกำหนดให้ชัด โดยทุกฝ่ายควรหันหน้ามาพูดคุยกัน ทั้งพันธมิตรฯ พรรคพลังประชาชน พรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน เพราะไม่เช่นนั้นสังคมไทยก็จะตกหลุมลึกลงไปอีกยิ่งกว่า 19 ก.ย.2549 เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการนองเลือด รัฐบาลจึงต้องดูให้ดีไม่ให้เกิดการปะทะ โดยในเรื่องปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น นายกฯจะต้องใช้ท่าทีของความเป็นผู้นำรัฐบาล และผู้นำในพรรคควบคุมไม่ให้เกิดปัญหามากไปกว่านี้ เพราะคิดว่าปัญหายังมีทางออก ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันยังมีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์ โดยเฉพาะการไม่ใช้ความรุนแรง
“ปัญหาขณะนี้เรื่องใหญ่ คือ พรรคพลังประชาชน มีความเชื่อว่าจะต้องถูกยุบแน่นอน ทั้งที่ยังไม่มีใครรู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาอย่างไร เพราะการพิจารณาน่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน แต่เมื่อเชื่อเช่นนั้น และไม่ต้องการให้เสียงของกรรมการบริหารพรรค 30 กว่าเสียงหายไป ก็เป็นแนวทางที่ชัดเจนว่า จะต้องมีการชิงยุบสภาก่อนมีการวินิจฉัยคดีนี้”
ส่วนแนวคิดการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องมีการขยายความว่าหมายถึงอะไร เพราะพันธมิตรฯบอกเองว่าสัดส่วน ส.ส.แต่งตั้งกับเลือกตั้ง 70 ต่อ 30 เป็นเพียงตุ๊กตายังไม่ชัดเจน แต่ส่วนตัวมองว่าการเมืองระบบประชาธิปไตยควรควรจะเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง ถ้า 70% มาจากการแต่งตั้งก็จะเป็นการเมืองที่ถอยหลัง คนคงไม่เห็นด้วย
เมื่อถามว่า นายกฯควรจะดำเนินการถอน พาสปอร์ตเล่มแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องแรกหรือไม่ เพื่อแสดงความจริงใจ นายปริญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องแรกที่สุดที่ควรจะทำ เพราะหากตัดสินใจไม่ดีก็จะเป็นปัญหาที่จะนำไปสู่ ความขัดแย้งได้ ซึ่งก็ต้องรอดูในวันที่ 21 ต.ค.หากศาลฎีกาตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดจริง คิดว่า เสียงเรียกร้องของประชาชนก็จะมากยิ่งขึ้น และจะเป็นการวัดฝีมือของนายกฯคนใหม่ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร และในเรื่องนี้จะถึงขั้นจะเป็นจุดจบของรัฐบาลหรือไม่ เพราะขณะนี้เมื่อศาลยังไม่พิจารณาก็ยังพอฟังได้อยู่ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังมีความชอบธรรมในการที่ยังไม่ถอนพาสปอร์ตแดง