xs
xsm
sm
md
lg

“จำลอง” ปัดข่าว ผบ.ตร.นัดถกเพิกถอนหมายจับแลกยุติชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แกนนำพันธมิตรฯ ยอมรับรัฐบาลติดต่อขอเจรจาจริง แต่ขอสงวนท่าทีรอดูความชัดเจนในการดำเนินคดีต่อ “ทักษิณ” ก่อน โต้ ผบ.ตร.ปฏิเสธข่าวต่อรองเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำแลกยุติการชุมนุม พร้อมแนะ"แม้ว"ควรยอมรับความจริง และเคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่หวั่นไหว นปช.เคลื่อนไหว ยันจะชุมนุมในที่ตั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ แถลงข่าวถึงกระแสข่าวว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ต่อสายพูดคุยกับแกนนำพันธมิตรฯว่า ตอนนี้ยังพูดอะไรได้ไม่เต็มที่นักเพราะเป็นระยะเริ่มต้นของการเจรจา เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามีการโทรมาจริงพล.ต.จำลองกล่าวว่า จะโทรมาหรือไม่ ไม่ทราบได้แต่มีการริเริ่มเจรจาจริงตามที่นายกฯออกมาให้สัมภาษณ์ซึ่งขอไม่พูดในรายละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าท่าทีพันธมิตรพร้อมจะเจรจากับรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า เราพร้อมมาตลอดไม่ใช่ว่าเราจะปิดประตู เราพร้อมจะเจรจากับทุกรัฐบาล ไม่มีรัฐบาลไหนที่เราไม่เจรจาด้วย เมื่อถามว่าการเจรจากับรัฐบาลถือเป็นการหาทางลงของพันธมิตรฯของแกนนำใช่หรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่าไม่ใช่เราบอกแล้วว่าเราไม่ได้ขึ้นมามีอำนาจเพราะฉะนั้นเราจะหาทางลงทำไม และการเจรจาเราก็ไม่ได้เป็นฝ่ายริเริ่มการที่รัฐบาลเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ถือเป็นเรื่องที่ดีคนไทยด้วยกันก็คนรู้จักทั้งนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าดูจากการประกาศจุดยืนของนายกรัฐมนตรีในเรื่องกระบวนการยุติธรรมพันธมิตรฯจะให้เวลากับรัฐบาลหรือไม่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะนำตัวผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและต้องยึดพาสปอร์ตแดงตามกฎหมายหากไม่ทำตามก็ไม่ต้องมาพูด รัฐบาลมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และเรื่องเขาพระวิหารจะว่าอย่างไรเพราะไปยกมือสนับสนุนกัมพูชาจึงได้ขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว ทำให้อำนาจประชาธิปไตยของไทยต้องเสียไป เมื่อถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่คนเจรจาจะต้องเป็นนายสมชายเท่านั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า เราไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนว่าแกนนำที่ไปคุยกับนายสมชายจะเป็นนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง กล่าวว่า แกนนำทั้ง 5 คนเปิดเผยข้อมูลกันหมด ไม่ใช่ว่าจะมีใครไปแอบคุย แต่หากมีการพูดคุยเป็นรายบุคคล แต่ละคนก็จะมีการพูดคุยกันในที่ประชุม ไม่ใช่จะมาหักหลังกันซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรการทำงานของพวกเราก็ยังเหนียวแน่นไม่มีใครที่จะแยกไปทำอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัว โดยไม่บอกให้คนอื่นรับรู้

เมื่อถามว่าวันที่ 19 กันยายนเป็นวันครบรอบรัฐประหาร 2 ปี หากเกิดรัฐประหารซ้ำรอย พันธมิตรฯ เตรียมการรับมืออย่างไร นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯรักษาความปลอดภัยเข้มงวดอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเกิดความรุนแรงขึ้นจริงทางรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า หากบ้านเมืองจะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตจากพันธมิตรฯก่อน ว่า คุณทักษิณควรยอมรับความจริง ควรเคารพกระบวนการยุติธรรม

“จะแก้ปัญหาตัวเองด้วยการเมืองได้อย่างไรในเมื่อคุณไม่เคารพกฎหมายประเทศนี้ ฐานะที่เคยเป็นนายก ทั้งโลกจะทำอะไรก็ต้องมาถามพันธมิตรฯ คำพูดนี้ ไม่น่าจะเป็นคำพูดของคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีความกล้าหาญที่จะขึ้นศาล ที่มากล่าวหาว่าทำอะไรจะต้องขออนุญาตจากพันธมิตรฯไม่ถูก เพราะเรากำลังตรวจสอบการประวัติการโกง ทุจริต ของคุณทักษิณ และพรรคพวก โดยผ่านกระบวนการยุติธรรม เราทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นนักการเมืองเก่า ที่โกง ทุจริตชาติ แล้วยังไม่ยอมรับความจริง” นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้านนายพิภพ กล่าวเสริมว่า ขณะที่นายสมชาย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ก็ส่งสัญญาณทันทีว่า ต้องการใช้การเมืองแก้ไขปัญหาส่วนตัว ซึ่งชี้ชัดว่าการมาดำรงตำแหน่งของนายสมชายนั้น มีนัยยะทางการเมือง ต้องการฟอกความผิดให้กับพี่เขย ดังนั้นนายสมชายต้องตอบคำถามตรงนี้ว่า การเข้ารับตำแหน่งนั้นต้องการช่วยเหลือพ.ต.ท. ทักษิณ จริงหรือไม่

ขณะที่ พล.ต. จำลอง กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานของพันธมิตรฯ ยื่นแถลงการณ์ 5 ข้อถึงนายสมชายนั้น เป็นความคิดส่วนตัวของนายสุริยะใสถือเป็นความคิดที่ดี แต่แกนนำพันธมิตรฯไม่ได้ประชุมเรื่องนี้จริงๆ ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกันในเรื่องดังกล่าว

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.ออกมาระบุว่า พันธมิตรฯมีการต่อรองเรื่องหมายจับในข้อหากบฏว่าเราไม่เคยเอาเรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรอง พล.ต.อ.พัชรวาท พูดโกหกและเราไม่เคยเอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นข้อต่อรองเช่นเดียวกับการยกเลิก พ.ร.ก การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เราก็ไม่เคยเรียกร้องหรือต่อรองใดๆส่วนหมายจับข้อหากบฏนั้นเรายืนยันมาตลอดว่าพร้อมที่จะให้จับได้เลยแต่ผลพวงที่ตามมาอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายกับบ้านเมืองได้และขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งตำรวจสามารถเข้ามาจับกุมได้เหมือนเดิม ทั้ง 9 แกนนำก็อยู่ที่นี่และไม่ได้ขัดขืนการจับกุมพร้อมที่จะให้จับกุมด้วย

“เรื่องที่ตำรวจจะเข้ามาจับ 9 แกนนำและสลายการชุมนุมนั้นเป็นเรื่องจริง มีการดำเนินงานจริงโดยเตรียมทั้งกระบอง โล่ แก๊สน้ำตา ซึ่งต้องขอขอบใจพันธมิตรฯทั่วประเทศที่คอยจับตามองว่าจะมีตรวจตำรวจและ นปช.เดินทางเข้ามาสมทบในกรุงเทพฯอย่างผิดปกติหรือไม่ ซึ่งพันธมิตรฯส่งข่าวให้รู้ความเคลื่อนไหว ซึ่งขณะนี้มีข่าวว่า ข่าวจากพันธมิตรฯ จ.ศรีสะเกษ ว่าญาติที่เป็นตำรวจว่า ขณะนี้ตำรวจจากหลายจังหวัดจะเข้ามาสลายการชุมนุม ในช่วงเช้ามืดวันจันทร์ที่ 22 และ 23 กันยายน เนื่องจากมีผู้ชุมนุมน้อย โดยได้เตรียมแผนจับกุมแกนนำรุ่นที่สองโดยใช้ตำรวจเข้าล้อมบ้านแกนนำรุ่นสอง ในขณะที่จับแกนนำรุ่นที่หนึ่ง เพื่อไม่ให้แกนนำรุ่นที่สองออกมาเคลื่อนไหวต่อจากแกนนำรุ่นที่หนึ่งได้” พล.ต.จำลอง กล่าว

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า จากการที่ตำรวจเข้ามาสลายพันธมิตรฯขั้นที่ผ่านมาทำให้ทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากทางพันธมิตรฯจึงเตรียมเอกสารต่างๆเพื่อฟ้องร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ สตช.เคยถูกฟ้องร้องในคดีที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมที่จังหวัดสงขลา ทำให้ สตช.ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายให้จับประชาชนคนละหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งหากพันธมิตรดำเนินการฟ้องร้อง คาดว่า สตช.จะต้องจ่ายค่าเสียหายให้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านเพราะผู้ชุมนุมทั้งที่มัฆวานและทำเนียบรัฐบาลมีประมาณหนึ่งแสนคน ซึ่งสตช.จะต้องล้มละลายแน่ๆ ขอให้พล.ต.อ.พัชรวาทและพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ คิดให้รอบคอบเสียก่อนที่จะลงมือสลายการชุมนุม
กำลังโหลดความคิดเห็น