xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” มั่นใจ “หมัก-พรรคพวก” หมดอนาคตการเมือง หลังประชาชนรู้ทัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประพันธ์ คูณมี
“ประพันธ์” ชี้ อนาคตการเมือง “หมัก” จบแล้ว หลังประชาชนรู้ทันความชั่วที่ทำ แต่ยังดิ้นรีเทิร์น นั่งตำแหน่งนายกฯ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวก ระบุ การอ้างคดี “ประสงค์” เทียบคดีหมิ่นประมาทของอดีตนายกฯ เป็นคนละชั้นกัน เพราะศาลมีการลงโทษจำคุกไปแล้ว พร้อมปลุกประชาชน อดทนไล่นักการเมืองโกงชาติต่อ เพราะกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญในการต่อสู้

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายประพันธ์ คูณมี ปราศรัย 

วันนี้ (12 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล ว่า การที่ประชาชนมาชุมนุมที่นี่ เพราะตระหนักดีว่า สถาบันชาติ ศาสนา โดยเฉพาะสถาบันพระมาหากษัตริย์ กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง และภารกิจนี้ทุกคนรู้ดีว่ายิ่งใหญ่ และมีความหมายเพียงใด ซึ่งประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ จะเข้าใจดีว่าเรามีเป้าหมายที่ดีงาม เพื่อประโยชน์สูงสุดของบ้านเมือง

ทั้งนี้ ปัจจุบันประชาชนเริ่มมีความเห็นด้วยแล้วว่า อะไรจะเกิดขึ้นในการกลับมาเป็นนายกฯ ของนายสมัคร แต่คนพวกนี้ยังมีความพยายามให้นายสมัครกลับมามีอำนาจอีกครั้ง แต่ด้วยการต่อสู้ของเรา และพลังของสังคมที่ไม่ยอมรับ ทำให้ขณะนี้ นายสมัคร น่าจะจบชีวิตทางการเมืองได้แล้ว แต่ขณะนี้ นายสมัคร ยังมีความพยายามอยู่ โดยล่าสุดได้พยายามนำไปเปรียบเทียบกับคดีของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ

“สมัคร ยังมีความพยายามอยู่ และมีทีมนักกฎหมายของเขาจะพยายาม ชี้แจงว่า คดีความ เรื่องหมิ่นประมาทในวันที่ 15 นั้น หากเทียบเคียงกับคดีของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ น่าจะเป็นแบบเดียวกัน แต่ผมมองว่า ไม่เหมือนกัน เพราะศาลชั้นต้นไม่ได้ลงโทษ น.ต.ประสงค์ แต่ของสมัคร ได้มีการลงโทษ โดยไม่มีการรอลงอาญา ซึ่งหากจะเหมือนกัน ก็คือ นายสมัคร จะโดนพิพากษายืนในความผิด เหมือนกับที่ น.ต.ประสงค์ ศาลให้พิพากษายืนให้รอลงอาญาเหมือนเดิม” นายประพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ การที่ นายสมัคร อ้างว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีลหุโทษนั้น ไม่ทราบว่า จบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้อย่างไร เพราะคดีลหุโทษนั้น โทษจะต่างกัน ซึ่งคดีลหุโทษนั้น จะเป็นกรณีของการที่แม่ค้าในตลาดสาดน้ำปลาร้าใส่กันมากกว่า คดีหมิ่นประมาทที่มีโทษจำคุก 2-3 ปี ซึ่งเขากลัวว่า นายสมัคร จะไม่ตายจริง จึงให้พยายามดิ้นรนต่อไป โดยกำพืดแบบนี้นายสมัคร มีมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแล้ว และในตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ โดยนอกจากจะติดคุกแล้ว เมื่อเวลาตายไปคงจะต้องไปแก้คดีกับยมบาลด้วยว่าจะต้องลงนรกขุมไหนดี

“สมัย นายสมัคร เป็นประธานเชียร์ ไปซื้อเสื้อมาจากสำเพ็ง ในราคา 30,000 บาท แต่ให้ออกบิล 5 แต่ร้านค้ากลับไม่ทำให้ จึงไม่ซื้อกับร้านค้าดังกล่าว โดยเป็นกำพืดของเขาที่มีมานานแล้ว เหมือนกับการที่เขาปลอมแปลงเอกสารหลอกศาล นี่แหละทำให้ นายสมัคร ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแย่กับเขา” นายสมัคร กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาการเมืองจะตามมา เพราะความเห็นแก่ตัวของพรรคพลังประชาชน โดยการที่ นายสมัคร แกล้งปล่อยข่าวว่าจะยุติบทบาท และฝากให้พรรคพลังประชาชน ช่วยรักษาประชาธิปไตยไว้ด้วยนั้น ต้องตอกย้ำให้รู้เอาด้วยประชาธิปไตยของนายสมัคร และพรรค พปช.มันคนละแบบกัน ซึ่งที่มาของพรรค พปช.นั่นแหละ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ต้น เพราะเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยเดิมทีถูกตัดสินแล้วว่ามีความผิดจนต้องยุบพรรค

“พวกมันเมื่อแปลงร่างเป็น พปช.มันก็ยังคงสันดานเดิม เพื่อนำอำนาจไปแสวงหาประโยชน์ของพวกพ้อง และไอ้ 6 พรรคทีสุ่มหัวกัน ก็เป็นพวกที่ทำให้บ้านเมืองฉิบหายมาด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งคนพวกนี้ไม่มีสิทธิ์มาปล้นอำนาจอธิปไตยของประชาชน และเราจะต้องไม่ยอมให้มันเอาอำนาจนี้ มาทำให้ประเทศชาติเสียหายอีกอย่างแน่นอน โดยอยากย้ำให้นักวิชาการเข้าใจด้วยว่าใครกันแน่เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ซึ่งผู้ที่มาปกครองจะต้องได้รับฉันทามติจากประชาชนเท่านั้น” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ความหมายของชนชาวไทย คือ เป็นอิสระ และไม่เป็นทาสใคร แต่ถ้าใครเป็นขี้ข้าเห็นแก่เงิน เราจะไม่นับเป็นคนไทย ปวงชนชาวไทย คือ คนที่รักชาติประชาธิปไตย ที่ใครก็เอาเงินมาซื้อไปไม่ได้ และผู้นำก็ควรฟังเสียงของประชาชน เนื่องจากเราก็มีสิทธิ์ปกป้องอำนาจ ไม่ให้ตกไปเป็นของกลุ่มแก๊งทางการเมืองนี้ เพราะพวกมันคือโจรที่เข้ามาปล้นบ้านเมืองนั่นเอง

สำหรับคนในพรรคนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ไม่เคยรรับผิดชอบอะไรเลย ดูสารรูปก็รู้แล้วว่าไม่มีคุณธรรม จริยธรรม มันก็ไม่เคยมี คิดแต่จะเอาทุนคืนจากประเทศทุกลมหายใจ ซึ่งเราจะต้องอดทน เพราะสู้กันมานานแล้ว และต้องคว่ำสภาที่ไม่มีความชอบธรรมนี้ ซึ่งเรากำลังมาถึงจุดที่สำคัญ จึงไม่อยากให้ทุกคนหวั่นไหว โลเล และต้องไล่มันออกไปให้พ้นจากแผ่นดินของเราให้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น