อุบลราชธานี - อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิพากษ์ ครม. “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” คือตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์เข้ามาผลาญเงินแผ่นดิน จึงมองไม่เห็นอนาคตการเมืองไทย เพราะยังยึดวิธีใช้เงินซื้อประชาธิปไตย เชื่อรัฐบาลขี้ข้าไม่สนใจ 4 ข้อเรียกร้องของ 24 อธิการบดีปฏิรูปการเมืองไทย รอแค่ยุบสภาเลือกกันใหม่
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี รายงานว่า กรณีอธิการบดี และตัวแทนภาครัฐ-เอกชน 24 สถาบันเสนอ 4 ข้อเรียกร้องต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีพิจารณาแก้ไขวิกฤติร้ายแรงของชาติ โดยตั้งคณะกรรมการอิสระปฏิรูปการเมืองและกลไกการเข้าสู่อำนาจรัฐ ซึ่งเป็นจุดเริ่มของต้นตอความขัดแย้งที่ประเทศชาติกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในข้อเรียกร้องดังกล่าว
ศ.ดร.ประกอบ วิโรจนกูฏ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวถึงเหตุที่ร่วมลงนามกับ 23 อธิการบดีในการเรียกดังกล่าว เพราะติดตามปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นเห็นว่าถ้าการเมืองเดินไปในลักษณะอย่างนี้ คือไปตามรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งก็จริง
แต่คนที่ถูกเลือกเข้าไปก็เป็นคนของกลุ่มทุนกลุ่มหนึ่ง โดยใช้กระบวนการที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังมองประโยชน์ที่จะได้รับจากตัวแทนของเขามาใช้เลือก ทำให้ฝ่ายหนึ่งก็อ้างว่าประชาชนเลือกเข้ามา และไม่ว่าจะทำผิดขนาดไหนก็จะอ้างแต่คำนี้ จึงเกิดความขัดยังกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“ขณะนี้จะไม่พูดว่าใครถูกใครผิด ทางกลุ่มอธิการบดีทั้ง 24 คน ก็เลยเสนอน่าจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเสนอรูปแบบการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางออก ก็ขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้”
อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวต่อว่า อย่างเช่นคณะรัฐมนตรีที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาว่าเลือกดีที่สุดแล้ว แต่ประชาชน นักวิชาการ คนในเมือง จะเห็นเหมือนเป็นการเล่นลิเกให้คนดูคือ เอาแต่ประโยชน์ของกลุ่ม เตรียมถลุงงบประมาณแผ่นดิน ถ้าปล่อยให้การเมืองเป็นอย่างนี้ประเทศไทยจะพัฒนาได้อย่างไร
สำหรับการตั้งคณะกรรมการอิสระจะเอาใครก็ได้ จะเป็นกลุ่มวิชาชีพก็ได้ให้ทางรัฐบาลพิจารณา ถ้าไปกำหนดว่าเป็นใคร มาจากไหน สัดส่วนอย่างไร จะเหมือนเป็นการไปบีบรัฐบาล ส่วนข้อเรียกร้องที่เสนอไปจะสำเร็จหรือไม่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีมองว่า ยังยากที่จะเกิด เพราะเขาก็เป็นกลุ่มทุน แนวความคิดก็เป็นคนของทักษิณอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเราเคยพูดเรื่องนี้มาเมื่อ 5 ปีว่ามันยาก ถ้ายังใช้กติกาแบบนี้
ขณะเดียวกัน คนไทยก็ไม่ได้สนใจการเมืองมากนัก โดยเฉพาะคนชนบททางภาคเหนือและอีสาน ใครให้เงินก็เลือกคนนั้น รัฐบาลชุดนี้เมื่อดูแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเด็กรับใช้ของทักษิณ ฉะนั้นเราก็ทำหน้าที่เสนอไป เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าเราได้เสนอทางออกน่าจะให้ตัวแทนฝ่ายต่างๆ มาร่วมกันแก้ปัญหาบ้านเมือง และไม่ได้หมายความว่านักวิชาการจะต้องถูกต้องเสมอ
“แต่ถ้ารัฐบาลรับฟังก็ดีไป แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่รับฟัง เพราะเขารอที่จะแสวงหาผลประโยชน์ และถ้ามีการยุบพรรคก็คงยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่” อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีกล่าวถึงอนาคตการเมืองไทยในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้