นครศรีธรรมราช – ประมงส่อกระอักซ้ำ หลังเผชิญวิกฤตน้ำมันแพง ล่าสุด เจอร่าง พ.ร.บ.อนุสัญญาสหประชาชาติ กำจัดอวนลาก – อวนรุนอีก แฉกรมประมง คนไทยตัวดีขี้ข้าต่างชาติ มีวาระซ่อนเร้นปกป้องธุรกิจพลังงาน ตังเกนครฯ สุดทนประกาศขาย 300 ลำ อัดสมาคมประมงบ้อท่า ปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัว
นายสุธรรม วิชชุไตรภพ นายกสมาคมชาวประมงนครศรีธรรมราช ในฐานะกรรมการสมาคมประมงไทย เปิดเผยว่า จากภาวะวิกฤตของชาวประมง ในปัจจุบันที่ต้องเจอภาวะน้ำมันแพง ขณะนี้ยังมีแนวโน้มถูกซ้ำเติมอีกเรื่อง คือ เรื่องของ พ.ร.บ.อนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการทะเล เป็นกฎหมายแม่บท ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการร่าง และมีการอ้างว่าเป็นเรื่องของสหประชาชาติ แท้จริงคนเขียน เป็น คนไทย คือ กรมประมง
สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้ คือ การเน้นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ แต่กลายเป็นการเพิ่มความกดดันมากขึ้น เกี่ยวกับอาชีพการทำประมงของชาวประมง ที่อ้างว่าผิดกฎหมาย แต่แปลกในเรื่องการลากหอยลาย ปลากะตัก กลับมีการเพิกเฉย
กรรมการสมาคมประมงไทย กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญอีกเรื่อง คือ ในปี 52-53 อวนลาก อวนรุนต้องหมดจากประเทศไทย เหมือนกับวิกฤตในตอนนี้ ถ้าไปถามผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องจะได้คำตอบที่ว่า ไม่ต้องแก้ปัญหาอะไรรัฐไม่ต้องซื้อเรือมา มันไปไม่รอดมันเผามันจมกันไปเอง ปลาในทะเลจะได้เพิ่มขึ้น เป็นการมองแบบตรงกันข้ามกับชาวประมง ชาวประมงหากินกว่าจะมีเรือสักลำ มีบ้านสักหลัง ถือว่าเป็นการผิดหลักการที่รัฐจะต้องช่วยเหลือมากกว่าเพิกเฉยและซ้ำเติม
"ผมตั้งข้อสังเกตว่า ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะตาม พ.ร.บ.นี้มีการวางแนวท่อก๊าซ แนวท่อน้ำมัน หากชาวประมงเข้าทำการประมงในเขตนี้และหากไปกระทบกับแนวท่อเหล่านี้มีโทษจำคุกถึง 7 ปี ปรับ 1 ล้านบาท มองได้ว่าเป็นการเอื้อต่อธุรกิจพลังงาน ผมพยายามค้านกลับอ้างว่า กฎหมายแม่บทมีความเชื่อมโยงกับสหประชาชาติ ผมต้องถามว่าเป็นขี้ข้าฝรั่งหรือเปล่า ที่ต้องเดินตามฝรั่งตลอดโดยไม่สนใจคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อน" กรรมการสมาคมประมงไทยระบุ
นายสุธรรม กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องของความเดือดร้อนของชาวประมง ไม่มีอะไรคืบหน้าในการช่วยเหลือเหมือนกับรัฐหลอกไปวันๆ กล่าวได้ว่า ขณะนี้สมาคมประมงสิชล กลายเป็นแกนหลักของชาวประมงทั่วประเทศ ที่ต่อสู้เพื่อชาวประมงที่อ่อนแรงลงทุกๆวัน
แนวคิดในขณะนี้ที่คิดว่าจะต้องผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหา คือ 1.พยายามทวงคืน ปตท.ให้กลับมาเป็นของรัฐบาล ดีกว่าเป็นของกลุ่มทุนที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ หากเป็นของรัฐเช่นเมื่อก่อน สามารถกำหนดแผนช่วยเหลือได้ 2.พลังงานทางเลือกประเด็นนี้ยอมรับว่ายังมองไม่เห็นเพราะรัฐโกหกไปวันๆ 3.ชาวประมงเลิกทำประมงไปเลยหาอาชีพใหม่ 4.รัฐซื้อเรือชาวประมงเพื่อเป็นทุนในการเปลี่ยนอาชีพ 5.พักชำระหนี้ 6.ให้เงินทุนไปปรับปรุงระบบประมง
"ในส่วนของการขายเรือประมง ขณะนี้กลุ่มชาวประมงได้เข้าชื่อแสดงความจำนงประมาณกว่า 200 ราย มีเรือประมงขนาดใหญ่และกลางรวมประมาณ 300 ลำเศษ ส่วนนี้ได้ยื่นให้แก่นายนิกร จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปแล้ว เฉพาะของผมเหมือนกับจะรู้ล่วงหน้า เมื่อก่อนผมมีอยู่กว่า 100 ลำมีลูกน้องเป็นพันคน เดี๋ยวนี้ผมเหลือแค่ 1 ลำเท่านั้น"
นายสุธรรม กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของสมาคมประมงไทย ดูเหมือนว่าไม่สามารถทำอะไรได้ในเรื่องของชาวประมงไทยเลย มองในภาพรวมไม่ได้เข้าใจในหลักการ ทำเพื่อผลประโยชน์มากกว่าตัวใครตัวมัน ถูกกระแสการเมืองเข้ามาปอกลอกไปวันๆว่าจะได้เงินอย่างนั้นอย่างนี้
"ในเรื่องน้ำมันเช่นกัน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลติดตามน้ำมันเพื่อประมงเดือนละ 40 ล้านลิตร ที่มันหายไปจากระบบ แท้จริงเป็นโควตาของประมงมันกลับหายออกไปโดยใช้ชื่อประมง เรื่องนี้ไม่มีความคืบหน้ามาเป็นประโยชน์ของชาวประมงเลย แต่เป็นประโยชน์ของบางคนแท้จริง 40 ล้านลิตรอยู่ในทะเลนั่นแหละ" นายสุธรรมกล่าวในที่สุด