นครศรีธรรมราช – ประมงเมืองนครศรีฯ รอคำตอบผู้ว่าฯ เตรียมชงขึ้นสมาคมประมงไทย บี้ต่อก๊าซเอ็นจีวีถามแสบ ปตท.พลังไทยเพื่อใคร หลังดองเค็มก๊าซเอ็นจีวีเพื่อประมงทั้งที่โรงแยกก๊าซอยู่ติดทะเลประมงปากพนัง เผยกองเรือออกทำประมงเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ลั่นอยู่ได้เพราะน้ำมันเถื่อน
ที่ จ.นครศรีธรรมราช กรณีความเดือดร้อนของชาวประมงใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีการปิดอ่าวเผาเรืออวนลากประท้วง ต่อหน้านายวิชม ทองสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มารับข้อเสนอไปดำเนินการตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (22 พ.ค.) นายสุธรรม วิชชุไตรภพ นายกสมาคมชาวประมงอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารสมาคมชาวประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้เรารอความชัดเจนจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 23 พ.ค.และในวันที่ 24 พ.ค.เวลา 10.00 น.สมาคมชาวประมงสิชล จะมีการประชุมหารือกรรมการกำหนดท่าทีความเคลื่อนไหว และหากไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนและแนวโน้มที่จะทำให้สถานการความเดือดร้อนของชาวประมงคลี่คลายลงไปนั้น เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของชาวประมงยังคงมีต่อเนื่องเพราะขณะนี้ได้ขยายตัวไปทั่วประเทศในจังหวัดที่มีการประกอบกิจการประมง และภาคใต้นั้นกำลังจะรวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ประมงอย่างชัดเจนมากขึ้น
ในส่วนของ จ.นครศรีธรรมราช หากไม่ได้รับการตอบสนองจะเริ่มจากมาตรการเดิม คือ การปิดอ่าวเผาเรือประทั้งกันต่อไป ซึ่งมีเรือเพิ่มขึ้นที่จะเผาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทำได้เพียงรอดูว่าจะจริงจังแค่ไหนในการแก้ปัญหา รอเพื่อวัดดวงและดูใจผู้ว่าราชการจังหวัด
นายกสมาคมประมงสิชลกล่าวต่อว่าในส่วนของปัญหาในระดับนโยบายที่จะต้องนำไปประชุมกันต่อในสมาคมประมงแห่งประเทศไทยในวันที่ 27 พ.ค.51 นั้น คือเรื่องของสภาวะราคาน้ำมันและเรื่องของเงินทุน สิ่งที่จะต้องพูดกันคือเรื่องของราคาน้ำมันเขียว วันนี้อยู่ที่ 32.60 บาทแล้ว การใช้น้ำมันของเรืออวนลากใช้ 5,000 ลิตรต่อเที่ยว หรือประมาณ 1.2 ลิตรขึ้นไปต่อเดือน ราคาปาเข้าไปหลายแสนบาท และแนวโน้มราคายังพุ่งไม่หยุดในขณะที่ราคาสัตว์น้ำยังเหมือนเดิม
"น้ำมันเขียวจึงไม่ใช่ทางออกของชาวประมงและน้ำมันม่วงนั้นพอบรรเทาให้เรือขนาดเล็กได้จะต้องขึ้นมาอยู่บนฝั่งเท่านั้น สิ่งที่จะต้องพูดกันให้ชัดคือเรื่องของก๊าซเอ็นจีวีเพื่อชาวประมง ตรงนี้สำคัญในนครศรีธรรมราช เป็นโอกาสดีโรงแยกก๊าซอยู่ที่ อ.ขนอม ริมทะเลด้วยซ้ำ ความหวังประมงมีสมัยที่ ปตท.เป็นของรัฐบาล แต่ตอนนี้กลายเป็นมหาชน หวังอะไรไม่ได้เลย อ้างว่าส่งเสริมเอ็นจีวี แต่ถ้าส่งเสริมไปแล้ว ปตท.จะขาดทุนผลประโยชน์ ฟันธงได้เลยว่า ปตท.จะทำเรื่องนี้นั้นยาก รวมทั้งรัฐบาลก็หกกันเรื่อยไป เมื่อก่อน ปตท.คือพลังไทยเพื่อไทย แต่เดี๋ยวนี้ต้องถามว่า ปตท.คือพลังไทยเพื่อใคร" นายกสมาคมประมงสิชล กล่าว
นายสุธรรม กล่าวต่อว่า เรื่องของราคาน้ำมันนั้นคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว มันยังคงทะยานต่อไปอีก เอ็นจีวีคือทางเลือกที่ดีที่สุดของเรือประมง เราจะต้องดูใจในรัฐบาลว่าจะจริงจังกันแค่ไหน ซึ่งสมาคมประมงแห่งประเทศไทยจะร่วมกันกำหนดท่าทีเพื่อนนำเสนอต่อระดับนโยบายในวันที่ 27 พ.ค.นี้
ขณะที่นายกมลศักดิ์ เลิศไพบูลย์ นายกสมาคมประมงปากพนัง เปิดเผยว่า เดิมนั้นเรากำหนดท่าทีที่จะปิดอ่าวในนครศรีธรรมราช พร้อมกัน 3 อ่าวคืออ่าวปากพนัง อ่าวสิชล และขนอม ซึ่งในขณะนี้แนวโน้มของการปิดอ่าวต่อเนื่องหากไม่ได้รับการตอบรับนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องทำกันต่อไปอย่างแน่นอน
"ภาพรวมของประมงปากพนังในขณะนี้กองเรือประมงขนาดใหญ่หยุดไปราว 70 เปอร์เซ็นต์ที่ทำกันต่อไปนั้นมีอยู่ราว 30 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มนี้ทำการประมงนอกน่านน้ำส่วนใหญ่จะล้ำเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านเป็นการวัดดวง โชคดีก็รอดมาได้โชคร้ายหายไปทั้งคนทั้งเรือ และที่ต้องทำต่อไปนั้นถ้าหยุดคือล้มละลาย แต่ถ้าเดินหน้าพอมีทางรอด แต่ทางรอดใช่ว่าหน่วยงานไหนหรือรัฐบาลจะช่วย เราต้องดิ้นรนให้รอดตาย ซึ่งทั้งหมดที่ออกไปนั้นเติมน้ำมันเถื่อนนอกน่านน้ำลิตรละเพียง 27 บาท เท่านั้นดังนั้นที่ยังทำประมงกันอยู่ได้เพราะน้ำมันเถื่อน" นายกสมาคมประมงปากพนังกล่าว
ที่ จ.นครศรีธรรมราช กรณีความเดือดร้อนของชาวประมงใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีการปิดอ่าวเผาเรืออวนลากประท้วง ต่อหน้านายวิชม ทองสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มารับข้อเสนอไปดำเนินการตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (22 พ.ค.) นายสุธรรม วิชชุไตรภพ นายกสมาคมชาวประมงอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารสมาคมชาวประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้เรารอความชัดเจนจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 23 พ.ค.และในวันที่ 24 พ.ค.เวลา 10.00 น.สมาคมชาวประมงสิชล จะมีการประชุมหารือกรรมการกำหนดท่าทีความเคลื่อนไหว และหากไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนและแนวโน้มที่จะทำให้สถานการความเดือดร้อนของชาวประมงคลี่คลายลงไปนั้น เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของชาวประมงยังคงมีต่อเนื่องเพราะขณะนี้ได้ขยายตัวไปทั่วประเทศในจังหวัดที่มีการประกอบกิจการประมง และภาคใต้นั้นกำลังจะรวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ประมงอย่างชัดเจนมากขึ้น
ในส่วนของ จ.นครศรีธรรมราช หากไม่ได้รับการตอบสนองจะเริ่มจากมาตรการเดิม คือ การปิดอ่าวเผาเรือประทั้งกันต่อไป ซึ่งมีเรือเพิ่มขึ้นที่จะเผาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทำได้เพียงรอดูว่าจะจริงจังแค่ไหนในการแก้ปัญหา รอเพื่อวัดดวงและดูใจผู้ว่าราชการจังหวัด
นายกสมาคมประมงสิชลกล่าวต่อว่าในส่วนของปัญหาในระดับนโยบายที่จะต้องนำไปประชุมกันต่อในสมาคมประมงแห่งประเทศไทยในวันที่ 27 พ.ค.51 นั้น คือเรื่องของสภาวะราคาน้ำมันและเรื่องของเงินทุน สิ่งที่จะต้องพูดกันคือเรื่องของราคาน้ำมันเขียว วันนี้อยู่ที่ 32.60 บาทแล้ว การใช้น้ำมันของเรืออวนลากใช้ 5,000 ลิตรต่อเที่ยว หรือประมาณ 1.2 ลิตรขึ้นไปต่อเดือน ราคาปาเข้าไปหลายแสนบาท และแนวโน้มราคายังพุ่งไม่หยุดในขณะที่ราคาสัตว์น้ำยังเหมือนเดิม
"น้ำมันเขียวจึงไม่ใช่ทางออกของชาวประมงและน้ำมันม่วงนั้นพอบรรเทาให้เรือขนาดเล็กได้จะต้องขึ้นมาอยู่บนฝั่งเท่านั้น สิ่งที่จะต้องพูดกันให้ชัดคือเรื่องของก๊าซเอ็นจีวีเพื่อชาวประมง ตรงนี้สำคัญในนครศรีธรรมราช เป็นโอกาสดีโรงแยกก๊าซอยู่ที่ อ.ขนอม ริมทะเลด้วยซ้ำ ความหวังประมงมีสมัยที่ ปตท.เป็นของรัฐบาล แต่ตอนนี้กลายเป็นมหาชน หวังอะไรไม่ได้เลย อ้างว่าส่งเสริมเอ็นจีวี แต่ถ้าส่งเสริมไปแล้ว ปตท.จะขาดทุนผลประโยชน์ ฟันธงได้เลยว่า ปตท.จะทำเรื่องนี้นั้นยาก รวมทั้งรัฐบาลก็หกกันเรื่อยไป เมื่อก่อน ปตท.คือพลังไทยเพื่อไทย แต่เดี๋ยวนี้ต้องถามว่า ปตท.คือพลังไทยเพื่อใคร" นายกสมาคมประมงสิชล กล่าว
นายสุธรรม กล่าวต่อว่า เรื่องของราคาน้ำมันนั้นคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว มันยังคงทะยานต่อไปอีก เอ็นจีวีคือทางเลือกที่ดีที่สุดของเรือประมง เราจะต้องดูใจในรัฐบาลว่าจะจริงจังกันแค่ไหน ซึ่งสมาคมประมงแห่งประเทศไทยจะร่วมกันกำหนดท่าทีเพื่อนนำเสนอต่อระดับนโยบายในวันที่ 27 พ.ค.นี้
ขณะที่นายกมลศักดิ์ เลิศไพบูลย์ นายกสมาคมประมงปากพนัง เปิดเผยว่า เดิมนั้นเรากำหนดท่าทีที่จะปิดอ่าวในนครศรีธรรมราช พร้อมกัน 3 อ่าวคืออ่าวปากพนัง อ่าวสิชล และขนอม ซึ่งในขณะนี้แนวโน้มของการปิดอ่าวต่อเนื่องหากไม่ได้รับการตอบรับนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องทำกันต่อไปอย่างแน่นอน
"ภาพรวมของประมงปากพนังในขณะนี้กองเรือประมงขนาดใหญ่หยุดไปราว 70 เปอร์เซ็นต์ที่ทำกันต่อไปนั้นมีอยู่ราว 30 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มนี้ทำการประมงนอกน่านน้ำส่วนใหญ่จะล้ำเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านเป็นการวัดดวง โชคดีก็รอดมาได้โชคร้ายหายไปทั้งคนทั้งเรือ และที่ต้องทำต่อไปนั้นถ้าหยุดคือล้มละลาย แต่ถ้าเดินหน้าพอมีทางรอด แต่ทางรอดใช่ว่าหน่วยงานไหนหรือรัฐบาลจะช่วย เราต้องดิ้นรนให้รอดตาย ซึ่งทั้งหมดที่ออกไปนั้นเติมน้ำมันเถื่อนนอกน่านน้ำลิตรละเพียง 27 บาท เท่านั้นดังนั้นที่ยังทำประมงกันอยู่ได้เพราะน้ำมันเถื่อน" นายกสมาคมประมงปากพนังกล่าว
