นครศรีธรรมราช – ประมงเมืองนครศรีฯ ท้อ ยอมเปิดหมวก-วางลอบปู หมึก หากินกันตาย สั่งลูกหลานเด็ดขาดเลิกอาชีพ รัฐปล่อยให้ตายแน่นอน
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสุธรรม วิชชุไตรภพ นายกสมคมประมงสิชล นครศรีธรรมราช ในฐานะกรรมการสมาคมประมงไทย เปิดเผยว่า มาจนถึงวันนี้ได้สะท้องให้เห็นชัดว่าไม่มีความเคลื่อนไหวที่จะให้การช่วยเหลือชาวประมงในแง่มุมใดๆ จากรัฐบาลเลย สิ่งที่มีคือมีแค่ประกาศ มีแค่แนวโน้มแต่ภาคปฏิบัติให้เป็นจริงนั้นไม่มีเลย ประมงส่ออยู่แล้วว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่มีหลักยึด การจัดการของรัฐบาลสะท้อนให้เห็นชัดว่าไม่มีคนรับผิดชอบ แต่ละหน่วยงานก็ว่าไปคนละอย่าง ประมงทำได้แค่ตะโกนปาวๆระบายความเครียดทุกอย่างว้าเหว่ไปหมด
กรรมการสมาคมประมงไทย กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวต่อไปกลัวว่าจะมีปัจจัยภายนอกเข้ามาแทรกแซงมาก เพราะขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะปัญหาของชาวประมงเพียงอย่างเดียว มีความเดือดร้อนทุกหัวระแหงเร่งเร้าต่อไปก็ไปกันใหญ่ ประมงในเวลานี้อยู่ในสภาพอยู่ก็ตาย สู้ก็ตาย ถ้ามองต่อไปถึงรัฐบาลหากจะยุบสภาประมงก็ตายหรือถ้าอยู่ต่อไปประมงก็ตาย
“รัฐบาลปัจจุบันจึงเป็นรัฐบาลที่นิ่งต่อปัญหา เรื่องเดือดร้อนของประชาชนก็เป็นเรื่องของประชาชน รับปากจะแก้ปัญหาแต่เฉยที่จะแก้ ทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่ในอำนาจได้นานที่สุด ประมงต้องตั้งสติอยากจะลุยให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลยเหมือนกัน ภาพรวมในขณะนี้มีการทยอยเปลี่ยนอาชีพกันไปมาก ไปทำลอบปู ลอบหมึก วางอวนลอยเล็กๆน้อยๆหากินไปวันๆ บ้างไปรับจ้างทำสวน และต่างก็สอนสั่งลูกหลานให้เลิก และหยุดอาชีพทำประมง สิชลนั้นมีอวนลาก 100 เปอร์เซ็นต์ 2-3 ปีข้างหน้าหยุดทั้งหมดต้องเปลี่ยนอาชีพไปอย่างแน่นอน ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยจะยิ่งห่างไปเรื่อยๆ อาชีพเกษตรกรรมจะต้องปรับตัวเองไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นทาสไม่รู้จบ” นายสุธรรม กล่าว
ขณะที่ นายอำพล เจนเศรษฐวัช นายกสมาคมประมงขนอม นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ชาวประมงกำลังทยอยเปลี่ยนอาชีพไปมากแล้ว ส่วนใหญ่จะหนักไปทางรับจ้างขายแรงงาน ส่วนเรือประมงนั้นต่างก็จอดนิ่งเรือขนาดเล็กตายไปทั้งหมด ส่วนเรือขนาดใหญ่นั้นจอดสนิทปัญหาที่ตามมา คือ จอดในน้ำแค่ 5 เดือนเพรียงน้ำจะกินเรืออีก ต้องนำไปขึ้นคาน ทีหนึ่งก็ตกเป็นแสน
“มาจนถึงวันนี้พิสูจน์จะเห็นแล้วว่า เราถูกรัฐบาลหลอกอีกเช่นเคย ทางแก้เราพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลกับ ปตท.เข้ามาแก้โดยใช้ก๊าซเอ็นจีวี โรงแยกก๊าซอยู่ที่ขนอมแต่กลับไม่มีความคืบหน้า ปตท.ก็โยนไปหาสถาบันการเงิน สถาบันการเงินก็เรียกหาหลักทรัพย์กฎระเบียบที่หยุมหยิมมาก แล้วประมงจะไปเอาหลักทรัพย์ที่ไหน เหลือแค่ชีวิตเท่านั้น” นายอำพล กล่าว
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสุธรรม วิชชุไตรภพ นายกสมคมประมงสิชล นครศรีธรรมราช ในฐานะกรรมการสมาคมประมงไทย เปิดเผยว่า มาจนถึงวันนี้ได้สะท้องให้เห็นชัดว่าไม่มีความเคลื่อนไหวที่จะให้การช่วยเหลือชาวประมงในแง่มุมใดๆ จากรัฐบาลเลย สิ่งที่มีคือมีแค่ประกาศ มีแค่แนวโน้มแต่ภาคปฏิบัติให้เป็นจริงนั้นไม่มีเลย ประมงส่ออยู่แล้วว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่มีหลักยึด การจัดการของรัฐบาลสะท้อนให้เห็นชัดว่าไม่มีคนรับผิดชอบ แต่ละหน่วยงานก็ว่าไปคนละอย่าง ประมงทำได้แค่ตะโกนปาวๆระบายความเครียดทุกอย่างว้าเหว่ไปหมด
กรรมการสมาคมประมงไทย กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวต่อไปกลัวว่าจะมีปัจจัยภายนอกเข้ามาแทรกแซงมาก เพราะขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะปัญหาของชาวประมงเพียงอย่างเดียว มีความเดือดร้อนทุกหัวระแหงเร่งเร้าต่อไปก็ไปกันใหญ่ ประมงในเวลานี้อยู่ในสภาพอยู่ก็ตาย สู้ก็ตาย ถ้ามองต่อไปถึงรัฐบาลหากจะยุบสภาประมงก็ตายหรือถ้าอยู่ต่อไปประมงก็ตาย
“รัฐบาลปัจจุบันจึงเป็นรัฐบาลที่นิ่งต่อปัญหา เรื่องเดือดร้อนของประชาชนก็เป็นเรื่องของประชาชน รับปากจะแก้ปัญหาแต่เฉยที่จะแก้ ทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่ในอำนาจได้นานที่สุด ประมงต้องตั้งสติอยากจะลุยให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลยเหมือนกัน ภาพรวมในขณะนี้มีการทยอยเปลี่ยนอาชีพกันไปมาก ไปทำลอบปู ลอบหมึก วางอวนลอยเล็กๆน้อยๆหากินไปวันๆ บ้างไปรับจ้างทำสวน และต่างก็สอนสั่งลูกหลานให้เลิก และหยุดอาชีพทำประมง สิชลนั้นมีอวนลาก 100 เปอร์เซ็นต์ 2-3 ปีข้างหน้าหยุดทั้งหมดต้องเปลี่ยนอาชีพไปอย่างแน่นอน ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยจะยิ่งห่างไปเรื่อยๆ อาชีพเกษตรกรรมจะต้องปรับตัวเองไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นทาสไม่รู้จบ” นายสุธรรม กล่าว
ขณะที่ นายอำพล เจนเศรษฐวัช นายกสมาคมประมงขนอม นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ชาวประมงกำลังทยอยเปลี่ยนอาชีพไปมากแล้ว ส่วนใหญ่จะหนักไปทางรับจ้างขายแรงงาน ส่วนเรือประมงนั้นต่างก็จอดนิ่งเรือขนาดเล็กตายไปทั้งหมด ส่วนเรือขนาดใหญ่นั้นจอดสนิทปัญหาที่ตามมา คือ จอดในน้ำแค่ 5 เดือนเพรียงน้ำจะกินเรืออีก ต้องนำไปขึ้นคาน ทีหนึ่งก็ตกเป็นแสน
“มาจนถึงวันนี้พิสูจน์จะเห็นแล้วว่า เราถูกรัฐบาลหลอกอีกเช่นเคย ทางแก้เราพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลกับ ปตท.เข้ามาแก้โดยใช้ก๊าซเอ็นจีวี โรงแยกก๊าซอยู่ที่ขนอมแต่กลับไม่มีความคืบหน้า ปตท.ก็โยนไปหาสถาบันการเงิน สถาบันการเงินก็เรียกหาหลักทรัพย์กฎระเบียบที่หยุมหยิมมาก แล้วประมงจะไปเอาหลักทรัพย์ที่ไหน เหลือแค่ชีวิตเท่านั้น” นายอำพล กล่าว
