รองโฆษกวุฒิสภา “ตวง อันทะไชย” ระบุ ปธ.วุฒิ เตรียมเจรจา “พันธมิตรฯ” แน่ 7 ก.ย.นี้ เผยแม้พันธมิตรฯ ยังไม่ตอบรับอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าน่าจะยินดีเจรจา เพราะถือเป็นทางออกที่ดีกว่าทำประชามติ – ผู้ช่วยเลขาฯ วิปรัฐบาล “พีระพันธุ์ พาลุสุข” ยัน รบ.จะเดินหน้าทำประชามติ หากติดขัดเรื่องข้อกฎหมายก็ค่อย ๆ แก้กันไป ย้ำ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมเจรจากับพันธมิตรฯ เพราะข้อเรียกร้องให้ลาออก และห้าม “พลังแม้ว” เป็นรัฐบาลอีก ถือเป็นข้อเสนอที่มากเกินไป
วันนี้ (6 ก.ย.) ตวง อันทะไชย รองโฆษกประจำวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ในรายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ถึงกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา จะไปทำหน้าที่เป็นคนกลางเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อหาทางยุติเหตุการณ์ที่กระทบต่อความสงบของประเทศในวันพรุ่งนี้ว่า ขณะนี้นายประสพสุข ได้ประสานงานกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวแทนของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้นแม้ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำยืนยันอย่างเป็นทางการ จากแกนนำพันธมิตรฯ ว่าจะยินยอมเข้ามาร่วมเจรจาหรือไม่ แต่เท่าที่การข่าวของ วุฒิสภาสืบทราบ ก็คาดว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯ น่าจะยินดีเจรจา แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้อย่างชัดเจน จนกว่าจะถึงวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้
นายตวง กล่าวต่อไปด้วยว่า สาเหตุที่ทางประธานวุฒิสภา ได้ยอมรับที่จะเป็นคนกลางในการเจรจาในครั้งนี้ก็เพราะ ที่ประชุมร่วม3 ฝ่าย ระหว่าง ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา และ ผู้นำฝ่ายค้าน ต่างมีมติเห็นตรงกันว่า ปัญหาทางการเมืองขณะนี้ น่าจะแก้ไขได้ด้วยการเจรจา เพราะหากจะทำประชามติตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอนั้น ก็เกรงว่าจะติดขัดต่อข้อกฎหมาย และอาจนำไปสู่การแตกแยกในสังคมที่รุนแรงขึ้น
ผู้ดำเนินรายการถามว่า แต่ท่าทีของฟากรัฐบาลในขณะนี้ ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า ว่าไม่ต้องการที่จะเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ แล้วคาดว่าในที่สุดรัฐบาลจะยินยอมเจรจาหรือไม่ นายตวงกล่าวว่า ตนคิดว่าท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลน่าจะยอมรับเข้าร่วมเจรจา เพราะการเจรจาโดยมีคนกลางอย่าง ผบ.ทบ. และประธานวุฒิสภา ก็น่าจะถือได้ว่าเป็นทางออกที่ ดีที่สุดแล้วในขณะนี้
ด้านนายพีระพันธุ์ พาลุสุข ผู้ช่วยเลขานุการวิปรัฐบาลพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนมองว่าการเสนอให้มีการเจรจากันนั้น เป็นความพยายามของหลายฝ่ายที่จะพยายามจะแก้ปัญหา ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงมองว่า วิธีแก้ปัญหาในวันนี้ก็คือ การทำประชามติ เพราะรัฐบาลยึดมั่นในหลักการ ของประชาธิปไตย ทำให้เชื่อว่า เมื่อคนสองฝ่ายเกิดความขัดแย้งกันขึ้น และไม่รู้ว่าทางออกควรจะทำอย่างไร ก็ควรกลับไปตั้งตน โดยการสอบถามความคิดเห็นของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยนั่นเอง
ส่วนเรื่องว่า การทำประชามติ อาจจะขัดต่อข้อกฎหมายนั้น ตนคิดว่า ควรปล่อยให้เรื่องราวดำเนินการไปตามขั้นตอน คือเมื่อถึงเวลาที่จะทำจริง ๆ แล้วติดข้อกฎหมายตรงไหน ก็ค่อยทำการแก้ไขปัญหาไป ซึ่งนี่คือทางออกที่รัฐบาลคิดว่าดีที่สุด และยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลจะไม่ลาออก หรือยุบสภา อย่างแน่นอน
นายพีรพันธุ์ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่รัฐบาลไม่คิดที่จะเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ ในขณะนี้ก็เป็นเพราะ รัฐบาลมองแล้ว่า การเจรจากันคงเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นฝ่ายที่สร้างเงื่อนไข คือกลุ่มคนที่กระทำผิดกฎหมาย บุดยึดสถานที่ราชการ แล้วยังมาสั่งให้รัฐบาลกระทำการต่าง ๆ ราวกับเป็นเจ้าของประเทศแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นหากรัฐบาลทำตามความต้องการของคนกลุ่มนี้ อีกหน่อยหากมีรัฐบาลชุดอื่นมาบริหารประเทศ แล้วมีคนกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ ก็มารวมตัวกันเรียกร้องอีก หากเห็นว่าการเรียกร้องแบบผิดกฎหมายเช่นนี้ ได้ผล รัฐบาลยอมทำตาม
อีกทั้ง เงื่อนไขที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เรียกร้องนั้น ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลรับไม่ได้ เพราะเป็นข้อเสนอที่มากเกินไป ทั้งขอให้นายกลาออก พรรคพลังประชาชนห้ามเป็นรัฐบาล ซึ่งต้องถามกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าเป็นใคร ถึงจะมีอำนาจมากมายมาสั่งการรัฐบาลได้ขนาดนั้น