xs
xsm
sm
md
lg

“สัตว์นรก” ฝัน 9 แกนนำมอบตัว ขำกลิ้งจัดรถส่ง พธม.ถึงบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
รองโฆษกรัฐ ชักคิดถึงทำเนียบ ชะเง้อรอแกนพันธมิตรฯเข้ามอบตัวสู้คดี ยันจะไม่ใช้กำลังสลายชุมนุม ลงทุนจัดรถรับส่งพันธมิตรฯกลับใจถึงหน้าบ้าน ป้ายสีผู้ชุมนุมเตรียมน้ำมันจุดไฟเผา ตลบแตลงยันไม่ทุบตี พธม.แต่จะต้องผลักดันให้พ้นทำเนียบ

วันนี้ (28 ส.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยเข้ามาจอดรถบริเวณลานจอดรถ ซึ่งทาง สตช.ไม่ได้มีการตั้งกองตำรวจเกียรติยศมาต้อนรับเหมือนเช่นการประชุมครั้งที่แล้วมา ซึ่งมีรอง ผบ.ตร.ให้การต้อนรับ ทั้งนี้นายสมัคร มีสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้เข้าหารือเพื่อขอแถลงข่าวกับสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม นายสมัคร เลือกใช้ประตูด้านหลังตึกอำนวยการ เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ ก่อนที่จะให้รถยนต์ส่วนตัวขับวนมายังหน้าตึกอีกครั้ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายกฯได้มอบหมายให้ตนแถลงข่าว ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า จะไม่ใช้ความรุนแรง หรือใช้กำลังทุบตีเข้าสลายการชุมนุมอย่างแน่นอน และจะดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย ขอเรียนว่า ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่บริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลทุกชุด การที่กลุ่มพันธมิตรฯเข้ายึดทำเนียบแสดงถึงความไม่ชอบธรรม ขอเรียกร้องให้แกนนำทั้ง 9 เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและพิสูจน์ตัวเองกับศาล และกระบวนการยุติธรรม

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นด้วยหลักนิติธรรม นิติรัฐร้องขอว่า หากใครมีญาติ พี่น้องหรือบุคคลในครอบครัวเข้าร่วมการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลขอให้โทร หรือแจ้งไปยังญาติด้วยว่าการชุมนุมครั้งนี้ผิดกฎหมาย หากยังดึงดันฝ่าฝืนคำสั่งศาลรัฐบาลจะดำเนินการทางกฎหมายทันที นอกจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมรถบัสไว้จำนวนมากเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนา

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอยากขอความร่วมมืออย่างจริงใจจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคให้มีมาตรการดำเนินการกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สส. พรรคที่ถูกหมายจับในฐานะกบฎ และเรียกร้องให้นายสมเกียรติยอมมอบตัว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ได้ นอกจากนี้ตนได้รับรายงานด้านการข่าวว่าในทำเนียบรัฐบาลมีการก่อกำแพงกระเบื้องก่อนถึงกำแพงมนุษย์ และมีการส่องสุมยางรถยนต์และน้ำมันเพื่อใช้เตรียมการก่อความวุ่นวายหากแกนนำถูกจับกุม

เมื่อถามว่า การตั้งข้อหากบฎกับแกนนำพันธมิตรฯ ถือเป็นข้อหาที่ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 113 หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การตั้งข้อหาดังกล่าวเป็นการตั้งข้อหาที่สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้แต่พนักงานสอบสวนเป็นผู้ตั้งข้อกล่าวหาโดยนำสู่ศาลซึ่งมีองค์คณะผู้พิพากษาเป็นผู้พิจารณาอนุมัติการออกหมายจับ ตนถือว่าทุกคนต้องเคารพดุลยพินิจของศาล ส่วนที่มาข้อหากบฎนั้นมาจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้เป็นการเมืองใหม่ ตามทฤษฎีที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ ข้อสังเกตุของตนมองว่า หากการกระทำที่ผ่านมาของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้กระทำมาต้องไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เนื่องจากหากมีการประกาศการเมืองใหม่ก็ถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการเคลื่อนไหวโดยใช้กำลังเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญตามมาตรา 113 หรือไม่ อีกทั้งการออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญ 2550 จะเกิดการเมืองใหม่ได้อย่างไร อีกทั้งพันธมิตรฯปฏิเสธการดำเนินการของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งชัดเจน ถือเป็นการโค่นล้มสถาบันบริหาร นิตบัญญัติ ข้อกล่าวหาจะร้ายแรงหรือไม่แล้วแต่ใครจะพิจารณา แต่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล

เมื่อถามว่า หากมีการจับกุมแกนนำทั้ง 9 คนอาจจะเกิดการต่อสู้นำไปสู่การปฏิวัติหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรียนว่าคำว่าปฏิวัติ หรือรัฐประหารไม่เคยอยู่ในความคิดของรัฐบาล อีกทั้งความคิดของผู้บัญชาการเหล่าทัพไม่มีความคิดที่จะก่อรัฐประหาร ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบและจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความเรียบร้อย หากมีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่จะต้องเข้าควบคุมตัวแกนนำ รัฐบาลก็จะดำเนินการโดยสันติวิธีไม่มีการลงมือทำร้าย ทุบตีพี่น้องประชาชน

“รัฐบาลไม่ได้ปกป้องเวลาในการบริหารประเทศของตัวเอง ไม่ได้ปกป้องเสถียรภาพของบ้านเมือง ไม่ได้ปกป้องความอยู่รอดของตัวเอง แต่ปกป้องอธิปไตยของพี่น้องประชาชนที่เลือกรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ หากรัฐบาลยอมพ่ายแพ้ จะทำให้คนที่เลือกรัฐบาลรู้สึกอย่างไรกับกระบวนการประชาธิปไตยได้อย่างไร วันนี้รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นว่า ยังมีศักยภาพในการบริหารบ้านเมืองอยู่ได้ อีกทั้งยังมีความเฉียบขาดในการจัดการกับคนที่ก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง มั่นใจว่ากำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลจะเพียงพออย่างแน่นอน ภายใต้การดูแลของพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ และรมว.มท.” รองโฆษกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า การที่นายกฯได้สั่งการอย่างชัดเจนให้สลายการชุมนุมภายใน 18.00น. วานนี้ แต่มาวันนี้ทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงระบุว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุม นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลต้องติดตามสถานการณ์ การตัดสินใจใดๆในห้วงการพิจารณาสถานการณ์ย่อมเกิดความแตกต่างขึ้นได้ หากมีการสั่งการสรุปสุดท้ายเท่านั้นจึงจะเป็นข้อสรุปในการจัดการกับสถานการณ์ รวมถึงพิจารณาการปฏิบัติ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า การเปลี่ยนแปลงโดยยกเลิกการสลายการชุมนุมเป็นเพราะทหารไม่เห็นด้วย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การสลายการชุมนุมทั้งฝ่ายทหารและรัฐบาลต่างก็ไม่เห็นด้วย อย่างมากที่สุดที่รัฐบาลจะทำคือการนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีความแตกต่างจากคำว่าทุบตี อย่างแน่นอน ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาที่ตายตัว มีการพิจารณาสถานการณ์ทุกระยะ

เมื่อถามว่า ล่าสุดพล.ต.จำลอง ให้พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เข้ามาดำเนินการสานต่อกลุ่มพันธมิตรฯ รัฐบาลมีความเป็นห่วงตรงนี้หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ว่าใครเป็นแกนนำต่อ หรือไม่มีแกนนำ รัฐบาลคำนึงถึงความเสียหายที่ปรากฎไปแล้วทั่วโลก ตัวแกนนำวันนี้ไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ว่าความชอบธรรมในการชุมนุมยังมีอยู่หรือไม่ คนที่นำประชาชนมาชุมนุมจะรับผิดชอบอย่างไร

เมื่อถามว่า การเปลี่ยนแกนนำการชุมนุมจะทำให้รูปแบบการชุมนุมเปลี่ยนหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สไตล์ของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันแน่นอนว่าสไตล์ของพล.ต.จำลอง กับพล.อ.พัลลภแตกต่างกัน ขอให้พิจารณาแนวทางการเคลื่อนไหวของพล.อ.พัลลภ ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า ขณะนี้รัฐบาลวิเคราะห์หรือไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลังการชุมนุม นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าการที่จะถามถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังตัวจริง เสียงจริง คงไม่ใช่วาระที่จะนำมาพูดจากันวันนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ เวลานี้รัฐบาลต้องทำทำเนียบรัฐบาลให้กลับคืนสู่ความสง่างาม ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายดำเนินคดีกับแกนนำได้

เมื่อถามว่า กระแสข่าวว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุลออกมาเปิดเผยว่าได้รับทราบจากราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ระบุว่าในวันที่ 30 นี้จะไม่มีการจัดงาน 116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นการกล่าวอ้างของนายสนธิ แต่ยืนยันว่าทางราชการมีเอกสารหลายฉบับระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนหน้าที่กลุ่มพันธมิตรฯจะมาบุกยึดทำเนียบ เพียงแต่ตนไม่สามารถนำเอกสารเหล่านั้นมาชี้แจงกับสื่อได้เนื่องจากหลักฐานะเอกสารส่วนใหญ่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล ขอให้ไปดูในรายการสนทนาประสาสมัคร เนื่องจากมีการระบุ วันเวลา สถานที่ และองค์ประธาน ไว้ชัดเจนก่อนหน้าที่พันธมิตรฯจะชุมนุมใหญ่

เมื่อถามว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา มาตรการต่างๆ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเจ้าหน้าที่ และขั้นตอนแผนการปฏิบัติ หากมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพล.ต.อ.โกวิท
กำลังโหลดความคิดเห็น