xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ซัด “รบ.หมัก” เหิมละเมิดพระราชดำรัช ร.7 ไม่ฟังเสียง ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
“ประพันธ์” ตอกยับ “รัฐบาลหุ่นเชิด” แอบอ้างมาจากการเลือกตั้งแต่ไม่เคยฟังเสียง ปชช. ชี้เหิมเกริมบังอาจละเมิดพระราชดำรัช ร.7 ฮึ่มรวมพลังขับไล่ “หมัก” เหตุเพราะหมดความชอบธรรมบริหารบ้านเมือง เตือนเตรียมชดใช้กรรมที่ก่อไว้ พร้อมปลุก “แนวร่วมพันธมิตรฯ” ร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งยิ่งใหญ่เพื่อประเทศชาติ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายประพันธ์ คูณมี ปราศรัย 

วานนี้ (25 ส.ค.) นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศเคลื่อนกองทัพกู้ชาติในวันที่ 26 ส.ค.นี้ว่า วันที่ 26 ส.ค.นี้ ถือเป็นวันสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการปฏิบัติการครั้งยิ่งใหญ่ของหมู่มวลมหาประชาชน เนื่องจากประชาชนทุกคนมีหน้าที่ทดแทนคุณแผ่นดินไม่ว่าจะเป็นการเสียภาษี หรือปฏิบัติไปตามหน้าที่ของตัวเอง ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคนนั้น ต่างมีผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุด เพราะเป็นการปฏิบัติการทางการเมืองที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน แต่ทำเพื่อเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

“วันนี้พี่น้องพันธมิตรฯ คงได้รับรู้ถ้อยแถลงของแกนนำพันธมิตรฯ ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง เรื่องการให้กองทัพประชาชน เพื่อกู้ชาติไม่ให้ล่มจม โดยก่อนหน้านี้มีหลายคนถามว่า รัฐบาลทำผิดอะไร เราจึงต้องโค่นล้มขับไล่ นั่นเป็นเพราะคนที่ถามไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ความผิดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีทั้งสิ้นถึง 8 ประการ ทั้งย่ำยีรัฐธรรมนูญทุกรูปแบบ และใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม และนี่คือคำประกาศที่ยิ่งใหญ่ และสมบูรณ์แบบที่สุดของกลุ่มพันธมิตรฯ” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า เราสู้กับระบอบทักษิณมายาวนาน เพราะสร้างความเลวร้ายโดยสร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก แต่รัฐบาลชุดปัจจุบัน นอกจากจะไม่สะสางปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองแล้ว แล้วยังปกปิดการกระทำความผิดของระบอบทักษิณ ที่ก่อกรรมเอาไว้ อีกทั้งยังสร้างความชั่วขึ้นมาใหม่ และพยายามที่จะโกงกิน ผลาญชาติ ผลาญแผ่นดินโดยไม่คำนึงถึงเสียงคัดค้านของพี่น้องประชาชนเลยแม้แต่น้อย จึงขอให้สมญานามรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า รัฐบาลที่รวมพวกคนชั่วยกกำลัง 2 ฉะนั้น สิ่งที่เป็นภารกิจของพี่น้องประชาชน จึงถือเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ และเป็นความฝันอันสูงสุด เพราะจะรวมความปรารถนาของพี่น้องทั้งแผ่นดิน

“เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน ผมขออัญเชิญพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า “คนเราเกิดมาต้องมีความฝัน มีจินตนาการ และพาความฝันให้เป็นจริง หาทางทำให้สำเร็จ ความสำเร็จของเราทำให้ผู้อื่นเป็นสุข และมือคือสิ่งที่ต้องทำตามคำสั่งจากสมอง คนมีฝีมือ หรือไม่มีฝีมือ ดูที่การกระทำนั่นเอง” ฉะนั้น ปฏิบัติการของพวกเราในวันที่ 26 ส.ค.นี้ คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเราจะต้องทำความฝันอันยิ่งใหญ่ของพวกเราให้ปรากฏเป็นจริง และทำให้ได้รับชัยชนะให้จงได้” อดีต สนช.กล่าว

อดีต สนช.กล่าวต่อว่า ประวัติศาสตร์ของทุกประเทศทั่วโลก ล้วนมีการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายกันทั้งสิ้น ไม่มีครั้งใดของการต่อสู้ที่จะไม่ผ่านความยากลำบาก โดยจะเห็นได้จากประเทศจีนที่จัดงานโอลิมปิก ซึ่งประธานเหมาเจ๋อตงระบุว่า ประชาชนคือวีรชนที่แท้จริง และมีแต่ประชาชนเท่านั้น ที่จะไม่มีพลังใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าพลังประชาชน ที่ออกมาช่วยสร้างประวัติศาสตร์ของชาติตนเอง ดังนั้น ในวันนี้มี่ 26 ส.ค.นี้ เราจะต้องร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะเอาชนะร่วมกัน เพราะไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าความเชื่อมั่น และความหวัง ดังนั้นเราต้องร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ โดยใช้ความเข้มแข็ง และความสามัคคี ซึ่งผลสุดท้ายชัยชนะจะตกเป็นของพวกเราพี่น้องประชาชน

“วันนี้บ้านเมืองของเราอยู่ในภาวะตกต่ำ เพราะนักการเมืองปล้นชิงอำนาจ และทรยศต่อประชาชน ไม่นำพาปัญหาของชาติ โดยเฉพาะกรณีที่นายสมัคร ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า มีสิทธิอะไรที่จะมาโค่นล้มเขา เพราะเขามาจากการเลือกตั้งจึงมีความชอบธรรม ขอถามว่าคนที่โกงกินแล้วมาจากการเลือกตั้งนั้น มีความชอบธรรมหรือไม่ และนายสมัคร ใช่หรือไม่ ที่ออกไปปลุกระดมให้ประชาชนออกไปฆ่านักศึกษาในเหตุการณ์ 6 ต.ค. รวมทั้งยังปลุกระดมให้คนออกไปโค่นล้มหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมทย์ ซึ่งมาจากการเลือกตั้งทำไม” นายประพันธ์ ระบุ

ส่วนผลที่นายสมัคร ทำกับประชาชนเอาไว้นั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า นายสมัครต้องชดใช้เวร ชดใช้กรรม และจะต้องถูกคิดบัญชีโดยประชาชนในวันที่ 26 ส.ค.นี้ อีกทั้งนายสมัคร อย่ามากล่าวอ้างเรื่องการเลือกตั้งว่ามาจากประชาชน เพราะกรณีดังกล่าวไม่ได้ทำให้คนชั่วกลายเป็นคนดี ฉะนั้นเราต้องรวมจิตเป็นหนึ่งเดียว โดยจะต้องประกาศไม่ยอมรับนายสมัคร ให้เป็นนายกฯ อีกต่อไป เพราะไม่เคยสำนึกบุญคุณของแผ่นดินเลยแม้แต่น้อย รวมทั้งเราจะไม่ยินยอมให้คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันปกครองบ้านเมืองนี้อีกต่อไป

“ผมขออัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิ์ขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร” แต่ข้อเท็จจริงวันนี้ รัฐบาลสมัคร ได้ละเมิดพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 7 อย่างชัดแจ้ง เพราะเขาไม่เคยฟังเสียงของพ่อแม่พี่น้องประชาชนเลยแม้แต่น้อย โดยจะเห็นได้จากกรณีที่เด็กนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะ ไปร้องเรียนเรื่องการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ แต่นายสมัคร ก็ไม่เคยรับฟังเสียงใดๆ ทั้งสิ้นเลยแม้แต่น้อย” อดีต สนช.กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น