ในค่ำคืนสุดท้ายของชายหนุ่มวัย 23 ปี เขามีความสุขเหลือเกินสำหรับวินาทีสำคัญที่จะมาถึงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เพราะมันคือวันเกิดของเขาเอง และที่สำคัญ คือ มันเป็นวันเกิดของผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิต...เขากับแม่เกิดวันเดียวกัน เขาอดบันทึกความสุขเหล่านี้ไว้ในไดอารีออนไลน์ไม่ได้ เพราะชายหนุ่มเขียนบันทึกจนเป็นนิสัย เขาเขียนมันมากว่า 3 ปี แล้ว
“แม่จ๋า... วันเกิดลูกไม่ได้ไปฉลองที่ไหนจริง ๆ นะแม่ แถวนี้ไม่มีที่ให้ฉลอง แค่ลูกรอดกลับมาได้ก็พอใจแระ เดี๋ยวรอกลับไปฉลองกับเด็จแม่ที่บ้านเรา เนอะๆ”... นี่คือ ส่วนหนึ่งจากบันทึกวันที่ 20 มิถุนายน อันเป็นบันทึกหน้าสุดท้ายของหมวดหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้
ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ ตำรวจพลร่ม ชุดรบพิเศษ 1 ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี (นรต.60) หรือ “หมวดตี้” ของเพื่อนๆ โลกไซเบอร์ เป็นคนที่เขียนไดอารีออนไลน์สม่ำเสมอ เขาเขียนบันทึกประจำวันในเว็บไดอารีอิสดอทคอมที่ polize.diaryis.com ด้วยความที่หมวดตี้เป็นคนสนุก และมีมุกกระจายแทบทุกบรรทัด ทำให้มีแฟนคลับที่ติดตามอ่านบันทึกของเขาไม่น้อย
น่าเสียใจและน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ช่วง 24 ปีที่เขารอคอยในบันทึก จะมาเยือนเขาเพียงไม่ถึง 10 ชั่วโมง ก่อนกระสุนปืนจะพรากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ
ช่วงเช้าของวันที่ 20 ร.ต.ต.กฤตติกุล ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด ได้นำเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ลาดตระเวนด้วยรถยนต์กระบะ บริเวณถนนสายบ้านสันติ 1 เขื่อนบางลาง ระหว่างหมู่ 1 และ หมู่ 2 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยในเส้นทาง
ก่อนเวลาเก้าโมงเล็กน้อย เสียงปืนระเบิดขึ้นจากจุดซุ่มยิงของคนร้ายจำนวน 7 คน กระสุนจากอาวุธสงคราม และจากการปะทะกว่า 10 นาทีนั้น ผลปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4 นาย แต่หัวหน้าชุดลาดตระเวนครั้งนี้...พลีชีพในที่รบ
เก็บไดอารีไว้เป็นอนุสรณ์-หน้าสุดท้ายกว่า 140,000 คลิก
ฮันท์ – ศิระ สัจจินานนท์ เว็บมาสเตอร์ Diaryis อันเป็นที่ที่หมวดตี้ใช้พื้นที่บันทึกไดอารีนานกว่า 3 ปี ให้ข้อมูลว่า ไดอารีอิส เป็นสังคมปิด การจะเข้ามาใช้จำเป็นต้องให้สมาชิกเชิญหรือที่เรียกว่า “Invite” เข้ามาใช้เป็นทอดๆ ดังนั้นทำให้สมาชิกเว็บส่วนใหญ่จะรู้จักกัน
“พอเกิดเหตุหมวดถูกยิง ก็มีสมาชิกโทรมาบอกครับ ผมไม่ได้รู้จักหมวดเป็นการส่วนตัว แต่ก็อ่านไดอารีหมวด พอทราบข่าวก็เสียใจครับ สมาชิกไดอารีก็ขอว่า อยากเก็บไดอารีของหมวดไว้ โดยปกติหากไม่มีการเขียนเลยในเวลา 3 เดือน ทางเว็บจะลบ แต่สำหรับไดอารีหมวดตี้ ผมตัดสินใจเก็บไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ความรัก มิตรภาพ เกียรติและหน้าที่ของหมวด ถ้าไปอ่านจะรู้ว่าหมวดได้บอกเจตนารมณ์ของเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละเอาไว้ทุกๆ วันที่เขียน เพื่อสิ่งที่หมวดตั้งใจทำมาตลอด จะได้มีเก็บไว้ เป็นการสืบต่อความตั้งใจของหมวดครับ”
ส่วนยอดจำนวนผู้เข้าชมไดอารี polize.diaryis.com ในหน้าสุดท้ายที่หมวดตี้เขียนถึงวันเกิดตัวเองและแม่นั้น ศิระให้ข้อมูลว่า ล่าสุดเฉพาะหน้านี้ มีผู้มาตอบกระทู้ไว้อาลัยถึงกว่า 5,000 รายแล้ว ทั้งที่เป็นสมาชิกไดอารีอีส และผู้ที่ทราบข่าวจากที่มีผู้ไปโพสต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ เช่น พันทิป เด็กดี เอ็มไทย สนุก ทูฮาวน์ ฯลฯ และมีทีท่าว่าจะเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ เพราะจนขณะนี้ก็ยังมีบรรดาเหล่าประชนชนคนออนไลน์ทยอยไปตอบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชม (นับเป็น IP Click) เฉพาะหน้าไดอารี่สุดท้าย พุ่งถึง 148,837 คลิกแล้ว (ข้อมูลวันที่ 1 ก.ค.)
“เป็นสถิติที่มากที่สุดในไดอารีอิส และผมเชื่อว่าน่าจะสูงสุดในบรรดาเว็บประเภทไดอารีทั้งหมดครับ” ศิระ กล่าว
บันทึกหมวดตี้ มุมมองดีๆ ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
ร.ท.สุรเชษฐ ดีเอื้อ หรือ “หมวดออฟ” รอง ผบ.ร.8 พัน.2 ร้อย.1 นายทหารหนุ่มที่ติดตามอ่านไดอารีของหมวดตี้จนกลายเป็นเพื่อนกัน เล่าย้อนความหลังว่า ตอนแรกที่อ่านไดอารีของหมวดตี้ คือ ช่วงปลายปี 2547 มาเริ่มคุยกันผ่านกล่องคอมเมนต์ประมาณปี48 จากนั้นก็กลายมาเป็นแอด Msn (โปรแกรมแชตทางอินเทอร์เน็ต) คุยกัน
“ในมุมมองของผมต่อตี้ ที่ตี้เค้าเป็นที่รักของเพื่อนๆในไดอารีเพราะเค้าเป็นคนจริงใจ เปิดเผยและก็ทำให้เพื่อนๆ ยิ้มได้ตลอดเวลา ทำให้โลกออนไลน์ของเค้ามีแต่ความรัก ความจริงใจตอบกลับมาครับ”
หมวดออฟ ยังกล่าวอีกด้วยว่า บันทึกประจำวันของหมวดตี้ ที่นอกจากจะบันทึกเรื่องส่วนตัวแล้ว ยังมีส่วนที่หมวดได้บันทึกถึงภารกิจหน้าที่ในแต่ละวัน การลงไปช่วยดูแลทุกข์สุขของประชาชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การลงพื้นที่ไปสอนชาวบ้านใช้อาวุธป้องกันตัว เหตุการณ์การปะทะกับกลุ่มโจรใต้ รวมถึงการสูญเสียเพื่อนรุ่นพี่ที่หมวดตี้รักและเคารพมากอีกคนหนึ่งอย่าง “ผู้กองแคน” ร.ต.อ.ธรนิศ ศรีสุข นักรบนเรศวรอีกคนหนึ่ง ที่พลีชีพเพื่อชาติเมื่อไม่นานมานี้
“ผมคิดว่า ไดอารีของหมวดตี้ มีส่วนทำให้คนมองภาพลักษณ์ตำรวจในมุมใหม่ๆ เพราะว่ามุมมองของตำรวจในสายตาประชาชนบางคนเพราะข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับตำรวจจะมีมาเรื่อยๆแต่ถ้าเค้าได้รู้จักตี้ การที่หมวดเอารูปต่างๆ ที่หมวดทำงาน กิจกรรมต่างๆ ที่หมวดฝึก จะทำให้เค้ามองเห็นตำรวจในแง่ดีมากขึ้น”
สำหรับปรากฏการณ์ความอาลัยของคนในโลกไซเบอร์ ที่มีการตอบกระทู้อาลัยหมวดตี้ที่ถูกตั้งขึ้นตามเว็บไซต์ต่างๆ หลายพันกระทู้นั้น หมวดออฟให้ความเห็นว่า ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นกระแส ที่ไม่นานก็อาจจะจางไป แต่สำหรับคนที่รักหมวดตี้ จะไม่มีวันลืมนักรบผู้กล้าคนนี้แน่นอน
เพื่อนออนไลน์ ฉายภาพจิตใจงดงาม “หมวดตี้”
ในขณะที่เพื่อนรุ่นพี่อีกคนอย่าง ณัฐธิดา เกิดฤทธิ์ หรือ กิกี้ ที่หมวดตี้มักจะเรียกขานเธอว่า “พี่กิ” เปิดเผยว่า มิตรภาพระหว่างเธอและหมวดผู้ล่วงลับเกิดขึ้นตามรูปแบบของเพื่อนทางเน็ตทั่วไป คือ จากการอ่านไดอารีและคอมเมนต์ จากนั้นก็คุยกันผ่าน Msn
“ตี้ชอบเครื่องบิน เมื่อก่อนกิทำงานอยู่หนังสือแอโร่เสปซ ตี้ชอบมาก เพราะอยากเป็นนักบิน เคยเล่าว่า ตอนนี้เป็นไม่ได้ เพราะติดภารกิจภาคใต้ ถ้าจบภารกิจก็จะไล่ตามฝันการเป็นนักบินแน่นอน ตี้เป็นเด็กกตัญญูมาก วันเกิดกิ ก็ชวนน้องไปเที่ยวเธค ตี้พิมพ์ตอบกลับมาเป็นกลอน บอกว่าวันเกิดเป็นวันที่แม่เกือบตาย ควรกลับไปไหว้พ่อกับแม่ น้องเป็นคนดีมาก อีกทีก็ตอนที่เราไปกินเคเอฟซี มันเหลือชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่ง ตี้ก็ยิ้มเศร้าๆ แล้วบอกว่า พี่รู้ไหม เด็กที่ใต้ ไม่ค่อยมีโอกาสกินอะไรแบบนี้หรอก น้องมักจะให้ข้อคิดดีๆเสมอ ตี้เป็นคนจิตใจงดงามมาก”
กิกี้ กล่าวถึงความรู้สึกเมื่อทราบว่าน้องชายร่วมโลกออนไลน์ที่เธอรักสนิทมากกว่า 3 ปีว่า ทำใจอยู่ 3-4 วัน ไม่ได้คร่ำครวญเพราะรู้ดีว่า หมวดไปสบายแล้ว สมศักดิ์ศรี สมความตั้งใจ และสมเกียรติที่หมวดตี้เขียนอยู่แนบท้ายไดอารีทุกหน้าของเขาว่า “ตายในที่รบ คือเกียรติของค่ายนเรศวร”
“หลังจากนี้ ก็จะเอาหนังสือแอโร่เสปซไปบริจาคเด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ ทำบุญให้น้อง น้องเคยบอกว่า ที่ใต้หาอ่านยากมาก ก็เลยคิดจะเอาให้เด็กที่นั่นที่สนใจเครื่องบินเหมือนน้อง” กิกี้ กล่าว
มิตรภาพออนไลน์ ไม่จำกัดวัย
มิตรภาพในโลกออนไลน์ไม่ได้จำกัดเฉพาะรุ่นอายุใกล้ๆ กัน เพราะหมวดตี้มีคนที่เขารักและเคารพเป็นอย่างยิ่งอีกคนในบ้านไดอารีอิสหลังนี้ นั่นคือก็ผู้ที่ใช้นามแฝงว่า “ป้าจอมป่วน” คุณป้าวัยใกล้ 50 ที่ตี้รักและไว้ใจมาก โดยป้ากล่าวว่า ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ตกใจ เสียใจ ภาวนาไม่อยากให้เป็นเรื่องจริง ถ้าจริงก็อยากให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น
“ตอนที่เขาเอาร่างตี้มาถึงบ้าน ก็ไปตั้งแต่วันแรกที่วัดสนามชัย อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี คนเยอะมาก ก็ร้องไห้ตลอด เมื่อก่อนตี้จะปรึกษาทุกเรื่อง เราก็รู้สึกว่าเค้าเหมือนน้อง รู้สึกว่าตี้เป็นเด็กกตัญญูและเป็นสุภาพบุรุษมาก ก็อยากจะบอกเขา ถ้าเขายังรับรู้ อยากบอกตี้ว่า ตี้ได้ทำหน้าที่สุภาพบุรุษนักรบ ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้แล้ว”
ด้าน ธมกร ศรีวัฒนสุข หรือ “กุ๊กไก่” สาวเก่งหนึ่งในทีมกองถ่าย “นเรศวร” ที่รู้จักหมวดตี้มาหลายปี แสดงความคิดเห็นว่า การจากไปของหมวดตี้ เป็นการปลุกกระแสความเสียสละของเจ้าหน้าที่ที่ลงไปปฏิบัติภารกิจ 3 จชต.ให้เกิดขึ้นในสังคม
“คือ การส่งกำลังใจไปยังผู้ที่เสียสละอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารภาคใต้ของคนนอกพื้นที่ไม่สม่ำเสมอ มันจะมีแรงสนับสนุน ขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีนายตำรวจเสียชีวิต และในฐานะเป็นเพื่อนคนหนึ่งของหมวด เมื่อเห็นการเข้ามาคอมเมนต์ในไดอารี ตลอดจนเว็บอื่นๆ ที่มีการตีพิมพ์ข่าวของหมวด ก็รู้สึกดีใจที่มีคนรักพี่ตี้เยอะขนาดนี้ ถึงขณะนี้อ่านไดอารีของพี่ตี้ทีไร ก็ยังร้องไห้ทุกที”
เพื่อนรุ่นน้องเผย หมวดตี้มีลางบอกเหตุบ่อย
จิณห์นิภา ขันคำ นศ.มช.ที่เคยมีโอกาสพาหมวดตี้เที่ยวชมเชียงใหม่ ระบุว่า รู้จักหมวดมาได้ระยะหนึ่งผ่านไดอารี เมื่อหมวดกับเพื่อนมาเที่ยวเชียงใหม่ จึงได้อาสาพาเที่ยว
“พี่ตี้ชอบถ่ายรูปมาก ถือกล้องตลอด จะเห็นได้ว่าในไดอารีของพี่ตี้จะมีรูปเยอะ พี่ตี้เป็นคนสนุก ขนาดเครียดยังพยายามทำให้คนรอบข้างยิ้ม เป็นคนดีมาก เขาเคยเล่าให้ฟังว่า ฝันว่าโดนยิง แล้วก็บอกว่า สายนาฬิกาข้อมือขาด แถมก่อนวันเกิดแกก็ตั้งชื่อ Msn ว่า วันสุดท้ายของเด็กชายอายุ 23 ปี”
ในขณะที่ พิมพิการ์ กลั่นแก้ว หรือ “ลูกตาล” หนึ่งในเพื่อนออนไลน์ของหมวดตี้กล่าวว่า ผู้ใหญ่มองว่ามิตรภาพในเน็ตเป็นเรื่องไร้สาระความสนใจในเนตของเด็กเน็ตก็ไร้สาระ แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าคนที่อ่าน มาคอมเมนต์ หรือมาเป็นเพื่อนกับหมวดตี้ ส่วนใหญ่เรียนจบโตทำงานหมดแล้ว
“สำหรับคนที่อ่านไดอารีตี้ คงไม่ใช่กระแส ตาลเชื่อว่าหลายคนในไดอารีอีสต้องเคยอ่านไดอารีของตี้บ้างส่วนคนที่ไม่เคยรู้จักตี้ ไม่เคยอ่านมาก่อน พอเห็นข่าว ก็เลย ตาลเคยส่งให้เพื่อนอ่าน เพื่อนถามว่า ฮิตตามเค้าด้วยเรอะ แล้วมันก็ด่า ฉันเกลียดตำรวจ เอามาให้อ่านทำไม หลังจากนั้นมันมาขออ่านใหม่แล้วก็บอกว่าถอนคำพูด ไม่ชอบตำรวจ แต่ยกเว้นให้เจ้าของไดอารี่นี้ ถ้าคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักตี้มาก่อน อาจมองว่าเป็นกระแส แต่ตาลเชื่อว่า หลายคนเพราะกระแสเนี่ย ถึงเข้ามารู้จักตี้ แล้วตี้ก็เปลี่ยนจากกระแสเป็นความรัก สำหรับ เรื่องอินเทอร์เน็ต ที่ผู้ใหญ่มองว่าไร้สาระ ตาลว่าเดี๋ยวนี้เด็กคิดเองได้ อะไรดีไม่ดี”
มิตรภาพดีๆ จากเพื่อนในโครงข่ายใยแมงมุมไซเบอร์เสปซของหมวดตี้ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนเสี้ยวความรัก ความอาลัย ยังมีอีกหลายหมื่นหลายแสนความเสียดาย ทั้งจากคนที่รู้จักไม่และไม่รู้จักเขา ที่ทราบข่าวการจากไป หลายพันกระทู้จากหลายเว็บไซต์ที่แสดงความอาลัย ย้ำเตือนในสำนึกถึงความเสียสละจากชายหนุ่มคนนี้
ทุกคนต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ภูมิใจที่ได้รู้จักลูกผู้ชายที่ชื่อ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ...นักรบพลร่มนเรศวร ผู้ทำให้วรรคทองแห่งเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด”
... ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป นี่คือปณิธานที่หาญมุ่งหมายผดุงยุติธรรมอันสดใส ถึงทนทุกข์ทรมานนานเท่าใดยังมั่นใจรักชาติองอาจครัน ...ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย”
…กำซาบเศร้าในหัวใจคนไทยไปนานเท่านาน ...
“แม่จ๋า... วันเกิดลูกไม่ได้ไปฉลองที่ไหนจริง ๆ นะแม่ แถวนี้ไม่มีที่ให้ฉลอง แค่ลูกรอดกลับมาได้ก็พอใจแระ เดี๋ยวรอกลับไปฉลองกับเด็จแม่ที่บ้านเรา เนอะๆ”... นี่คือ ส่วนหนึ่งจากบันทึกวันที่ 20 มิถุนายน อันเป็นบันทึกหน้าสุดท้ายของหมวดหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้
ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ ตำรวจพลร่ม ชุดรบพิเศษ 1 ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี (นรต.60) หรือ “หมวดตี้” ของเพื่อนๆ โลกไซเบอร์ เป็นคนที่เขียนไดอารีออนไลน์สม่ำเสมอ เขาเขียนบันทึกประจำวันในเว็บไดอารีอิสดอทคอมที่ polize.diaryis.com ด้วยความที่หมวดตี้เป็นคนสนุก และมีมุกกระจายแทบทุกบรรทัด ทำให้มีแฟนคลับที่ติดตามอ่านบันทึกของเขาไม่น้อย
น่าเสียใจและน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ช่วง 24 ปีที่เขารอคอยในบันทึก จะมาเยือนเขาเพียงไม่ถึง 10 ชั่วโมง ก่อนกระสุนปืนจะพรากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ
ช่วงเช้าของวันที่ 20 ร.ต.ต.กฤตติกุล ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด ได้นำเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ลาดตระเวนด้วยรถยนต์กระบะ บริเวณถนนสายบ้านสันติ 1 เขื่อนบางลาง ระหว่างหมู่ 1 และ หมู่ 2 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยในเส้นทาง
ก่อนเวลาเก้าโมงเล็กน้อย เสียงปืนระเบิดขึ้นจากจุดซุ่มยิงของคนร้ายจำนวน 7 คน กระสุนจากอาวุธสงคราม และจากการปะทะกว่า 10 นาทีนั้น ผลปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4 นาย แต่หัวหน้าชุดลาดตระเวนครั้งนี้...พลีชีพในที่รบ
เก็บไดอารีไว้เป็นอนุสรณ์-หน้าสุดท้ายกว่า 140,000 คลิก
ฮันท์ – ศิระ สัจจินานนท์ เว็บมาสเตอร์ Diaryis อันเป็นที่ที่หมวดตี้ใช้พื้นที่บันทึกไดอารีนานกว่า 3 ปี ให้ข้อมูลว่า ไดอารีอิส เป็นสังคมปิด การจะเข้ามาใช้จำเป็นต้องให้สมาชิกเชิญหรือที่เรียกว่า “Invite” เข้ามาใช้เป็นทอดๆ ดังนั้นทำให้สมาชิกเว็บส่วนใหญ่จะรู้จักกัน
“พอเกิดเหตุหมวดถูกยิง ก็มีสมาชิกโทรมาบอกครับ ผมไม่ได้รู้จักหมวดเป็นการส่วนตัว แต่ก็อ่านไดอารีหมวด พอทราบข่าวก็เสียใจครับ สมาชิกไดอารีก็ขอว่า อยากเก็บไดอารีของหมวดไว้ โดยปกติหากไม่มีการเขียนเลยในเวลา 3 เดือน ทางเว็บจะลบ แต่สำหรับไดอารีหมวดตี้ ผมตัดสินใจเก็บไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ความรัก มิตรภาพ เกียรติและหน้าที่ของหมวด ถ้าไปอ่านจะรู้ว่าหมวดได้บอกเจตนารมณ์ของเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละเอาไว้ทุกๆ วันที่เขียน เพื่อสิ่งที่หมวดตั้งใจทำมาตลอด จะได้มีเก็บไว้ เป็นการสืบต่อความตั้งใจของหมวดครับ”
ส่วนยอดจำนวนผู้เข้าชมไดอารี polize.diaryis.com ในหน้าสุดท้ายที่หมวดตี้เขียนถึงวันเกิดตัวเองและแม่นั้น ศิระให้ข้อมูลว่า ล่าสุดเฉพาะหน้านี้ มีผู้มาตอบกระทู้ไว้อาลัยถึงกว่า 5,000 รายแล้ว ทั้งที่เป็นสมาชิกไดอารีอีส และผู้ที่ทราบข่าวจากที่มีผู้ไปโพสต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ เช่น พันทิป เด็กดี เอ็มไทย สนุก ทูฮาวน์ ฯลฯ และมีทีท่าว่าจะเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ เพราะจนขณะนี้ก็ยังมีบรรดาเหล่าประชนชนคนออนไลน์ทยอยไปตอบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชม (นับเป็น IP Click) เฉพาะหน้าไดอารี่สุดท้าย พุ่งถึง 148,837 คลิกแล้ว (ข้อมูลวันที่ 1 ก.ค.)
“เป็นสถิติที่มากที่สุดในไดอารีอิส และผมเชื่อว่าน่าจะสูงสุดในบรรดาเว็บประเภทไดอารีทั้งหมดครับ” ศิระ กล่าว
ร.ท.สุรเชษฐ ดีเอื้อ หรือ “หมวดออฟ” รอง ผบ.ร.8 พัน.2 ร้อย.1 นายทหารหนุ่มที่ติดตามอ่านไดอารีของหมวดตี้จนกลายเป็นเพื่อนกัน เล่าย้อนความหลังว่า ตอนแรกที่อ่านไดอารีของหมวดตี้ คือ ช่วงปลายปี 2547 มาเริ่มคุยกันผ่านกล่องคอมเมนต์ประมาณปี48 จากนั้นก็กลายมาเป็นแอด Msn (โปรแกรมแชตทางอินเทอร์เน็ต) คุยกัน
“ในมุมมองของผมต่อตี้ ที่ตี้เค้าเป็นที่รักของเพื่อนๆในไดอารีเพราะเค้าเป็นคนจริงใจ เปิดเผยและก็ทำให้เพื่อนๆ ยิ้มได้ตลอดเวลา ทำให้โลกออนไลน์ของเค้ามีแต่ความรัก ความจริงใจตอบกลับมาครับ”
หมวดออฟ ยังกล่าวอีกด้วยว่า บันทึกประจำวันของหมวดตี้ ที่นอกจากจะบันทึกเรื่องส่วนตัวแล้ว ยังมีส่วนที่หมวดได้บันทึกถึงภารกิจหน้าที่ในแต่ละวัน การลงไปช่วยดูแลทุกข์สุขของประชาชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การลงพื้นที่ไปสอนชาวบ้านใช้อาวุธป้องกันตัว เหตุการณ์การปะทะกับกลุ่มโจรใต้ รวมถึงการสูญเสียเพื่อนรุ่นพี่ที่หมวดตี้รักและเคารพมากอีกคนหนึ่งอย่าง “ผู้กองแคน” ร.ต.อ.ธรนิศ ศรีสุข นักรบนเรศวรอีกคนหนึ่ง ที่พลีชีพเพื่อชาติเมื่อไม่นานมานี้
“ผมคิดว่า ไดอารีของหมวดตี้ มีส่วนทำให้คนมองภาพลักษณ์ตำรวจในมุมใหม่ๆ เพราะว่ามุมมองของตำรวจในสายตาประชาชนบางคนเพราะข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับตำรวจจะมีมาเรื่อยๆแต่ถ้าเค้าได้รู้จักตี้ การที่หมวดเอารูปต่างๆ ที่หมวดทำงาน กิจกรรมต่างๆ ที่หมวดฝึก จะทำให้เค้ามองเห็นตำรวจในแง่ดีมากขึ้น”
สำหรับปรากฏการณ์ความอาลัยของคนในโลกไซเบอร์ ที่มีการตอบกระทู้อาลัยหมวดตี้ที่ถูกตั้งขึ้นตามเว็บไซต์ต่างๆ หลายพันกระทู้นั้น หมวดออฟให้ความเห็นว่า ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นกระแส ที่ไม่นานก็อาจจะจางไป แต่สำหรับคนที่รักหมวดตี้ จะไม่มีวันลืมนักรบผู้กล้าคนนี้แน่นอน
ในขณะที่เพื่อนรุ่นพี่อีกคนอย่าง ณัฐธิดา เกิดฤทธิ์ หรือ กิกี้ ที่หมวดตี้มักจะเรียกขานเธอว่า “พี่กิ” เปิดเผยว่า มิตรภาพระหว่างเธอและหมวดผู้ล่วงลับเกิดขึ้นตามรูปแบบของเพื่อนทางเน็ตทั่วไป คือ จากการอ่านไดอารีและคอมเมนต์ จากนั้นก็คุยกันผ่าน Msn
“ตี้ชอบเครื่องบิน เมื่อก่อนกิทำงานอยู่หนังสือแอโร่เสปซ ตี้ชอบมาก เพราะอยากเป็นนักบิน เคยเล่าว่า ตอนนี้เป็นไม่ได้ เพราะติดภารกิจภาคใต้ ถ้าจบภารกิจก็จะไล่ตามฝันการเป็นนักบินแน่นอน ตี้เป็นเด็กกตัญญูมาก วันเกิดกิ ก็ชวนน้องไปเที่ยวเธค ตี้พิมพ์ตอบกลับมาเป็นกลอน บอกว่าวันเกิดเป็นวันที่แม่เกือบตาย ควรกลับไปไหว้พ่อกับแม่ น้องเป็นคนดีมาก อีกทีก็ตอนที่เราไปกินเคเอฟซี มันเหลือชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่ง ตี้ก็ยิ้มเศร้าๆ แล้วบอกว่า พี่รู้ไหม เด็กที่ใต้ ไม่ค่อยมีโอกาสกินอะไรแบบนี้หรอก น้องมักจะให้ข้อคิดดีๆเสมอ ตี้เป็นคนจิตใจงดงามมาก”
กิกี้ กล่าวถึงความรู้สึกเมื่อทราบว่าน้องชายร่วมโลกออนไลน์ที่เธอรักสนิทมากกว่า 3 ปีว่า ทำใจอยู่ 3-4 วัน ไม่ได้คร่ำครวญเพราะรู้ดีว่า หมวดไปสบายแล้ว สมศักดิ์ศรี สมความตั้งใจ และสมเกียรติที่หมวดตี้เขียนอยู่แนบท้ายไดอารีทุกหน้าของเขาว่า “ตายในที่รบ คือเกียรติของค่ายนเรศวร”
“หลังจากนี้ ก็จะเอาหนังสือแอโร่เสปซไปบริจาคเด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ ทำบุญให้น้อง น้องเคยบอกว่า ที่ใต้หาอ่านยากมาก ก็เลยคิดจะเอาให้เด็กที่นั่นที่สนใจเครื่องบินเหมือนน้อง” กิกี้ กล่าว
มิตรภาพออนไลน์ ไม่จำกัดวัย
มิตรภาพในโลกออนไลน์ไม่ได้จำกัดเฉพาะรุ่นอายุใกล้ๆ กัน เพราะหมวดตี้มีคนที่เขารักและเคารพเป็นอย่างยิ่งอีกคนในบ้านไดอารีอิสหลังนี้ นั่นคือก็ผู้ที่ใช้นามแฝงว่า “ป้าจอมป่วน” คุณป้าวัยใกล้ 50 ที่ตี้รักและไว้ใจมาก โดยป้ากล่าวว่า ตอนแรกที่ทราบข่าวก็ตกใจ เสียใจ ภาวนาไม่อยากให้เป็นเรื่องจริง ถ้าจริงก็อยากให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น
“ตอนที่เขาเอาร่างตี้มาถึงบ้าน ก็ไปตั้งแต่วันแรกที่วัดสนามชัย อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี คนเยอะมาก ก็ร้องไห้ตลอด เมื่อก่อนตี้จะปรึกษาทุกเรื่อง เราก็รู้สึกว่าเค้าเหมือนน้อง รู้สึกว่าตี้เป็นเด็กกตัญญูและเป็นสุภาพบุรุษมาก ก็อยากจะบอกเขา ถ้าเขายังรับรู้ อยากบอกตี้ว่า ตี้ได้ทำหน้าที่สุภาพบุรุษนักรบ ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้แล้ว”
ด้าน ธมกร ศรีวัฒนสุข หรือ “กุ๊กไก่” สาวเก่งหนึ่งในทีมกองถ่าย “นเรศวร” ที่รู้จักหมวดตี้มาหลายปี แสดงความคิดเห็นว่า การจากไปของหมวดตี้ เป็นการปลุกกระแสความเสียสละของเจ้าหน้าที่ที่ลงไปปฏิบัติภารกิจ 3 จชต.ให้เกิดขึ้นในสังคม
“คือ การส่งกำลังใจไปยังผู้ที่เสียสละอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารภาคใต้ของคนนอกพื้นที่ไม่สม่ำเสมอ มันจะมีแรงสนับสนุน ขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีนายตำรวจเสียชีวิต และในฐานะเป็นเพื่อนคนหนึ่งของหมวด เมื่อเห็นการเข้ามาคอมเมนต์ในไดอารี ตลอดจนเว็บอื่นๆ ที่มีการตีพิมพ์ข่าวของหมวด ก็รู้สึกดีใจที่มีคนรักพี่ตี้เยอะขนาดนี้ ถึงขณะนี้อ่านไดอารีของพี่ตี้ทีไร ก็ยังร้องไห้ทุกที”
เพื่อนรุ่นน้องเผย หมวดตี้มีลางบอกเหตุบ่อย
จิณห์นิภา ขันคำ นศ.มช.ที่เคยมีโอกาสพาหมวดตี้เที่ยวชมเชียงใหม่ ระบุว่า รู้จักหมวดมาได้ระยะหนึ่งผ่านไดอารี เมื่อหมวดกับเพื่อนมาเที่ยวเชียงใหม่ จึงได้อาสาพาเที่ยว
“พี่ตี้ชอบถ่ายรูปมาก ถือกล้องตลอด จะเห็นได้ว่าในไดอารีของพี่ตี้จะมีรูปเยอะ พี่ตี้เป็นคนสนุก ขนาดเครียดยังพยายามทำให้คนรอบข้างยิ้ม เป็นคนดีมาก เขาเคยเล่าให้ฟังว่า ฝันว่าโดนยิง แล้วก็บอกว่า สายนาฬิกาข้อมือขาด แถมก่อนวันเกิดแกก็ตั้งชื่อ Msn ว่า วันสุดท้ายของเด็กชายอายุ 23 ปี”
ในขณะที่ พิมพิการ์ กลั่นแก้ว หรือ “ลูกตาล” หนึ่งในเพื่อนออนไลน์ของหมวดตี้กล่าวว่า ผู้ใหญ่มองว่ามิตรภาพในเน็ตเป็นเรื่องไร้สาระความสนใจในเนตของเด็กเน็ตก็ไร้สาระ แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าคนที่อ่าน มาคอมเมนต์ หรือมาเป็นเพื่อนกับหมวดตี้ ส่วนใหญ่เรียนจบโตทำงานหมดแล้ว
“สำหรับคนที่อ่านไดอารีตี้ คงไม่ใช่กระแส ตาลเชื่อว่าหลายคนในไดอารีอีสต้องเคยอ่านไดอารีของตี้บ้างส่วนคนที่ไม่เคยรู้จักตี้ ไม่เคยอ่านมาก่อน พอเห็นข่าว ก็เลย ตาลเคยส่งให้เพื่อนอ่าน เพื่อนถามว่า ฮิตตามเค้าด้วยเรอะ แล้วมันก็ด่า ฉันเกลียดตำรวจ เอามาให้อ่านทำไม หลังจากนั้นมันมาขออ่านใหม่แล้วก็บอกว่าถอนคำพูด ไม่ชอบตำรวจ แต่ยกเว้นให้เจ้าของไดอารี่นี้ ถ้าคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักตี้มาก่อน อาจมองว่าเป็นกระแส แต่ตาลเชื่อว่า หลายคนเพราะกระแสเนี่ย ถึงเข้ามารู้จักตี้ แล้วตี้ก็เปลี่ยนจากกระแสเป็นความรัก สำหรับ เรื่องอินเทอร์เน็ต ที่ผู้ใหญ่มองว่าไร้สาระ ตาลว่าเดี๋ยวนี้เด็กคิดเองได้ อะไรดีไม่ดี”
มิตรภาพดีๆ จากเพื่อนในโครงข่ายใยแมงมุมไซเบอร์เสปซของหมวดตี้ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนเสี้ยวความรัก ความอาลัย ยังมีอีกหลายหมื่นหลายแสนความเสียดาย ทั้งจากคนที่รู้จักไม่และไม่รู้จักเขา ที่ทราบข่าวการจากไป หลายพันกระทู้จากหลายเว็บไซต์ที่แสดงความอาลัย ย้ำเตือนในสำนึกถึงความเสียสละจากชายหนุ่มคนนี้
ทุกคนต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ภูมิใจที่ได้รู้จักลูกผู้ชายที่ชื่อ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ...นักรบพลร่มนเรศวร ผู้ทำให้วรรคทองแห่งเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด”
... ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป นี่คือปณิธานที่หาญมุ่งหมายผดุงยุติธรรมอันสดใส ถึงทนทุกข์ทรมานนานเท่าใดยังมั่นใจรักชาติองอาจครัน ...ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย”
…กำซาบเศร้าในหัวใจคนไทยไปนานเท่านาน ...