xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ยึดหลักวางเฉย! พันธมิตรฯบุก สตช.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรึงกำลังเข้ม ห้ามพันธมิตรฯเข้าไปภายใน พร้อมสั่งปลดอาวุธ และอดกั้น อดทน กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยหยึดหลักวางเฉย

วันนี้(7 ก.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)เมื่อเวลา 10.00 น.กลุ่มผู้ชุมชุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์ นายภิภพ ธงชัย นายสุริยะใส กตะศิลา นายศรัณญู วงศ์กระจ่าง นายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ ขาดเพียง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดปักหลักเปิดการปราศรัย โดยใช้รถโมบายกระจายเสียงขนาดใหญ่ โจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม โดยมี พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรทยอยเดินทางมาตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น.โดยต่างคนต่างมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องใช้ราวเหล็กกั้นตลอดแนวถนน โดยมีกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) และกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.)ยืนปักหลักป้องกันเหตุอยู่ด้านหน้าและโดยรอบประมาณ 450 นาย ส่วนภายใน ตร.ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ประมาณ 300 นาย โดยมี พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานอยู่ภายใน ตร.มายืนสังเกตการณ์อยู่โดยรอบ ส่วนการจราจรด้านหน้าต้องมีการปิดไปโดยปริยาย เพราะกลุ่มพันธมิตรเข้ามาครอบครองพื้นที่ถนนเกือบทั้งหมด

นายสนธิ กล่าวว่า ที่ต้องมาที่เยือน ตร.อีกครั้ง เนื่องจากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องตำรวจผมรู้ดีตั้งแต่ครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยนั้นให้ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ เป็นผู้ทำสำนวนคดีของพวกตน ปัจจุบันตำรวจที่อยู่เบื้องหลัง ชื่อ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ที่มีการสั่งให้ปิดเครื่องขยายเสียง นอกจากนี้ตำรวจที่ดูแลคดีของนายจักรภพ เพ็ญแข ให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็นผู้ดูแล ทั้งที่ความจริงน่าจะเป็นของ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบกฎหมายและสอบสวน ที่สำคัญนายตำรวจที่อยู่ที่กองปราบปราม 2 คน ที่ทำคดีของนายจักรภพ โดนย้ายไปแล้ว ที่สำคัญคนอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร เป็นตำรวจที่ติดตามพรรคพลังประชาชนทุกคน ที่ต้องมาวันนี้เพราะเพียงแค่ขอให้ตำรวจทำหน้าที่ของตำรวจ ไม่ได้ขอให้ตำรวจเข้าข้างใคร

นายสนธิ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาข้าราชการตำรวจบางส่วนได้ประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการตำรวจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ยอมตกเป็นทาสรับใช้นักการเมืองแห่งระบบทักษิณอย่างไร้เกียรติและไร้ศักดิ์ศรี โดยการที่

1.โยกย้ายข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริตซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบคนในฝ่ายรัฐบาลไม่ให้มีอำนาจ ในทางตรงกันข้ามกลับโยกย้ายตำรวจของตัวเองและพวกพ้องให้มีตำแหน่งและมีอำนาจเพื่อกลั่นแกล้งรังแกฝ่ายที่ตรงกันข้าม

2.ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องมีมลทิน มัวหมอง ด้วยการปกป้องพวกพ้องไม่ให้ได้รับผิดในการฆ่าตัดตอนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในคดียาเสพติด ปกปิดปกป้องเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สั่งการอุ้มฆ่าผู้บริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และคดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ยังไม่มีความคืบหน้า

3.ขัดขวางเสรีภาพของประชาชนในหลายจังหวัไม่ให้เดินทางมาใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชิปไตย

4.กระทำการเลวทรามต่ำช้า ก่อกวน ยั่วยุ การชุมนุมของประชาชนที่มีเจตนารมณ์พิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ใช้พฤติกรรมสกปรกด้วยการใช้รถเครื่องเสียงที่ได้จากภาษีประชาชนเปิดเสียงดังรบกวน ขัดขวาง และยั่วยุการปราศรัยบนเวที ต่อหน้าสื่อมวงชน ต่อหน้าผู้ชุมนุม และต่อหน้าผู้นับชมผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีอย่างอุกอาจ

5.ปิดกันข้อมูลข่าวสารของประชาชน ข่มขู่คุกคามผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นไม่ให้ถ่ายทอดออกกาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

6. สมคบกับอันธพาลแห่งระบอบทักษิณทำร้ายร่างกายประชาชนที่สนุบสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้งโดยไม่มีใครออกมารับผิดชอบ

7.พยายามที่จะหยุดยั้งการชุมนุมของผู้รักชาติหลายครั้ง ทั้งยังให้สัมภาณ์บิดเบือนข้อกฎหมาย ดูถูกหลอกลวงประชาชนเพื่อมุ่งหวังที่จะรื้อและทำลายทรัพย์สินของการชุมนุม

8.เลือกปฎิบัติในการดำเนินคดีความ ถ่วงเวลาและบิดเบือนการสอบสวนคดีความของคนในระบอบทักษิณให้เป็นไปอย่างล้าช้า ทั้งคดีกุหลาบแก้ว คดีทุจริตลำไย คดีบุกรุกและครอบครองที่ดินเขากระโงของการรถไฟแห่งประเทศไทย การบุรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์ในอำเภอ สตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ในทางตรงข้ามกลับสมคบกับฝ่ายการเมืองใส่ความและเร่งรัดคดีความฝ่ายที่ตรวจสอบรัฐบาลโดยปราศจากข้อเท็จจริงทั้งต่อนัการเมือง ต่อหน่วยงานองค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญ และต่อภาคประชาชน ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในความพยายามออกมหายจับเพื่อกลั่นแกล้งนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแกรัฐ

9. เฉื่อนช้าต่อการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์และขบวนการทำลายสถาบัน

10.เพิกเฉยต่อคดีความคนที่เกี่ยวข้องกับคนในอำนาจรัฐไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดีอาญากับลูกชาย 2 คน ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ฐานปลอมแปลงเอกสาร สด.43 และคดีฆ่า ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต หรือ ดาบยิ้ม

ด้านพล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในฐานะ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิโรจน์ พลเวช รองผบ.ตร.ได้เรียกตำรวจนครบาลและสันติบาล มาพูดคุยเพื่อรับมือและแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม โดยให้ตำรวจทั้งหมดเก็บอาวุธและใช้ความอดทน อดกลั้น กลับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยให้ยึดหลักวางเฉย แต่หากมีการบุกรุกเข้ามาภายใน ก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การชุมนุมในวันนี้ คาดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ทำการปักหลักปิดถนนประท้วงเนื่องจาก รู้ดีว่าเป็นการทำผิดกฎหมายและทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งคาดว่า ช่วงบ่าย กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะเดินทางไปที่ศาลแพ่ง เพื่อฟังผลการไต่สวนของศาลต่อไป

ซึ่งทั้งหมดนี้ขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ยุติปัญหาดังกล่าวโดยทันทีด้วยการลงโทษข้าราชการที่ประพฤติมิชอบอย่างรวดเร็วและคืนความเป็นธรรมในการโยกย้ายข้าราชการที่ซื่อสัตย์ให้มาพิทักษ์สันติราษฎร์ โยกย้ายข้าราชการที่ประพฤติเลวทรามทั้งหลายไม่ให้มีอำนาจ ดำเนินคดีต่อนักการเมืองในระบอบทักษิณและผู้เกี่ยวข้องโดยเร็วพร้อมกับหยุดพฤติกรรมข่มขู่คุกคาม กลั่นแกล้งการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อสร้างสันติสุขและความเป็นธรรมให้กลับคืนสู่แผ่นดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.50 น. นายสนธิ ได้ชักชวนให้กลุ่มพันธมิตรเดินทางกลับไปปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยระหว่างนั้น นายศรัณญู ได้ชักชวนให้กลุ่มพันธมิตรที่มาร้องเพลง “ความฝันอันสูงสุด” และ “เราสู้” จากนั้น นายวสันต์ สิทธิเขต ได้ขึ้นอ่านกวี ซึ่งมีใจความด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ
ตำรวจวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

กำลังโหลดความคิดเห็น