“สมพงษ์” ฉุนข่าวแก้กฎผู้ร้ายข้ามแดนช่วย “แม้ว-อ้อ”

“สมพงษ์” ลมออกหู ข่าวแก้กฎส่งผู้ร้ายข้ามแดนช่วย “นายใหญ่-นายหญิง” ปัดเป็นโต้โผนำเข้า ครม.อ้างทำมาตั้งแต่ 6 มิ.ย.โยนเป็นหน้าที่ “อสส.-บัวแก้ว” ลากคอผู้ร้ายข้ามแดน ยันหน้าที่ ยธ.แค่ร่างระเบียบไม่ใช่ผู้ปฏิบัติ ไม่วิจารณ์หมายจับ “แม้ว-เมีย” หลัง ส.ส.ในพรรคดิ้นกันพล่าน ชี้แล้วแต่มุมมองคน ไม่ใช่มติพรรค

เมื่อเวลา 15.45 น.วันนี้ (19 ส.ค.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีหนังสือพิมพ์ลงข่าวที่ ว่า กระทรวงยุติธรรมจะออกกฎกระทรวงเพื่อจะให้การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนยากขึ้น เพื่อเป็นการเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่า กฎกระทรวงที่จะนำเข้า ครม.ไม่ได้เป็นการเร่งรัดแต่อย่างใด และไม่ได้นำเข้า ครม.ในวันนี้ (19 ส.ค.) ซึ่งความจริง ได้ทำเรื่องนี้เตรียมนำเข้า ครม.ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นไปตามมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.การส่งผู้ร้ายข้ามแดน ฉบับที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งครบกำหนดเรียบร้อยในวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางกระทรวงได้ทำงานคู่ขนานกันมาตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.แล้ว ซึ่งจะเรียบร้อยภายในอาทิตย์หน้า

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ได้ระบุชัดเจนแล้วว่า การที่ต่างประเทศ ประเทศใดประเทศหนึ่งทั่วโลก ซึ่งไม่ใช่ประเทศไทยจะขอส่งคนร้ายข้ามแดนกลับไปสู่ประเทศนั้นๆ มีกำหนด 1-2-3-4-5 ในรายละเอียดซึ่งจะต้องติดตามในภายหลัง แต่ข้อใหญ่ใจความสำคัญ คือ ต้องจัดทำเป็นภาษาไทย เพราะจะมาเอาเรื่องเอาราวในการขอตัว ต้องแปลเป็นภาษาไทย และส่งมาเป็นภาษาไทย มีค่าใช้จ่ายอย่างไรต้องกำหนดให้เรียบร้อย เรื่องเกี่ยวกับความยุ่งยากอย่างไรนั้น ต้องมีการหารือกันระหว่าง ศาล อัยการ ศาลยุติธรรม หรือหน่วยงานที่มีความสำคัญของไทยได้วางกรอบไว้ถูกต้อง ไม่ได้หมายความว่า ไปเขียนเพิ่มเติมอะไรต่างๆ

“จะไปเขียนข่าว ลงหัวข้อ แหม! จะทำให้นายใหญ่ นายหญิงกลับมาบ้านเราช้าลง มันไม่เกี่ยว เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ประเทศอื่นๆ ขอประเทศไทย” นายสมพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า สรุปว่า กฎกระทรวงจะทำให้ผู้ร้ายข้ามแดนยุ่งยากขึ้นหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า สำหรับประเทศอื่น ไม่ใช่ไทยแลนด์ การขอคนไทย กลับมาจากประเทศอื่น ต้องดูสนธิสัญญา ถ้ามีก็ต้องทำตามกรอบสนธิสัญญา โดยมีผู้ประสานงานกลาง คือ อัยการสูงสุด หรือจะมอบหมายให้ใครดำเนินการก็แล้วแต่ ไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมเลย ฉะนั้น ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเขียนข่าวในลักษณะดังกล่าวทำให้เสียหายต่อกระทรวงยุติธรรม

เมื่อถามว่า กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการเร่งให้การดำเนินการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาระบุว่า เป็นอำนาจของกระทรวงยุติธรรม นายสมพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรา เป็นหน้าที่อัยการ กระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่เพียงแต่ดูในรายละเอียด โดยมีคณะกรรมการกลางมีกระทรวงการต่างประเทศและอัยการสูงสุด เป็นคนทำกัน ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมเลยที่จะดำเนินการขอตัว ส่วนเรื่องการออกกฎกระทรวง กระทรวงยุติธรรมเป็นคนดำเนินการ วางกรอบแนวร่วมกับทางศาล กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานสำคัญเกี่ยวกับการขอบุคคลของประเทศต่างๆ ส่งตัวในฐานะการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

เมื่อถามว่า ทางอัยการสูงสุดมีการร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยดำเนินการหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า หากอยู่ในขอบข่ายของกฎหมายก็สามารถทำได้ทันที แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ประสานงานกลาง คือ อัยการสูงสุดจะมอบหมายให้เป็นใคร ซึ่งเวลาเขียนข่าว หากอ่านหนังสือไม่ขาดแล้วเขียนอย่างนั้นเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงเป็นเพียงผู้ร่างระเบียบ แต่ไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติ ในตัวบทกฎหมายก็ได้กำหนดให้ตำรวจเป็นผู้จับกุม

เมื่อถามว่า มีหนทางเป็นไปได้หรือไม่ในการทำให้หนทางการส่งผู้ร้ายข้ามแดนง่ายขึ้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า กฎหมาย สนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมีอยู่แล้ว เป็นไปตามแนวทางปกติ แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่สามารถทำได้ ก็ต้องดูที่ผู้ที่ปฏิบัติการ ทางกระทรวงวางระเบียบไว้เรียบร้อยแล้วระบุว่าให้ผู้ประสานงานกลางดำเนินการ ยืนยันว่า วันนี้ไม่ได้นำเข้า ครม.ต้องบอกว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่งานของเรา

เมื่อถามถึงการที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และภรรยา เป็นการประจานหรือไม่ เนื่องจาก ส.ส.พรรคพลังประชาชน ออกมากดดันนายกรัฐมนตรีให้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว นายสมพงษ์ กล่าวว่า แล้วแต่คนมอง เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล ตนไม่ขอคอมเมนต์

เมื่อถามว่า ส.ส.ในพรรคบางส่วนแสดงความไม่พอใจ นายสมพงษ์ กล่าวว่า เป็นมุมมองของแต่ละบุคคลมันไม่ใช่ ส.ส.ทุกคน ส่วนจะทำความเข้าใจอย่างไรนั้นจะเข้าไปหารือพูดคุยกันในพรรค เป็นเพียงมติแต่ละบุคคล ไม่ใช่มติพรรค พอเข้าใจกันได้