“ลิ่วล้อแม้ว” ทำปากกล้าขาสั่น หลัง ครม.มีมติตั้ง สนง.บังคับคดีอาญาฯ ล่าตัวคนหนีคดีทั้งในและต่างประเทศ เย้ยล่าตัว “นช.ทักษิณ” ไม่ได้แน่ สิ้นเปลืองภาษีประชาชนเปล่าๆ อย่ามัวเสียเวลา ด้านมือกฎหมาย พท.มีหน้ามาถามใช้กฎหมายใดรองรับอำนาจหน้าที่ อ้างถ้าทำได้คงทำไปนานแล้ว
วันนี้ (5 ส.ค.) นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยและนักโทษคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างหลบหนี ออกโรงปกป้องนายใหญ่สุดตัว หลังจากทราบว่าคณะรัฐมนตรีมีมติให้ตั้งสำนักงานบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมาย สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม มีภารกิจสำคัญ คือ การติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าตั้งขึ้นมา เพื่อหวังล่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ยังหลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ
นายนพดล กล่าวว่า การตั้งสำนักงานนี้ขึ้นมา สามารถทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่คิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองภาษีประชาชน เพราะเรื่องนี้มีเป้าหมายชัดเจน คือ ต้องการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมา เนื่องจากปกติก็มีกระบวนการขั้นตอนในการติดตามตัวอยู่แล้ว
นายนพดล กล่าวอีกว่า ดังนั้น การกระทำนี้ของรัฐบาลไม่เกิดประโยชน์อะไร เป็นการหวังผลด้านการเมืองเท่านั้น โดยต้องการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มุ่งขจัดคู่แข่งทางการเมือง เพราะรู้ว่าเลือกตั้งอย่างไรก็ไม่ชนะ เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น ทั้งปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลควรแก้ไขมีอีกมาก ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ที่ยังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทำอย่างนี้จะทำให้ประชาชนตัดสินใจไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น เพราะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เพราะยังมีคนที่ตกงาน มีคนที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวเรื่องไข้หวัดใหญ่ฯอีกมาก แต่รัฐบาลกับเมินเฉย
อย่างไรก็ตาม นายนพดล ไม่ได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 ปีในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาไปแล้ว และยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรีที่รอขึ้นศาลอีกประมาณ 17 คดี นอกจากนี้ ยังมีคดีล่าสุด คือ การปลุกปั่นยุยงให้คนเสื้อแดงก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมืองเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หลบหนีไปตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว และใช้เงินทองที่เชื่อว่าได้มาจากการทุจริตให้เป็นประโยชน์ในการเดินทางไปประเทศต่างๆ เพื่อหลบหนีการจับกุม ดังนั้น ในฐานะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายที่หลบหนีคดีสำคัญที่อาจเรียกได้ว่าเป็นคดีโกงชาติ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และมารับโทษในคดีที่ตัดสินไปแล้วให้ได้ เพื่อรักษาความเป็นนิติรัฐเอาไว้
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร และคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การตั้งสำนักงานดังกล่าวรัฐบาลก็มีอำนาจสามารถทำได้ แต่ต้องดูให้ดีว่าตั้งขึ้นมามีอำนาจตามกฎหมายอะไรรองรับ ตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร ต้องดูให้ชัด แต่แน่นอนว่า เจตนาในการตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมา ก็เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องไม่ลืมว่าเรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้น มีขั้นตอนข้อตกลงระหว่างประเทศนั้นๆ อยู่ การตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมาคงเป็นไปได้ยากที่จะติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาได้ เพราะถ้าทำได้ก็ทำไปนานแล้ว เพราะประเทศอื่นเขาก็รู้ว่า คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น มีที่มาและมีรายละเอียดอย่างไร