“กษิต” ย้ำ หาก “นช.แม้ว” โผล่เขมรต้องถูกส่งตัวตามสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน

“กษิต” ย้ำ หาก “นช.แม้ว” โผล่เขมรต้องถูกลากคอตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ชี้สัมพันธ์ฉันมิตร “ฮุนเซน” - “นช.แม้ว” ส่งผลกระทบต่อประเทศ ปัดวิจารณ์ “ผู้นำเขมร” เล่นตัวไม่ยอมมาร่วมพิธีเปิดประชุมอาเซียน โบ้ยไม่ใช่เรื่องสำคัญต้องสนใจ

วันนี้ (22 ต.ค.) นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ระบุว่าจะสร้างบ้านให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า สำหรับคำกล่าวของสมเด็จฮุนเซนแล้ว ขอย้ำว่า การหารือไม่ว่าจะเป็นระหว่างสมเด็จฮุนเซน กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หรือระหว่างสมเด็จฯ ฮุนเซนกับตน หรือแม้แต่สมเด็จฯ ฮุนเซน กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ท่านก็พูดตลอดว่า ระหว่างท่านกับอดีตนายกฯทักษิณ มีความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ตรงนั้นมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงระหว่างประเทศ ไม่คิดว่าจะนำ 2 เรื่องนี้มาปนกันได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความสัมพันธ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซน กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกันหรือไม่ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่กัมพูชาจริง จะมีการขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ประเด็นที่หนึ่ง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้ไปอยู่ที่กัมพูชา ความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จฯ ฮุนเซน กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวจะรักกันหรืออะไรอย่างไรก็แล้วแต่

“แต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาอยู่ในกัมพูชามันก็แน่นอน คือ มันจะโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาแน่นอน และคิดว่า ท่านสมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นนายกฯ เป็นนักการเมือง เป็นผู้ที่อาวุโสที่สุดในแวดวงการเมืองอาเซียน เชี่ยวชาญชำนาญการ ท่านพอจะรู้ดีอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไร และเรื่องยังไม่ได้เกิดขึ้น สองรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อตกลงสนธิสัญญาการส่งตัวนักโทษและอดีตนายกฯทักษิณ เป็นที่ทราบกันดีอยู่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยท่านก็มีคดีถูกจำคุก 2 ปี เราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายและทั้งสองประเทศต้องดำเนินการตามข้อผูกมัด ข้อตกลงที่มีอยู่ซึ่งกันและกันในฐานะมิตรประเทศ รักใคร่ชอบพอกัน ร่วมมือพัฒนาด้วยกันทั้งสองฝ่ายและต้องการขับเคลื่อนอาเซียนให้เป็นประชาคมที่เป็นปึกแผ่นแข่งขันกับโลกได้” นายกษิตกล่าว

นายกษิตกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การที่สมเด็จฯ ฮุนเซนเดินทางมาร่วมประชุมอาเซียนล่าช้า ก็เป็นเรื่องสุดวิสัยที่ต้องอยู่ต้อนรับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ไม่ได้มีประเด็นปัญหาอะไรและเขาก็บอกไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นความจำเป็น ซึ่งเข้าใจได้ แต่ไม่ได้ทำให้การหารือทั้งในกรอบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนะธรรมหรือกรอบการเมืองหายไป ทุกคนที่มาก็ทำหน้าที่ของตนเองในฐานะตัวแทนประเทศอย่างเต็มที่มีผลงานออกมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเจตนาการให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซนอย่างไร ที่ออกมาพูดค่อนข้างชัดเจนถึงคงวามสัมพันธ์อันแนบแน่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงกับให้บ้าน นายกษิต กล่าวว่า ตนไปเดาใจไม่ได้ เพราะท่านเป็นผู้นำเป็นรัฐบุรุษ เป็นนักการเมืองอาวุโสอาเซียนและสืบเนื่องมาจากการพบปะของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย มันก็ต่อเนื่องมา ซึ่งเราก็ฟังไว้

“ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นตัวตั้งให้กับผู้นำทั้งสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ควรที่จะมีความสัมพันธ์ที่เกินไปกว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นี่เป็นหลักปฏิบัติระหว่างประเทศ เราก็มีความเคารพมาตลอดเวลา ความสัมพันธ์ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความราบรื่น ทุกสิ่งทุกอย่างทำตามคำมั่นสัญญาได้ทุกเรื่อง” นายกษิต กล่าว

นายกษิตกล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ในเรื่องเขตแดนเป็นเรื่องทางเทคนิค ไม่เอาการเมืองเข้ามาเล่น ไม่เอามาเล่นเป็นการเมืองภายใน มีการเจรจาว่ากันตามขั้นตอนอะไรที่เดือดร้อนหรือกระทบกระทั่งตามแนวชายแดนก็สามารถยุติปัญหาได้ภายใน 24 ชั่วโมงมีการตกลงติดต่อในทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับรัฐบาล ทำให้เห็นเชิงบวกของความพยายามในการแก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที และด้วยความสุขุมภราดรภาพ เมื่อถามว่าสมเด็จฯ ฮุนเซนจะนำปัญหาข้อพิพาทขึ้นสู่เวทีอาเซียนหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ไม่ทราบ