xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จี้ “หมัก” รับรองความปลอดภัย “แม้ว” ตัดข้ออ้างใช้หนีคดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
โฆษก ปชป.จี้ “หมัก” อย่าอ้ำอึ้งจี้ออกมารับรองความปลอดภัย “แม้ว” ตัดเงื่อนไขใช้หนีคดี แฉ รัฐบาลเตรียมเสนอแก้ไข รธน.3 วาระรวด ด้าน “เทพไท” รับไม่ได้ “หมัก” ชื่นชมรายการ “ความจริงวันนี้” ใช้สื่อรัฐตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม มั่นใจ “แม้ว” ไม่วางมือทางการเมือง


วันนี้ (17 ส.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้สภาพบ้านเมืองกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนแปลง หลายเหตุการณ์เป็นการดำเนินตามแผนการของรัฐบาลและพรรคพลังประชาชน ที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อแก้ปัญหาของพรรค โดยแผนการหลัก คือ พยายามขัดขวางและยืดเวลากระบวนการที่จะดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชาชน ที่ผ่านมา มีความพยายามเข้าชื่อถอดถอนองค์กรอิสระ แต่พอขวางไม่สำเร็จก็พยายามร่นระยะเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหนีคดียุบพรรค ล่าสุดประธานวิปรัฐบาลเตรียมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 วาระรวด เป็นการใช้กฎหมายสูงสุดของประเทศเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ ยังมีการอาศัยสื่อของรัฐเป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะรายการความจริงวันนี้ ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่มีการสอดสาระของกลุ่ม นปก. ปลุกระดมสร้างความขัดแย้ง ทางพรรคห่วงใยอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องสถานะของ ป.ป.ช.ถึงขนาดให้ราชเลขาธิการออกหนังสือชี้แจง ซึ่งเห็นว่า เกินจุดสมควรและขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว โดยในวันที่ 18 ส.ค.นี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะลงนามในหนังสือถึง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงการใช้ภาษาในการจัดรายการของกรมประชาสัมพันธ์

“เรื่องนี้จำเป็นต้องให้ประชาชนรับรู้ว่ามีกระบวนการตั้งพรรคตัวแทนเอาไว้แล้ว แต่รัฐบาลมีหน้าที่โดยตรงที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชน และความเชื่อมั่นที่ทั่วโลกมีต่อไทย ซึ่งกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงไปแล้ว ส่วนข้ออ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ว่าเกรงไม่ได้รับความปลอดภัยนั้น ขอเรียกร้องให้นายสมัครออกมายืนยันในความปลอดภัยแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะกลับมาต่อสู้คดีในไทย เพราะเป็นประเด็นสำคัญที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ต่อรองขอลี้ภัยการเมือง”

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ไม่สมควรที่จะออกมาพูดเรื่องนโยบายการลดดอกเบี้ย เป็นการทับซ้อนผลประโยชน์ เพราะคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ หลายคนเป็นที่ปรึกษาบริษัทเอกชนที่มีการลงทุนและมีหนี้สินอยู่ในสถาบันการเงินกว่าหมื่นล้านบาท ควรปล่อยเป็นเรื่องขององค์กรอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งทางพรรคมีความห่วงใยในประเด็นนี้อยู่

นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การล่าชื่อเพื่อซักฟอกหัวหน้าพรรคตัวเองของสมาชิกพรรคพลังประชาชน ที่ปล่อยให้มีการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น คิดว่า เป็นกระบวนการออกหมายจับตามปกติที่ตำรวจดำเนินการตามหมายศาล แต่บังเอิญเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ สังคมจึงให้ความสนใจ เป็นข่าวโด่งดัง ไม่อยากให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน มีความรู้สึกไม่ดีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะมีการเอ่ยชื่อนายตำรวจผู้รับผิดชอบ ถือเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ หาก ส.ส.จะไม่พอใจการทำหน้าที่ต่างตอบแทนนายใหญ่ของ นายสมัคร ถือเป็นเรื่องภายในพรรค ไม่ควรไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นที่มีความบริสุทธิ์ใจในการทำงาน

ส่วนนโยบาย 116 วัน เพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาตินั้น ดูเหมือนนายกฯจะภูมิอกภูมิใจแจกแจงรายละเอียด แต่สิ่งที่จะเกิดความสมานฉันท์ไม่ได้เลย ก็คือ การออกมากล่าวชื่นชมรายการความจริงวันนี้ ที่ชื่นชมออกหน้าออกตาว่าพูดจาดีมีเหตุผล สามารถฟาดฟันองค์กรอิสระหลายองค์กร เหมือนพูดยอมรับว่าให้ท้ายสนับสนุนอยู่ ทั้งที่สังคมเรียกร้องให้ถอนออกเพื่อปลดชนวนความขัดแย้ง การกล่าวหาว่า ป.ป.ช.มาตรวจสอบเอ็นบีทีเพราะถูกแฉในรายการนี้ ต้องแยกกัน เอ็นบีทีเป็นของรัฐ ส่วนเอเอสทีวีเป็นของเอกชน หากอยากจะใช้สิทธิอย่างเอเอสทีวี นายกฯก็ควรไปเปิดสถานีผ่านดาวเทียมเอง

นายเทพไท กล่าวว่า แปลกใจที่นายกฯพูดจาท้าทายสื่อในช่วงท้ายรายการว่าให้ถือหางม็อบไป พร้อมประกาศว่าจะไม่ถอย จะสู้ต่อไป จะไม่ยุบสภา ซึ่งเป็นการพูดจาที่ขัดกับความจริงที่นายกฯได้เคยพูดไว้เมื่อตอนเข้าถวายสัตย์ฯ ว่าจะถอยทุกวิถีทาง จะไม่เป็นผู้ริเริ่ม ไม่ปะทะ แต่วันนี้กลับประกาศว่าจะไม่ถอยอีกแล้ว จึงอยากถามหาจุดยืนว่านายกฯต้องการอะไรกันแน่ ต้องการทำตามนโยบาย 116 วันเพื่อความสมานฉันท์จริงหรือไม่ ส่วนการเตรียมเปลี่ยนแปลงจากพรรคพลังประชาชนไปเป็นพรรคเพื่อไทย เป็นการดำเนินการของหลายกลุ่มหลายก๊กในพรรค ที่พยายามแสดงให้เห็นว่าใกล้ชิดนายใหญ่ จึงเกิดยุทธการแย่งชิงหัวพรรคเพื่อไทยขึ้น แย่งชิงการนำในพรรคเท่านั้น โดยวันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งได้ชิงเปลี่ยนป้ายชื่อสาขาพรรค จากพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคเพื่อไทยแล้ว อย่างไรก็ตามทั้งหมดอยู่ที่เงื่อนไขว่านายใหญ่จะสนับสนุนกลุ่มใดเท่านั้น และโฆษกพรรคพลังประชาชนก็ยอมรับแล้วว่าต้องรวมกลุ่มกันเพราะเรื่องทุนเป็นสำคัญ ซึ่งสังคมก็รู้ว่าใครคือนายทุนของนักการเมืองกลุ่มนี้ จึงชี้ชัดได้ว่านายใหญ่ยังไม่วางมือทางการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น