ผู้จัดการรายวัน – “สมัคร” ไม่อายขี้ปากตัวเอง ยกยอปอปั้น “รายการความจริงวันนี้” สุดคลาสสิก เหน็บศาลคุ้มครองให้ ASTV ด่ารัฐบาล 24 ชม. แถมกล่าวหาสันติอโศกปลุกม็อบล้มรัฐบาล ย้ำไม่ยุบสภาหนีคดียุบพรรค ลั่นเดินหน้ายึดที่ดินเกียกกายสร้างรัฐสภาใหม่ บอกมีอำนาจเซ็นไม่ต้องฟังใครแม้ถูกชุมชนและนักเรียนโยธินบูรณะค้าน ขณะที่ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนาประกาศค้านนายกฯ สร้างสภาใหม่ ชี้เร่งผิดปกติ
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ถึงกรณีที่ป.ป.ช.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนอธิบดี กรมประชาสัมพันธ์ และผอ.NBT ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากปล่อยให้รายการ “ความจริงวันนี้” ดำเนินรายการละเมิดสิทธิ์ส่วนตัว ไม่ใช่สื่อมวลชนที่ดี ซึ่งตนต้อง ขอประทานโทษที่ทำให้ท่านอธิบดีฯและผอ. NBT เดือดร้อน แต่จะบอกให้ฟังว่า ตนเป็นนายกฯ มีโทรทัศน์รัฐบาลอยู่ช่องนี้ ใช้อย่างกระเหม็ดกระแหม่ คือขอใช้วันอาทิตย์ 1 วันคุย แล้วเขาก็มีภาคเอกชนมาช่วยจัดการ รายการชื่อความจริงวันนี้ (จัดโดย นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ อดีตแกนนำ นปก.) เขาพูดจาดี มีเหตุผล เรียบร้อยไม่ดูถูกดูหมิ่นใคร แล้วเขาก็กล้าเชิญให้มาชี้แจง แต่ก็ไม่มาชี้แจง
“แต่มีประชาชนคนหนึ่งไปร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช. ที่ล่อกันมาไม่รู้จักจบ ถามว่า มีเหตุผลไหม แต่เอาเถอะ ป.ป.ช. จะอ้างอย่างนี้ก็เอา ป.ป.ช. จะเอา แต่ทำเพราะ อายที่เรื่องของตัวถูกแฉเรื่องอะไรต่าง ๆ แล้วเวลาที่พวกท่านแสดงอาการละเมิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ เอาเถอะเขาแฉกันอย่างนั้นตนไม่เอามาร่วม ไม่เป็นไร”
**ซัดป.ป.ช.ไม่จัดการASTV
นายสมัคร ตั้งคำถามกลับว่า รายการความจริงวันนี้ออกอากาศคืนละ 45 นาที สัปดาห์ละ 6 คืน กับรายการโทรทัศน์อย่าง ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมง เหมือนเรียลิตี้โชว์ ด่าทอหยาบคายว่ากล่าวต่างๆ ไม่มีใครเขียนจดหมายไปถึง ป.ป.ช. ไม่มีใครเขียนอะไรอย่างไรเลย
จากนั้นนายสมัครได้หยิบแผ่นวีซีดีจากสำนักงานตำรวจสันติบาลที่ได้บันทึกภาพและเสียงในการปราศัยบนเวทีพันธมิตรฯมาโชว์ในรายการ ซึ่งแต่ละแผ่นอยู่ในซองที่นายสมัครอ้างว่ามีการเขียนหน้าซองว่า นี่เขาส่งมาให้ตน ที่บ้านมีอีกปึ๊งหนึ่ง สูงเป็นคืบครับตนจะอ่านหน้าซองให้ฟัง คือพวกที่บรรเลงกันทั้งหลายที่อยู่สะพานมัฆวานฯ จ
ากนั้นนายสมัครได้อ่านหน้าซองวีซีดีทีละซองว่า “นี่ สนธิ ลิ้มทองกุล รัฐบาลสัตว์นรกนี้อยู่ต่อไปอีกแม้วันเดียวก็ฉิบหายแล้ว” นี่เทปนี้ เนื้อหาเขาโค้ดออกมาให้เลย นี่อย่างนี้เห็นไหม ดูนะ “สนธิ พิภพ สมศักดิ์ สมเกียรติ รัฐบาลสัตว์นรก” นี่ม้วนนี้ “สนธิ ลูกจีนรักชาติ ลูกพระยาขายชาติ นายกฯ ชาติชั่ว” นี่อย่างนี้ สุริยะใส นี่ตอนนี้ ตอนตีสอง “จำลอง สนธิ สมศักดิ์” เวลาเท่าไร ตอนค่ำ 14 เดือน 8 ตีห้าสิบเอ็ด นี่อย่างนี้แทร็ค 3 วัชระ เพ็ชรทอง ด่านายกรัฐมนตรีหยาบคายมาก
“เห็นไหมอย่างนี้ครับ ดูนี่ ๆ แหมสุดแต่จะพูด ผมจะบอกให้ท่านที่ส่งนี่มาให้ ผมได้รับนะครับ แต่บังเอิญผมได้ฟัง เมื่อคืนผมก็ได้ฟัง เมื่อคืนตื่นมาตี 3 มีอาการทำให้ซี่โครงเดาะ นอนไม่ค่อยนั่น ออกมาเปิดวิทยุฟัง ตี 3 เขาบอกว่ากำลังมีจันทรคราส จันทรคราส ใครเป็นคนบรรยาย พวกสะพานมัฆวานฯ บอกเลย อย่างนี้นี่ดับแล้ว บ้านจันทร์ส่องหล้าดับแล้ว ยกมือไชโย แล้วต่อไปอย่างไร ด่านายสมัครฯ หยาบคาย สาดเสีย เทเสีย สำนวนอย่างเมื่อสักครู่นี้ละครับ ต้องเอาสัตว์นรกนี้ออกจากทำเนียบฯ ให้ได้ รัฐบาลสัตว์นรก นี่อย่างนี้ครับ”
นายสมัคร กล่าวย้อนถามป.ป.ช.ว่า แล้วอย่างนี้ ป.ป.ช. ไม่คิดหรือว่าคนอย่าง นายกรัฐมนตรีมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ด่าหยาบ ด่าคาย ด่ามาแล้วเป็นปี เวลาจะไปจัดการเข้าเขาก็ไปร้องศาล แล้วศาลท่านก็คุ้มครอง ตัดสินบอกให้เขาทำได้ ต้องไปร้องขึ้นศาลศาลสูงสุดก็ยังคุ้มครองกันอยู่ คุ้มครองให้ด่าคนอื่น อย่างชนิดต้องฟ้องกันไม่มีวันจบ สาดเสียเทเสีย ชี้หน้าว่าไอ้รัฐบาลสัตว์นรก ต้องออกไปจากทำเนียบฯ อยู่ไปอีกวันหนึ่งบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว ถ้อยคำอย่างนี้ไม่เป็นไร
**ชมข้อมูล 3 เกลอสุดคลาสสิก
นายสมัครกล่าวต่อว่า 3 คนที่เขาพูดกันในโทรทัศน์ NBT ต้องใช้สำนวนที่คนอื่นเขาพูด ว่าข้อมูลเขาคลาสสิก อธิบายความดัง ๆ เป็นที่เข้าใจ ไม่เหยียบย่ำไม่ดูหมิ่นอะไร อธิบายด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งรายการความจริงวันนี้ เป็นรายการที่ทำดี แต่เป็นการทำดีที่อัปรีย์กินหัว เพราะถูก ป.ป.ช.ตั้งกรรมการสอบระดับชาติ แต่คำชั่วแบบชนิดด่า 24 ชั่วโมงหยาบคายนั้น มีคนปกป้องให้ เพราะมีการคุ้มครอง แต่บ้านเมืองนี้เราต้องอยู่ ต้องทนต่อไป ตนก็ต้องอยู่ ตนไม่อยากจะพูด แต่ต้องพูดให้รู้เสียว่าตนเป็นคนถือหางเสือบ้านเมืองนี้ และรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ตนทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม ให้คนไทยได้กลับมาสมัครสมานสามัคคีเป็นคนไทยเหมือนเดิม มีเจ้านายพระองค์เดียวกัน เหมือนเดิม ซึ่งทำได้ ซึ่งเป็นไปได้
ทั้งนี้ ตนแน่ใจว่าคนทั้งบ้านทั้งเมืองเป็นอย่างนี้ ส่วนคนหยิบมือหนึ่งจะทำอะไรอย่างไร สื่อสารมวลชนไหนจะถือหางคนอย่างนั้น คุณถือต่อไป คุณประโคมต่อไป ดูหมิ่นเหยียดหยามรัฐบาลต่อไป ยกย่องคนพวกนี้ต่อไป แล้ววันหนึ่งจะได้รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร
**กล่าวหาสันติอโศกปลุกระดมล้มรัฐบาล
นายสมัคร กล่าวถึงสมณะจากสันติอโศกและกองทัพธรรมที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯว่า แม้กระทั่งคนที่ว่าตัวเป็นพระก็ด่าด้วย เมื่อเช้าพระก็ด่า สมณะที่นั่นประกาศอธิบายความเลยว่าบ้านเมืองจะต้องจบ อย่างไรจะต้องอย่างไร เรียกร้องคน มาให้เป็นล้านอย่างไร ต้องเอาให้ได้ จะต้องอยู่ นับกันเลยให้กี่เดือนกี่อะไร ต้องล้มรัฐบาลนี้ให้ได้ เวลาใกล้เข้ามา พระนะ แต่งตัวอ้างว่าเป็นพระ สมณะ มีพรรคพวกอยู่เป็นแสนทั่วประเทศ ที่ปลุกระดมกันได้ ที่ตนบอกแล้วบอกอีกว่าวันหนึ่งจะยึดศาลากลางแล้วก็จะเอาทหารออกมา
นายสมัคร กล่าวอีกว่า เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของบ้านเมืองนั้นไม่ได้อยู่กับพวกท่าน แต่คนที่ท่านสั่งสมกันมา 40 ปีนี้ คณะหยุดวันพุธ กินนอนกันเกลือกกันนั่น คณะนี้ที่ถูกให้เลิกไปแล้ว ทางมหาเถรสมาคมสั่งให้จัดการ ก็ยังดื้อด้านขึ้นมาต่อสู้ แล้วมีคนไปสนับสนุน มีคนระดับที่เป็นนายพลตรีไปอยู่ข้างหลังเรื่องนี้
“แล้วจะใช้กำลังพวกนี้ล้มล้างรัฐบาลให้ได้ ผมกล่าวหาอย่างนี้เลย เพราะการสอบสวนของเรามีอยู่พร้อมหมด ทำกันไป คิดว่าทำกันไป นักรบศรีวิชัยไปทำอย่างโน้นอย่างนี้ กลางคืนผมก็นั่งนอนฟังดู ผมต้องฟังครับ ดุด่าว่ากล่าวอย่างไรผมต้องทนฟังได้ หยาบคายถ้อยคำต่างๆ ขึ้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบได้ เพราะเราแน่ใจเลยว่าศาลท่านจะมีใจเป็นธรรม ศาลท่านอาจจะไม่เคยได้ฟัง แต่ข้อความจะไปฟ้องศาลต้องมีแน่นอนครับ สนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าไอ้สัตว์นรกในนั้น มึงอยู่ต่อไปอีกวันบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว นี่สำนวนอย่างนี้ครับ ไม่เป็นไรนะครับ”
**ยังไม่คิดยุบสภาแม้ส่อหัวทิ่มจนล้ม
นายสมัคร ถึงสถานการณ์การเมืองทั้งในและนอกพรรคฯที่ถาโถมกระหน่ำรัฐบาลจนมีข่าวว่านายกฯอาจจะตัดสินใจยุบสภาว่า ตนไม่ถอยหรอก ไปบอกจะยุบสภาตนไม่หรอก ตนมีหน้าที่ทำ และเรื่องที่เกิดในพรรคพลังประชาชน เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการกันเอง เป็นเรื่องที่ตนต้องจัดการแก้ไขเอง แต่สำหรับบ้านเมืองนั้นพรรคพลังประชาชนเป็นคนดูแลให้รัฐบาลนี้อยู่ร่วมกับอีก 5 พรรคเมืองให้ดำเนินการ ต่อไป ถ้าดำเนินการต่อไปได้ครบขบวนการ ตนก็จะอยู่ให้ครบ จะมีเหตุเภทภัยที่จะทำให้ตนจะต้องหัวทิ่มล้มลุกลงไปก็สุดแท้แต่ว่าจะต้องเป็นไปอย่างนั้น ก็ต้องอย่างนั้นสั่งว่าอย่างนี้ผิดก็ต้องผิด สั่งต้องออกตนก็ต้องออก
“ผมบอกแล้วว่าผมเป็นสายการบินโลวคอสต์ ต้นทุนต่ำ เวลาเลิกไม่เป็นไร การบินไทยเลิกไม่ได้ครับ เลิกก็เรื่องใหญ่เลย แต่นกแอร์เลิกไม่เป็นปัญหา เพราะฉะนั้นก็ขอประทานโทษทั้งสองบริษัทนะครับ ยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ นะครับ”
**ชี้ปลุกระดมให้นร.ค้านรัฐสภาใหม่
นายสมัครยืนยันว่า จะเดินหน้าโครงการสร้างรัฐสภาใหม่ย่านเกียกกาย ที่เป็นที่ดินของทหารและของเอกชนบางส่วนแม้จะถูกคัดค้านจากชุมชนและนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะที่ต้องถูกย้ายไปอยู่ที่อื่น โดยคุยว่าได้เข้าไปช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการจนสำเร็จ
นายสมัคร กล่าวว่าสำหรับโรงเรียนโยธินบูรณะที่มีนักเรียนคัดค้านนั้น จะย้ายไปจากที่เกียกกาย 1,700 เมตร ไปอยู่หัวมุมถนนข้างวัดสร้อยทอง ตนไปหักคอกระทรวงกลาโหมโดยบอกเอา 25 ไร่มาเดี๋ยวไปหาที่ 30 ไร่แทนให้ ที่คิดอย่างนี้เพราะโรงเรียนโยธินบูรณะเขามี 8 ไร่ ตนบอกจะให้ 16 ไร่ให้เงิน 1,000 ล้านบาทสร้างอาคารเรียนให้ใหม่ แต่มีคนไปยุยง ปลุกระดมบอกนักเรียน ต้องเดินทางไกลขึ้น ตนถามว่าแล้วคนมาจากทางด้านบางซื่อไม่ใกล้เข้าหรือ 1,700 เมตรเท่านั้น แต่มีคนไปปลุกระดม คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานไปดูแล พูดกับผอ.โรงเรียนเพื่อให้ไปพูดกับนักเรียนเรียบร้อย แต่มีปลุกระดมนักเรียนหาว่าทำอะไรไม่หารือ ก็เรื่องอย่างนี้ทำไม่ต้องหารือ ก็คุณมี 8 ไร่ เราจะสร้างให้ใหม่ 16 ไร่
นายสมัคร กล่าวว่าจะวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งจะให้เสร็จภายในปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุ 84 พรรษา โดยภายใน 3 ปี จะก่อสร้างให้เรียบร้อย
“ที่ดินย่านเกียกกายที่จะสร้างอาคารรัฐสภาใหม่จะมีเนื้อที่ 130 ไร่ เอาครึ่งเดียวมาสร้างรัฐสภา ที่ดินอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อไปก็จะมีสะพานข้ามจาก ถ.จรัญสนิทวงศ์ มาทางถนนทหาร จะร่นซ้ายร่นขวาก็จะได้เป็นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าใครไปลอนดอน จะเห็นข้ามสะพานเวสมินเตอร์ทางซ้ายก็คือรัฐสภาอังกฤษ เราจะมีสะพานเหมือนอังกฤษอยู่ข้างรัฐสภาแต่ยังไม่ได้รับพระราชทานชื่อ หลังเซ็นสัญญาแล้วต้องกินเลี้ยงกันเพื่อแสดงความยินดีว่า 16 ปีที่จะก่อสร้างมาวันนี้จะเริ่มลงมือแล้ว”
**กลุ่มอีสานพัฒนาค้าน”หมัก” สร้างสภาใหม่
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงกรณีศิษย์เก่าและนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะ คัดค้านไม่เห็นด้วยที่จะก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่เกียกกายว่า ในฐานะศิษย์เก่า รู้สึกใจหาย แม้เป็นนโยบายของรัฐบาล และประธานรัฐสภา ที่เข้ามารับตำแหน่งได้ประกาศเป็นเรื่องแรก แต่ในส่วนของโรงเรียนนั้นตั้งมานานแล้ว ทุกคนที่เรียนที่นี่มีความ ผูกพันทางใจ จึงเห็นว่าน่าจะมีการศึกษาพื้นที่ก่อสร้างให้รอบคอบก่อน
ทั้งนี้ ตนเองจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในกลุ่มอีสานพัฒนา และศิษย์เก่าที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเยอะ เพราะเห็นว่าเร่งรีบผิดปกติ และในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ต้องตอบถามว่าการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีความจำเป็นหรือไม่
**ปชป.อัด”หมัก”ไม่สมานฉันท์จริง
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านโยบาย 116 วันเพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาตินั้น ดูเหมือนนายกฯจะภูมิอกภูมิใจ แจกแจงรายละเอียด แต่สิ่งที่จะเกิดความสมานฉันท์ไม่ได้เลย ก็คือ การออกมากล่าว ชื่นชมรายการความจริงวันนี้ ที่ชื่นชมออกหน้าออกตาว่า พูดจาดีมีเหตุผล สามารถฟาดฟันองค์กรอิสระหลายองค์กร เหมือนพูดยอมรับว่า ให้ท้ายสนับสนุนอยู่ ทั้งที่สังคมเรียกร้องให้ถอนออกเพื่อปลดชนวนความขัดแย้ง การกล่าวหาว่า ป.ป.ช.มาตรวจสอบ NBT เพราะถูกแฉในรายการนี้ ต้องแยกกัน NTB เป็นของรัฐ ส่วน ASTV เป็นของเอกชน หากอยากจะใช้สิทธิอย่าง ASTV นายกฯก็ควรไปเปิดสถานีผ่านดาวเทียมเอง
“แปลกใจที่นายกฯพูดจาท้าทายสื่อในช่วงท้ายรายการว่า ให้ถือหางม็อบไป พร้อมประกาศว่าจะไม่ถอย จะสู้ต่อไป จะไม่ยุบสภา ซึ่งเป็นการพูดจา ที่ขัดกับความจริง ที่นายกฯได้เคยพูดไว้เมื่อตอนเข้าถวายสัตย์ ว่าจะถอยทุกวิถีทาง จะไม่เป็นผู้ริเริ่ม ไม่ปะทะ แต่วันนี้กลับประกาศว่าจะไม่ถอยอีกแล้ว จึงอยากถามหาจุดยืน ว่านายกฯต้องการ อะไรกันแน่ ต้องการทำตามนโยบาย 116 วันเพื่อความสมานฉันท์จริงหรือไม่”
**พฤติกรรมนายใหญ่ยังไม่วางมือ
ส่วนการเตรียมเปลี่ยนแปลงจากพรรคพลังประชาชนไปเป็นพรรคเพื่อไทย เป็นการดำเนินการของหลายกลุ่มหลายก๊กในพรรค ที่พยายามแสดงให้เห็นว่า ใกล้ชิดนายใหญ่ จึงเกิดยุทธการแย่งชิงหัวพรรคเพื่อไทยขึ้น แย่งชิงการนำใน พรรคเท่านั้น โดยวันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งได้ชิงเปลี่ยนป้ายชื่อสาขาพรรคจากพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคเพื่อไทยแล้ว
อย่างไรก็ตามทั้งหมดอยู่ที่เงื่อนไขว่านายใหญ่จะสนับสนุนกลุ่มใดเท่านั้น และโฆษกพรรคพลังประชาชนก็ยอมรับแล้วว่าต้องรวมกลุ่มกันเพราะเรื่องทุนเป็นสำคัญ ซึ่งสังคมก็รู้ว่าใครคือนายทุนของนักการเมืองกลุ่มนี้ จึงชี้ชดได้ว่านายใหญ่ยังไม่วางมือทางการเมือง
**”ชวน”ติงการใช้ภาษากรมกร๊วก
นพ. บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้สภาพบ้านเมือง กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนแปลง หลายเหตุการณ์เป็นการดำเนินตามแผนการของรัฐบาล และพรรคพลังประชาชน ที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อแก้ปัญหาของพรรค โดยแผนการหลักคือ พยายามขัดขวางและยืดเวลากระบวนการที่จะดำเนินคดีกับพ.ต.ท. ทักษิณ และพรรคพลังประชาชน ที่ผ่านมามีความพยายามเข้าชื่อถอดถอน องค์กรอิสระ แต่พอขวางไม่สำเร็จก็พยายามร่นระยะเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อหนีคดียุบพรรค
โดยล่าสุดประธานวิปรัฐบาลเตรียมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 วาระรวด เป็นการใช้กฎหมายสูงสุดของประเทศเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ยังมีการอาศัยสื่อของรัฐเป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่มีการสอดสาระของกลุ่ม นปก. ปลุกระดมสร้างความขัดแย้ง ทางพรรค ห่วงใยอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องสถานะของ ป.ป.ช. ถึงขนาดให้ราชเลขาธิการออกหนังสือชี้แจง ซึ่งเห็นว่าเกินจุดสมควรและขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว โดยในวันที่ 18 ส.ค.นี้ นาย ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะลงนามในหนังสือถึงนาย ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงการใช้ภาษาในการจัดรายการของกรมประชาสัมพันธ์
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ถึงกรณีที่ป.ป.ช.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนอธิบดี กรมประชาสัมพันธ์ และผอ.NBT ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากปล่อยให้รายการ “ความจริงวันนี้” ดำเนินรายการละเมิดสิทธิ์ส่วนตัว ไม่ใช่สื่อมวลชนที่ดี ซึ่งตนต้อง ขอประทานโทษที่ทำให้ท่านอธิบดีฯและผอ. NBT เดือดร้อน แต่จะบอกให้ฟังว่า ตนเป็นนายกฯ มีโทรทัศน์รัฐบาลอยู่ช่องนี้ ใช้อย่างกระเหม็ดกระแหม่ คือขอใช้วันอาทิตย์ 1 วันคุย แล้วเขาก็มีภาคเอกชนมาช่วยจัดการ รายการชื่อความจริงวันนี้ (จัดโดย นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ อดีตแกนนำ นปก.) เขาพูดจาดี มีเหตุผล เรียบร้อยไม่ดูถูกดูหมิ่นใคร แล้วเขาก็กล้าเชิญให้มาชี้แจง แต่ก็ไม่มาชี้แจง
“แต่มีประชาชนคนหนึ่งไปร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช. ที่ล่อกันมาไม่รู้จักจบ ถามว่า มีเหตุผลไหม แต่เอาเถอะ ป.ป.ช. จะอ้างอย่างนี้ก็เอา ป.ป.ช. จะเอา แต่ทำเพราะ อายที่เรื่องของตัวถูกแฉเรื่องอะไรต่าง ๆ แล้วเวลาที่พวกท่านแสดงอาการละเมิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ เอาเถอะเขาแฉกันอย่างนั้นตนไม่เอามาร่วม ไม่เป็นไร”
**ซัดป.ป.ช.ไม่จัดการASTV
นายสมัคร ตั้งคำถามกลับว่า รายการความจริงวันนี้ออกอากาศคืนละ 45 นาที สัปดาห์ละ 6 คืน กับรายการโทรทัศน์อย่าง ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมง เหมือนเรียลิตี้โชว์ ด่าทอหยาบคายว่ากล่าวต่างๆ ไม่มีใครเขียนจดหมายไปถึง ป.ป.ช. ไม่มีใครเขียนอะไรอย่างไรเลย
จากนั้นนายสมัครได้หยิบแผ่นวีซีดีจากสำนักงานตำรวจสันติบาลที่ได้บันทึกภาพและเสียงในการปราศัยบนเวทีพันธมิตรฯมาโชว์ในรายการ ซึ่งแต่ละแผ่นอยู่ในซองที่นายสมัครอ้างว่ามีการเขียนหน้าซองว่า นี่เขาส่งมาให้ตน ที่บ้านมีอีกปึ๊งหนึ่ง สูงเป็นคืบครับตนจะอ่านหน้าซองให้ฟัง คือพวกที่บรรเลงกันทั้งหลายที่อยู่สะพานมัฆวานฯ จ
ากนั้นนายสมัครได้อ่านหน้าซองวีซีดีทีละซองว่า “นี่ สนธิ ลิ้มทองกุล รัฐบาลสัตว์นรกนี้อยู่ต่อไปอีกแม้วันเดียวก็ฉิบหายแล้ว” นี่เทปนี้ เนื้อหาเขาโค้ดออกมาให้เลย นี่อย่างนี้เห็นไหม ดูนะ “สนธิ พิภพ สมศักดิ์ สมเกียรติ รัฐบาลสัตว์นรก” นี่ม้วนนี้ “สนธิ ลูกจีนรักชาติ ลูกพระยาขายชาติ นายกฯ ชาติชั่ว” นี่อย่างนี้ สุริยะใส นี่ตอนนี้ ตอนตีสอง “จำลอง สนธิ สมศักดิ์” เวลาเท่าไร ตอนค่ำ 14 เดือน 8 ตีห้าสิบเอ็ด นี่อย่างนี้แทร็ค 3 วัชระ เพ็ชรทอง ด่านายกรัฐมนตรีหยาบคายมาก
“เห็นไหมอย่างนี้ครับ ดูนี่ ๆ แหมสุดแต่จะพูด ผมจะบอกให้ท่านที่ส่งนี่มาให้ ผมได้รับนะครับ แต่บังเอิญผมได้ฟัง เมื่อคืนผมก็ได้ฟัง เมื่อคืนตื่นมาตี 3 มีอาการทำให้ซี่โครงเดาะ นอนไม่ค่อยนั่น ออกมาเปิดวิทยุฟัง ตี 3 เขาบอกว่ากำลังมีจันทรคราส จันทรคราส ใครเป็นคนบรรยาย พวกสะพานมัฆวานฯ บอกเลย อย่างนี้นี่ดับแล้ว บ้านจันทร์ส่องหล้าดับแล้ว ยกมือไชโย แล้วต่อไปอย่างไร ด่านายสมัครฯ หยาบคาย สาดเสีย เทเสีย สำนวนอย่างเมื่อสักครู่นี้ละครับ ต้องเอาสัตว์นรกนี้ออกจากทำเนียบฯ ให้ได้ รัฐบาลสัตว์นรก นี่อย่างนี้ครับ”
นายสมัคร กล่าวย้อนถามป.ป.ช.ว่า แล้วอย่างนี้ ป.ป.ช. ไม่คิดหรือว่าคนอย่าง นายกรัฐมนตรีมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ด่าหยาบ ด่าคาย ด่ามาแล้วเป็นปี เวลาจะไปจัดการเข้าเขาก็ไปร้องศาล แล้วศาลท่านก็คุ้มครอง ตัดสินบอกให้เขาทำได้ ต้องไปร้องขึ้นศาลศาลสูงสุดก็ยังคุ้มครองกันอยู่ คุ้มครองให้ด่าคนอื่น อย่างชนิดต้องฟ้องกันไม่มีวันจบ สาดเสียเทเสีย ชี้หน้าว่าไอ้รัฐบาลสัตว์นรก ต้องออกไปจากทำเนียบฯ อยู่ไปอีกวันหนึ่งบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว ถ้อยคำอย่างนี้ไม่เป็นไร
**ชมข้อมูล 3 เกลอสุดคลาสสิก
นายสมัครกล่าวต่อว่า 3 คนที่เขาพูดกันในโทรทัศน์ NBT ต้องใช้สำนวนที่คนอื่นเขาพูด ว่าข้อมูลเขาคลาสสิก อธิบายความดัง ๆ เป็นที่เข้าใจ ไม่เหยียบย่ำไม่ดูหมิ่นอะไร อธิบายด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งรายการความจริงวันนี้ เป็นรายการที่ทำดี แต่เป็นการทำดีที่อัปรีย์กินหัว เพราะถูก ป.ป.ช.ตั้งกรรมการสอบระดับชาติ แต่คำชั่วแบบชนิดด่า 24 ชั่วโมงหยาบคายนั้น มีคนปกป้องให้ เพราะมีการคุ้มครอง แต่บ้านเมืองนี้เราต้องอยู่ ต้องทนต่อไป ตนก็ต้องอยู่ ตนไม่อยากจะพูด แต่ต้องพูดให้รู้เสียว่าตนเป็นคนถือหางเสือบ้านเมืองนี้ และรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ตนทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม ให้คนไทยได้กลับมาสมัครสมานสามัคคีเป็นคนไทยเหมือนเดิม มีเจ้านายพระองค์เดียวกัน เหมือนเดิม ซึ่งทำได้ ซึ่งเป็นไปได้
ทั้งนี้ ตนแน่ใจว่าคนทั้งบ้านทั้งเมืองเป็นอย่างนี้ ส่วนคนหยิบมือหนึ่งจะทำอะไรอย่างไร สื่อสารมวลชนไหนจะถือหางคนอย่างนั้น คุณถือต่อไป คุณประโคมต่อไป ดูหมิ่นเหยียดหยามรัฐบาลต่อไป ยกย่องคนพวกนี้ต่อไป แล้ววันหนึ่งจะได้รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร
**กล่าวหาสันติอโศกปลุกระดมล้มรัฐบาล
นายสมัคร กล่าวถึงสมณะจากสันติอโศกและกองทัพธรรมที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯว่า แม้กระทั่งคนที่ว่าตัวเป็นพระก็ด่าด้วย เมื่อเช้าพระก็ด่า สมณะที่นั่นประกาศอธิบายความเลยว่าบ้านเมืองจะต้องจบ อย่างไรจะต้องอย่างไร เรียกร้องคน มาให้เป็นล้านอย่างไร ต้องเอาให้ได้ จะต้องอยู่ นับกันเลยให้กี่เดือนกี่อะไร ต้องล้มรัฐบาลนี้ให้ได้ เวลาใกล้เข้ามา พระนะ แต่งตัวอ้างว่าเป็นพระ สมณะ มีพรรคพวกอยู่เป็นแสนทั่วประเทศ ที่ปลุกระดมกันได้ ที่ตนบอกแล้วบอกอีกว่าวันหนึ่งจะยึดศาลากลางแล้วก็จะเอาทหารออกมา
นายสมัคร กล่าวอีกว่า เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของบ้านเมืองนั้นไม่ได้อยู่กับพวกท่าน แต่คนที่ท่านสั่งสมกันมา 40 ปีนี้ คณะหยุดวันพุธ กินนอนกันเกลือกกันนั่น คณะนี้ที่ถูกให้เลิกไปแล้ว ทางมหาเถรสมาคมสั่งให้จัดการ ก็ยังดื้อด้านขึ้นมาต่อสู้ แล้วมีคนไปสนับสนุน มีคนระดับที่เป็นนายพลตรีไปอยู่ข้างหลังเรื่องนี้
“แล้วจะใช้กำลังพวกนี้ล้มล้างรัฐบาลให้ได้ ผมกล่าวหาอย่างนี้เลย เพราะการสอบสวนของเรามีอยู่พร้อมหมด ทำกันไป คิดว่าทำกันไป นักรบศรีวิชัยไปทำอย่างโน้นอย่างนี้ กลางคืนผมก็นั่งนอนฟังดู ผมต้องฟังครับ ดุด่าว่ากล่าวอย่างไรผมต้องทนฟังได้ หยาบคายถ้อยคำต่างๆ ขึ้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบได้ เพราะเราแน่ใจเลยว่าศาลท่านจะมีใจเป็นธรรม ศาลท่านอาจจะไม่เคยได้ฟัง แต่ข้อความจะไปฟ้องศาลต้องมีแน่นอนครับ สนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าไอ้สัตว์นรกในนั้น มึงอยู่ต่อไปอีกวันบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว นี่สำนวนอย่างนี้ครับ ไม่เป็นไรนะครับ”
**ยังไม่คิดยุบสภาแม้ส่อหัวทิ่มจนล้ม
นายสมัคร ถึงสถานการณ์การเมืองทั้งในและนอกพรรคฯที่ถาโถมกระหน่ำรัฐบาลจนมีข่าวว่านายกฯอาจจะตัดสินใจยุบสภาว่า ตนไม่ถอยหรอก ไปบอกจะยุบสภาตนไม่หรอก ตนมีหน้าที่ทำ และเรื่องที่เกิดในพรรคพลังประชาชน เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการกันเอง เป็นเรื่องที่ตนต้องจัดการแก้ไขเอง แต่สำหรับบ้านเมืองนั้นพรรคพลังประชาชนเป็นคนดูแลให้รัฐบาลนี้อยู่ร่วมกับอีก 5 พรรคเมืองให้ดำเนินการ ต่อไป ถ้าดำเนินการต่อไปได้ครบขบวนการ ตนก็จะอยู่ให้ครบ จะมีเหตุเภทภัยที่จะทำให้ตนจะต้องหัวทิ่มล้มลุกลงไปก็สุดแท้แต่ว่าจะต้องเป็นไปอย่างนั้น ก็ต้องอย่างนั้นสั่งว่าอย่างนี้ผิดก็ต้องผิด สั่งต้องออกตนก็ต้องออก
“ผมบอกแล้วว่าผมเป็นสายการบินโลวคอสต์ ต้นทุนต่ำ เวลาเลิกไม่เป็นไร การบินไทยเลิกไม่ได้ครับ เลิกก็เรื่องใหญ่เลย แต่นกแอร์เลิกไม่เป็นปัญหา เพราะฉะนั้นก็ขอประทานโทษทั้งสองบริษัทนะครับ ยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ นะครับ”
**ชี้ปลุกระดมให้นร.ค้านรัฐสภาใหม่
นายสมัครยืนยันว่า จะเดินหน้าโครงการสร้างรัฐสภาใหม่ย่านเกียกกาย ที่เป็นที่ดินของทหารและของเอกชนบางส่วนแม้จะถูกคัดค้านจากชุมชนและนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะที่ต้องถูกย้ายไปอยู่ที่อื่น โดยคุยว่าได้เข้าไปช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการจนสำเร็จ
นายสมัคร กล่าวว่าสำหรับโรงเรียนโยธินบูรณะที่มีนักเรียนคัดค้านนั้น จะย้ายไปจากที่เกียกกาย 1,700 เมตร ไปอยู่หัวมุมถนนข้างวัดสร้อยทอง ตนไปหักคอกระทรวงกลาโหมโดยบอกเอา 25 ไร่มาเดี๋ยวไปหาที่ 30 ไร่แทนให้ ที่คิดอย่างนี้เพราะโรงเรียนโยธินบูรณะเขามี 8 ไร่ ตนบอกจะให้ 16 ไร่ให้เงิน 1,000 ล้านบาทสร้างอาคารเรียนให้ใหม่ แต่มีคนไปยุยง ปลุกระดมบอกนักเรียน ต้องเดินทางไกลขึ้น ตนถามว่าแล้วคนมาจากทางด้านบางซื่อไม่ใกล้เข้าหรือ 1,700 เมตรเท่านั้น แต่มีคนไปปลุกระดม คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานไปดูแล พูดกับผอ.โรงเรียนเพื่อให้ไปพูดกับนักเรียนเรียบร้อย แต่มีปลุกระดมนักเรียนหาว่าทำอะไรไม่หารือ ก็เรื่องอย่างนี้ทำไม่ต้องหารือ ก็คุณมี 8 ไร่ เราจะสร้างให้ใหม่ 16 ไร่
นายสมัคร กล่าวว่าจะวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งจะให้เสร็จภายในปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุ 84 พรรษา โดยภายใน 3 ปี จะก่อสร้างให้เรียบร้อย
“ที่ดินย่านเกียกกายที่จะสร้างอาคารรัฐสภาใหม่จะมีเนื้อที่ 130 ไร่ เอาครึ่งเดียวมาสร้างรัฐสภา ที่ดินอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อไปก็จะมีสะพานข้ามจาก ถ.จรัญสนิทวงศ์ มาทางถนนทหาร จะร่นซ้ายร่นขวาก็จะได้เป็นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าใครไปลอนดอน จะเห็นข้ามสะพานเวสมินเตอร์ทางซ้ายก็คือรัฐสภาอังกฤษ เราจะมีสะพานเหมือนอังกฤษอยู่ข้างรัฐสภาแต่ยังไม่ได้รับพระราชทานชื่อ หลังเซ็นสัญญาแล้วต้องกินเลี้ยงกันเพื่อแสดงความยินดีว่า 16 ปีที่จะก่อสร้างมาวันนี้จะเริ่มลงมือแล้ว”
**กลุ่มอีสานพัฒนาค้าน”หมัก” สร้างสภาใหม่
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงกรณีศิษย์เก่าและนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะ คัดค้านไม่เห็นด้วยที่จะก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่เกียกกายว่า ในฐานะศิษย์เก่า รู้สึกใจหาย แม้เป็นนโยบายของรัฐบาล และประธานรัฐสภา ที่เข้ามารับตำแหน่งได้ประกาศเป็นเรื่องแรก แต่ในส่วนของโรงเรียนนั้นตั้งมานานแล้ว ทุกคนที่เรียนที่นี่มีความ ผูกพันทางใจ จึงเห็นว่าน่าจะมีการศึกษาพื้นที่ก่อสร้างให้รอบคอบก่อน
ทั้งนี้ ตนเองจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในกลุ่มอีสานพัฒนา และศิษย์เก่าที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเยอะ เพราะเห็นว่าเร่งรีบผิดปกติ และในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ต้องตอบถามว่าการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีความจำเป็นหรือไม่
**ปชป.อัด”หมัก”ไม่สมานฉันท์จริง
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านโยบาย 116 วันเพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาตินั้น ดูเหมือนนายกฯจะภูมิอกภูมิใจ แจกแจงรายละเอียด แต่สิ่งที่จะเกิดความสมานฉันท์ไม่ได้เลย ก็คือ การออกมากล่าว ชื่นชมรายการความจริงวันนี้ ที่ชื่นชมออกหน้าออกตาว่า พูดจาดีมีเหตุผล สามารถฟาดฟันองค์กรอิสระหลายองค์กร เหมือนพูดยอมรับว่า ให้ท้ายสนับสนุนอยู่ ทั้งที่สังคมเรียกร้องให้ถอนออกเพื่อปลดชนวนความขัดแย้ง การกล่าวหาว่า ป.ป.ช.มาตรวจสอบ NBT เพราะถูกแฉในรายการนี้ ต้องแยกกัน NTB เป็นของรัฐ ส่วน ASTV เป็นของเอกชน หากอยากจะใช้สิทธิอย่าง ASTV นายกฯก็ควรไปเปิดสถานีผ่านดาวเทียมเอง
“แปลกใจที่นายกฯพูดจาท้าทายสื่อในช่วงท้ายรายการว่า ให้ถือหางม็อบไป พร้อมประกาศว่าจะไม่ถอย จะสู้ต่อไป จะไม่ยุบสภา ซึ่งเป็นการพูดจา ที่ขัดกับความจริง ที่นายกฯได้เคยพูดไว้เมื่อตอนเข้าถวายสัตย์ ว่าจะถอยทุกวิถีทาง จะไม่เป็นผู้ริเริ่ม ไม่ปะทะ แต่วันนี้กลับประกาศว่าจะไม่ถอยอีกแล้ว จึงอยากถามหาจุดยืน ว่านายกฯต้องการ อะไรกันแน่ ต้องการทำตามนโยบาย 116 วันเพื่อความสมานฉันท์จริงหรือไม่”
**พฤติกรรมนายใหญ่ยังไม่วางมือ
ส่วนการเตรียมเปลี่ยนแปลงจากพรรคพลังประชาชนไปเป็นพรรคเพื่อไทย เป็นการดำเนินการของหลายกลุ่มหลายก๊กในพรรค ที่พยายามแสดงให้เห็นว่า ใกล้ชิดนายใหญ่ จึงเกิดยุทธการแย่งชิงหัวพรรคเพื่อไทยขึ้น แย่งชิงการนำใน พรรคเท่านั้น โดยวันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งได้ชิงเปลี่ยนป้ายชื่อสาขาพรรคจากพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคเพื่อไทยแล้ว
อย่างไรก็ตามทั้งหมดอยู่ที่เงื่อนไขว่านายใหญ่จะสนับสนุนกลุ่มใดเท่านั้น และโฆษกพรรคพลังประชาชนก็ยอมรับแล้วว่าต้องรวมกลุ่มกันเพราะเรื่องทุนเป็นสำคัญ ซึ่งสังคมก็รู้ว่าใครคือนายทุนของนักการเมืองกลุ่มนี้ จึงชี้ชดได้ว่านายใหญ่ยังไม่วางมือทางการเมือง
**”ชวน”ติงการใช้ภาษากรมกร๊วก
นพ. บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้สภาพบ้านเมือง กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนแปลง หลายเหตุการณ์เป็นการดำเนินตามแผนการของรัฐบาล และพรรคพลังประชาชน ที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อแก้ปัญหาของพรรค โดยแผนการหลักคือ พยายามขัดขวางและยืดเวลากระบวนการที่จะดำเนินคดีกับพ.ต.ท. ทักษิณ และพรรคพลังประชาชน ที่ผ่านมามีความพยายามเข้าชื่อถอดถอน องค์กรอิสระ แต่พอขวางไม่สำเร็จก็พยายามร่นระยะเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อหนีคดียุบพรรค
โดยล่าสุดประธานวิปรัฐบาลเตรียมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 วาระรวด เป็นการใช้กฎหมายสูงสุดของประเทศเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ยังมีการอาศัยสื่อของรัฐเป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่มีการสอดสาระของกลุ่ม นปก. ปลุกระดมสร้างความขัดแย้ง ทางพรรค ห่วงใยอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องสถานะของ ป.ป.ช. ถึงขนาดให้ราชเลขาธิการออกหนังสือชี้แจง ซึ่งเห็นว่าเกินจุดสมควรและขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว โดยในวันที่ 18 ส.ค.นี้ นาย ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ จะลงนามในหนังสือถึงนาย ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงการใช้ภาษาในการจัดรายการของกรมประชาสัมพันธ์