ปศท.แถลงผลบุกทลายเครือข่ายแหล่งผลิตแบบเรียนปลอม ยึดของกลาง 2 หมื่นเล่ม มูลค่าเกือบ 2 ล้าน-ออกหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย แหล่งซุกซ่อนส่วนใหญ่อยู่อีสาน ขณะที่ “วิสุทธิ์” เผย ยังยืนยันไม่ได้ว่าคนในกระทรวงศึกษาฯมีเอี่ยวหรือไม่ วอน ขอความร่วมมือทางโรงเรียนเข้มงวดตรวจความถูกต้องก่อนรับมอบหนังสือ
วันนี้ (1 เม.ย) เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท.แถลงข่าวการสืบสวนขยายผลจับกุมหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ วิชิรปราณีกูล รอง ผบก.ปศท.สืบสวนขยายผลจับกุมแหล่งซุกซ่อนหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ โรงพิมพ์ รวมถึงนายทุน โดยได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ ต 110/2551 ลงวันที่ 31 มี.ค.2551 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 116 หมู่ 8 บ้านไก่เถื่อน ต.หมู่ม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนหนองสำโรงวิทยา โดยพบว่า มี นายธนชาติ พุทธาวันดี อายุ 50 ปี เป็นผู้ดูแลอาคารดังกล่าว จึงนำตัวมาสอบปากคำที่ปศท.พร้อมด้วยของกลาง แบบฝึกหัด หนังสือ และแบบเรียน ชั้น ป.1-ป.6 ปลอม จำนวน 20,000 เล่ม มูลค่า 1,700,000 บาท
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลทำให้สามารถจับกุมแหล่งซุกซ่อนหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ได้จำนวนมาก และยังสืบทราบว่ากลุ่มผู้กระทำมีการทำกันเป็นขบวนการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ 1.นายเปรมกมล ทินกร ณ อยุธยา อยู่บ้านเลขที่ 44 ถ.จรัญสนิทวงศ์ 78 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.เจ้าของโรงพิมพ์ บริษัท เอเชียแปซิฟิกอ๊อฟเซต จำกัด ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีส่วนร่วมกับโรงงานทำเพลต ย่านซอยรางน้ำ โดยเป็นถึงกรรมการบริหาร ซึ่งโรงงานทำเพลทย่านซอยรางน้ำ เป็นโรงงานที่ผลิตหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ 2.นายวรพันธุ์ ทรัสติยา อยู่บ้านเลขที่ 21/58 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.กรรมการบริหารของโรงทำเพลทย่านซอยรางน้ำ และที่ โรงงานเลขที่ 54/3 ม.10 ถ.เทพารักษ์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นจับกุมเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง นายวรพันธุ์ ได้สั่งให้ทางโรงพิมพ์เผาหนังสือเพื่อทำลายหลักฐานแต่เผาไม่หมด
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีก 1 รายเป็นอยู่ระหว่างการขอออกหมายจับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นตัวการที่เป็นผู้สั่งให้ นายวรพันธุ์ จัดพิมพ์หนังสือออกมา ซึ่งตัวการรายนี้อยู่ทางภาคอีสาน และเป็นผู้ที่รู้ช่องทางของหนังสือเป็นอย่างดี ขณะนี้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนในกระทรวงศึกษาธิการมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ต้องมีการสืบสวนขยายผลต่อไป ทั้งนี้อยากประชาสัมพันธ์ถึงโรงเรียนหรือร้านจำหน่ายหนังสือว่าหากรับหนังสือมาจะต้องขอดูใบเสร็จจากองค์การค้าคุรุสภา เพราะถ้าไม่มีแสดงว่าเป็นหนังสือแบบเรียนปลอม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 3 รายแล้วโดยแจ้งข้อหาว่า ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า ด้วยการขาย เสนอขาย มีไว้เพื่อขาย ซึ่งงานวรรณกรรม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-4 ปี ปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (1 เม.ย) เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท.แถลงข่าวการสืบสวนขยายผลจับกุมหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ วิชิรปราณีกูล รอง ผบก.ปศท.สืบสวนขยายผลจับกุมแหล่งซุกซ่อนหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ โรงพิมพ์ รวมถึงนายทุน โดยได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ ต 110/2551 ลงวันที่ 31 มี.ค.2551 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 116 หมู่ 8 บ้านไก่เถื่อน ต.หมู่ม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนหนองสำโรงวิทยา โดยพบว่า มี นายธนชาติ พุทธาวันดี อายุ 50 ปี เป็นผู้ดูแลอาคารดังกล่าว จึงนำตัวมาสอบปากคำที่ปศท.พร้อมด้วยของกลาง แบบฝึกหัด หนังสือ และแบบเรียน ชั้น ป.1-ป.6 ปลอม จำนวน 20,000 เล่ม มูลค่า 1,700,000 บาท
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลทำให้สามารถจับกุมแหล่งซุกซ่อนหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ได้จำนวนมาก และยังสืบทราบว่ากลุ่มผู้กระทำมีการทำกันเป็นขบวนการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ 1.นายเปรมกมล ทินกร ณ อยุธยา อยู่บ้านเลขที่ 44 ถ.จรัญสนิทวงศ์ 78 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.เจ้าของโรงพิมพ์ บริษัท เอเชียแปซิฟิกอ๊อฟเซต จำกัด ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีส่วนร่วมกับโรงงานทำเพลต ย่านซอยรางน้ำ โดยเป็นถึงกรรมการบริหาร ซึ่งโรงงานทำเพลทย่านซอยรางน้ำ เป็นโรงงานที่ผลิตหนังสือแบบเรียนละเมิดลิขสิทธิ์ 2.นายวรพันธุ์ ทรัสติยา อยู่บ้านเลขที่ 21/58 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.กรรมการบริหารของโรงทำเพลทย่านซอยรางน้ำ และที่ โรงงานเลขที่ 54/3 ม.10 ถ.เทพารักษ์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นจับกุมเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง นายวรพันธุ์ ได้สั่งให้ทางโรงพิมพ์เผาหนังสือเพื่อทำลายหลักฐานแต่เผาไม่หมด
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีก 1 รายเป็นอยู่ระหว่างการขอออกหมายจับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นตัวการที่เป็นผู้สั่งให้ นายวรพันธุ์ จัดพิมพ์หนังสือออกมา ซึ่งตัวการรายนี้อยู่ทางภาคอีสาน และเป็นผู้ที่รู้ช่องทางของหนังสือเป็นอย่างดี ขณะนี้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนในกระทรวงศึกษาธิการมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ต้องมีการสืบสวนขยายผลต่อไป ทั้งนี้อยากประชาสัมพันธ์ถึงโรงเรียนหรือร้านจำหน่ายหนังสือว่าหากรับหนังสือมาจะต้องขอดูใบเสร็จจากองค์การค้าคุรุสภา เพราะถ้าไม่มีแสดงว่าเป็นหนังสือแบบเรียนปลอม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 3 รายแล้วโดยแจ้งข้อหาว่า ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า ด้วยการขาย เสนอขาย มีไว้เพื่อขาย ซึ่งงานวรรณกรรม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-4 ปี ปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
