“สนธิ” เฉ่ง ตร.-อัยการ รับใช้ระบอบทักษิณยื้อ “ตุลาการภิวัฒน์”

“สนธิ” อัด ตำรวจ-อัยการ ยังรับใช้ระบอบทักษิณ เตะถ่วงคดี ทำให้ตุลาการทำงานได้ไม่เต็มที่ ยกตัวอย่างกรณี “เพ็ญ” จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงผ่านมากว่า 6 เดือน จนวันนี้ยังไม่ถึงไหน แถมยังปล่อยให้เขียนบทความโจมตีอย่างต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระบุสาเหตุที่ “แม้ว” มีชะตากรรมแบบนี้ เพราะประเมินการเคลื่อนไหวของประชาชนผิดหมด

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

วันนี้ (14 ส.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตั้งคำถามว่า เวลานี้หลายคนระบุว่า ตุลาการภิวัฒน์ แต่ถ้าตำรวจและอัยการยังไม่ทำงานยังอยู่ในระบอบทักษิณ ตุลาการก็ทำอะไรไม่ได้ และที่ผ่านมา ที่ตุลาการภิวัฒน์ทำงาน เพราะการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ฝ่ายรัฐบาลหุ่นเชิดและพรรคพลังประชาชนพยายามจะยุบทิ้งมาตลอด

นายสนธิ ได้ยกตัวอย่างเปรียบกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข พูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่ไปพุดที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2550 หลังจากนั้น ตำรวจไม่ทำอะไร หรือพยายามเตะถ่วงมาตลอด แม้ว่าจะมีผู้ไปแจ้งความดำเนินคดีถึงสองครั้ง แต่คดีก็ยังไม่ไปถึงไหน และจนบัดนี้เวลาผ่านมากว่า 6 เดือนแล้วคดีก็ยังไม่มีการส่งฟ้องถึงมืออัยการเลย

นายสนธิ ได้เปรียบเทียบกับคดีของตัวเอง กรณีที่มาเปิดโปง ดา ตอร์ปิโด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้ว ต่อมาถูกแจ้งความดำเนินคดี พอตกบ่ายวันเดียวกันตำรวจเสนอออกหมายจับทันที และเรื่องนี้ถ้าตนเองไม่นำมาเปิดโปงตำรวจก็ไม่ทำอะไร และที่ผ่านมา ดา ตอร์ปิโด คนเดียวกันนี้ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนหน้านี้อีก 2 ครั้ง แต่ตำรวจก็ไม่ยอมดำเนินการอะไรจนถึงบัดนี้ พร้อมทั้งตำหนิตำรวจที่ปล่อยให้หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ตีพิมพ์บทความของ กาหลิบ ซึ่งเป็นนามปากกาของ นายจักรภพ เพ็ญแข จาบจ้วงสมเด็จพระราชินี อย่างต่อเนื่องถึง 3 วัน

แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้ ย้ำว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะอยู่หรือไม่อยู่เมืองไทยไม่สำคัญ เพราะเครือข่ายของเขายังอยู่กันครบ และวันดีคืนดี ส.ส.พรรคพลังประชาชน อาจเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องมาล้างสังคมใหม่ ไม่เช่นนั้น ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไม่รอดแน่

นายสนธิ ยังตั้งข้อสังเกตกรณีหนังสือพิมพ์บอสตันโกลบ ที่เขียนถึง พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีที่มีการหลบหนีคดี และประวัติส่วนตัวด้วย โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ มักชอบอ้างเรื่องประชาธิปไตย แต่ไม่มีเนื้อหา มีการซื้อเสียงจากรากหญ้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าฝรั่งก็เข้าใจแล้วว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่หมายถึงการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว

นายสนธิ ย้ำว่า สื่อต้องทำหน้าที่เป็นเทียนส่องสว่างในยามที่สังคมมืดมิด พร้อมทั้งตำหนิสื่อมวลชนส่วนใหญ่ที่ทำลายบ้านเมือง ดังนั้น ถ้าจะปฏิรูปบ้านเมืองก็ต้องปฏิรูปสื่อก่อน

นายสนธิ กล่าวว่า กรณีคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เดินไปได้เร็วขนาดนี้ ถ้าเขาไม่เดินทางกลับเข้ามา เพราะถ้าไม่กลับมา ศาลจะจำหน่ายคดีชั่วคราว เนื่องจากจำเลยไม่มาปรากฏตัว แต่เนื่องจากการกลับเข้ามาด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น พรรคพลังประชาชนของเขาที่เขาดำเนินการให้ชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล มีรัฐมนตรีบางคน เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่รับปากว่า สามารถจัดการกับตัวเขาได้ มั่นใจว่า ซื้อคอลัมนิสต์หลายคนได้ ดูถูกพันธมิตรฯและประชาชน ว่า ไม่สามารถรวมตัวกันได้แล้ว แต่ทุกอย่างเป็นการคาดการณ์ผิดหมด ทุกอย่างเป็นตรงกันข้าม ดังนั้น ขอให้พี่น้องทุกคนจงภูมิใจว่าได้ปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เอาไว้